เหล็กไหลเงินยวง ธาตุกายสิทธิ์ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์

เหล็กไหลเงินยวง หรือ เหล็กไหลชีปะขาว

เหล็กไหลเงินยวง มักพบเห็นในที่เย็นจัด คือ แถบที่มีหิมะปลกคลุม อย่างเช่นในแถบประเทศเนปาล หรือ ทิเบต  ดังนั้นจึงไม่ค่อยพบในประเทศไทย  คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า เหล็กไหลต้องมีสีดำเท่านั้น  แต่เหล็กไหลชนิดนี้มีสีสันที่แปลกแตกต่างไปจากเหล็กไหลโดยทั่วไป  เพราะมีสีขาวเงินยวงเหมือนปรอท เหมือนโลหะแวววาว  บางชิ้นผิวพรรณดูคล้ายเกล็ดงู  จะเรียกว่า ” นางพญางูขาว หรือ นางพญางูเผือก ” เหล็กไหลประเภทนี้ไม่ค่อยเสพน้ำผึ้ง แต่จะชอบอาบแสงจันทร์  มีอิทธิฤทธิ์ทางด้านมายาภาพ และสามารถปรับอุณหภูมิรอบๆตัวให้เหมาะสมได้ เด่นในทางล่องหนหายตัว เป็นแคล้วคลาด ไม่ต้องเจอกับเหตุเภทภัยอันตรายใดๆ

เหล็กไหลเงินยวง ( เหล็กไหลชีปะขาว )

เหล็กไหลเงินยวงเป็นเหล็กไหลที่นักบวชทางเหนือ และพวกลามะทิเบต นิยมพกติดตัวไว้เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ใช้ในการปกป้องคุ้มครอง และใช้ในการแสดงฤทธิ์ เช่น ใช้ทำน้ำมนต์ หรือ เป็นเครื่องเพิ่มกระแสจิตให้กับตังเอง  แต่หากถึงคราวที่ผู้ครอบครองหมดอายุขัย หรือ ประพฤติตัวไม่เหมาะสม  เหล็กไหลชนิดนี้ก็จะล่องหนหายตัวไป  จึงจัดเป็นเหล็กไหลอีกชนิดที่หาได้ยากมาก  น้อยคนนักที่จะรู้จัก หรือ เคยได้พบเห็น  เหล็กไหลชนิดนี้มีลักษณะคล้ายเหล็กไหลตัดเย็น  มีรูปทรงยาวมนรี ทรงหนำเลี๊ยบ สามารถเก็บมาเฉยๆ ได้โดยไม่ต้องตัด ที่เป็นก้อนฝังอยู่ในใต้ดินก็มีเช่นกัน  ต้องใช้จิตตรวจดูจึงทราบได้  โดยมากเหล็กไหลชนิดนี้มักมีญาณของชีปะขาว หรือ คนธรรพ์รักษาดูแลอยู่  จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ” เหล็กไหลชีปะขาว “

นอกจากนี้ผู้ที่มีวิชาอาคม ด้านการเล่นแร่แปรธาตุ ยังสามารถดักล่อพรายปรอทจากอากาศ  แล้วนำมากลิ้งเป็นรูปทรง จนปรอทนั้นกลายเป็นของแข็ง  ปรอทก็จะกลายเป็น เหล็กไหลเงินยวงได้เช่นเดียวกัน  เหล็กไหลเงินยวงจึงมีอานุภาพสูง สามารถเป็นได้ทั้งสามสถานะ คือ ของแข็ง  ของเหลว  และก๊าซ  อันเป็นคุณสมบัติของแร่ปรอทนั่นเอง  วิชาปรอทเป็นวิชาที่สามารถนำมาใช้ควบคู่กับ วิชาเหล็กไหลได้  ดังนั้นใครที่มีวิชาตัดเหล็กไหลได้  ก็จะสามารถดักล่อปรอทในธรรมชาติได้ด้วยเช่นกัน