พระราหูอมจันทร์ กะลาตาเดียว
ครูบานันตา วัดทุงม่านใต้ ลำปาง
เราอาจเคยได้ยินคำทำนายทายทักกันว่า ช่วงนี้ให้ระวัง..เพราะพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก พระราหูเสวยอายุคุณอีกต่างหาก อาจทำให้ถึงขั้นก่ายหน้าผากกันได้หากโดนทักอย่างนี้ จากความเชื่อเรื่องโชคลาง การทำนายทายทัก จึงก่อให้เกิดการแก้เคล็ด เพื่อแก้จากเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี โดยการบูชาเทวดานพเคราะห์ตามวันที่เราเกิด รวมถึงเทวดาที่อาจบันดาลสุข หนึ่งในความเชื่อที่ผู้คนบูชาคือ “พระราหู” หากจะกล่าวถึง พระราหู กับความเชื่อของคนไทย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก พระราหูโด่งดังขึ้นมาในระดับต้นๆ ของการบูชาเทพไท้เทวา อีกทั้งมีการนำมาประยุคต์เข้ากับพิธีกรรมสืบชะตา สะเดาะพระเคราะห์ และจัดสร้างวัตถุมงคลมากมายของบรรดาเกจิอาจารย์ ตั้งแต่โบราณเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน.
พระราหูกับตำนานความเชื่อ
ในคัมภีร์พระเวทได้กล่าวไว้ว่า “พระราหู คือเทพอสูร ที่เป็นอมตะไม่มีวันตาย ” เพราะตอนที่เหล่าทวยเทพทำพิธีกวนน้ำอมฤตในเกษียรสมุทร(ทะเลน้ำนม) อันเป็นที่ประทับขององค์พระนารายณ์ พระราหู ได้แปลงกายเป็นเทวดาแฝงตัวเข้าไปอยู่ในพิธีกรรมด้วย เพราะมิได้รับเชิญ พอน้ำอมฤตเสร็จ ลอยขึ้นมาจากสะดือทะเล แล้วพระราหูก็รอบเข้าไปดื่มกินก่อน พระนารายณ์รับรู้เข้าก็ขว้างจักรไปต้องลำตัวของพระราหู ทำให้ขาดจากกันเป็นสองท่อน ซึ่งพระราหูนั้นเดิมทีมีหัวเป็นยักษ์ ลำตัวเป็นมนุษย์ ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปเป็นงู เมื่อโดนตัดด้วยจักรพระนารายณ์ ท่อนล่างจึงหลุดลอยไปในอากาศ กลายเป็นพระเกตุเทวา ส่วนพระราหูก็เหลือแต่ท่อนบนเท่านั้น , พระราหู จึงผูกอาฆาตโกรธแค้น พระสุริยะเทพ และพระจันทราเทพมาก ที่เอาความไปบอกแก่ พระนารายณ์ ให้ล่วงรู้ในเรื่องที่ตนเอง ดื่มกินน้ำอมฤตเข้าไป ดังนั้นในเวลาที่พระราหู เจอ พระอาทิตย์ หรือพระจันทร์คราวใด ก็จะจับกินเสียทุกทีไป จึงได้เกิดคติความเชื่อเรื่องสุริยุปราคา และจันทรุปราคาขึ้น.
ราหูอมจันทร์
ในคัมภีร์โหราศาสตร์ถือว่า เมื่อบุคคนใดที่พระราหูเสวยอายุในช่วงเวลานั้น จะเกิดความรุ่มร้อน มีเคราะห์กรรม จะต้องแก้ไข ทำพิธีรับดาวและแก้เคล็ด จึงจะกลับร้ายกลายเป็นดี ซึ่งในคัมภีร์ทางไสยศาสตร์ ได้มีการสร้างหลักวิชาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับคนเชื่อเรื่องพระราหู ช่วยในการแก้ไขดวงชะตา ในความเชื่อว่า ต้องการค้านฤทธิ์อำนาจด้านมืดของพระราหู เอาพลังด้านดีมาช่วยส่งเสริมชะตาชีวิต เรียกว่า “เลี่ยงลางร้ายรับลางดี” จึงมีการสร้างเครื่องรางออกมาในรูปแบบพระราหูอมจันทร์ ซึ่งนิยมทำจากกะลามะพร้าวตาเดียวแกะสลัก ที่เรียกกันว่า “กะลาตาเดียวพระราหูอมจันทร์”
กะลาตาเดียวราหูอมจันทร์
เหตุที่ต้องใช้กะลาตาเดียว เพราะถือเป็นของทนสิทธิ์ มีดีในตัว และหายาก , การนำกะลามาแกะเป็นพระราหูนั้น มีการแกะทั้งลูก และแกะเป็นหลายชิ้น จะได้จำนวนมากน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนที่ต้องการ และขนาดกะลาด้วย เมื่อแกะลวดลายเป็นพระราหูอมจันทร์ ขัดแต่งให้สวยงามแล้ว ตามตำราเกจิที่สร้างจะนำมาลงอักขระเลขยันต์ ซึ่งไม่ใช่ของง่าย เพราะต้องทำในช่วงเกิดสุริยะคราสและจันทรคราสก่อน แล้วเพ่งมองดูเงาดับที่เข้าจับพระอาทิตย์และพระจันทร์ จากนั้นใช้เหล็กจารลงอักขระไปบนกะลา หลังจากนั้นเกจิอาจารย์ ท่านจะนำไปปลุกเสกอีกครั้ง จนมั่นใจในความเข้มขลัง แล้วจึงนำออกแจกจ่ายให้บูชา ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ถือเป็นผู้มีบุญ ได้รับกุศลยิ่งนักแล…
การบูชาวัตถุมงคลใดๆต้องมี ศรัทธา บารมีจึงเกิดผล จงหมั่นสร้างแต่ความดี ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กตัญญูรู้คุณของพ่อแม่ และครูอาจารย์ที่อบรมสอนสั่ง อันมีคุณพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง การบูชาจึงสัมฤทธิ์ผลตามความเชื่อที่โบราณกาลพาทำสืบเนื่องมา…