สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์ รุ่น มหาเศรษฐีมีสุข หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง ปี 52

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์ พิมพ์โพธิ์ 9 ใบ หลังพระแม่โพสพ

รุ่น มหาเศรษฐีมีสุข หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง ปี 52

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์ รุ่น มหาเศรษฐีมีสุข หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง ปี 52

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์ เทพแห่งโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ ความสำเร็จ มั่งมีศรีสุข พิมพ์โพธิ์ 9 ใบ หลังพระแม่โพสพ รุ่น มหาเศรษฐีมีสุข ฝังตะกรุดสามกษัตริย์ พลอยเสก เส้นเกศาหลวงปู่.

องค์นี้เป็น องค์ครู จากชุดกรรมการ ตอกโค๊ตใต้ฐาน สร้างเพียง 276 ชุดเท่านั้น ฉลองครบรอบ 76 ปี หลวงพ่อทองคำ อินฺทวํโส วัดถ้ำตะเพียนทอง จ.ลพบุรี.

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์ รุ่น มหาเศรษฐีมีสุข หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง ปี 52

พิธีพุทธาภิเษก

พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดถ้ำตะเพียนทอง เมื่อ 16 สิงหาคม 2552. ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกโดย หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน อยุธยา , หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก อยุธยา , หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดง อยุธยา , หลวงพ่อเสน่ห์จันทร์ วัดจันทรังษี ขอนแก่น และพระพิธีธรรมสวดพุทธาภิเษก 4 รูปจากวัดระฆังฯ.

ขนาดองค์พระ 3.5 x 5.5 Cm.

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์ รุ่น มหาเศรษฐีมีสุข หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง ปี 52

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์

องค์นี้มีความพิเศษ มีทั้งข้าวสารก้นบาตร และเกศาหลวงปู่ด้วย

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์

สมเด็จชนะมารบันดาลทรัพย์

 หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง

หลวงพ่อทองคำ วัดถ้ำตะเพียนทอง

พระสมเด็จ พิมพ์ปรกโพธิ์ เนื้อแก่ปูน

พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า

พระสมเด็จบางขุนพรหมเป็นพระในสกุล “พระสมเด็จวัดระฆัง” ที่สร้างโดย เสมียนตาเจิม และปลุกเสกโดยสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี เป็นที่พึงปรารถนาแก่ประชาชนที่เคารพกราบไหว้พระเดชพระคุณอันประเสริฐของท่าน นับวันวัตถุมงคลนี้กำลังจะหายากยิ่ง และราคาก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน  เราเองเป็นผู้หนึ่งที่เคารพบูชาท่าน และได้มีโอกาศครอบครองพระในสกุลพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จบางขุนพรหมหลายรุ่น จึงได้พยายามศึกษาค้นคว้าประวัติของสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี และการสร้างพระสมเด็จ เทียบเคียงกันทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นมากับหลักการทางวิทยาศาสตร์ และร่วมศึกษาหาความรู้ด้วยกันกับท่านทั้งหลาย เพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทาน.

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

การสร้างพระสมเด็จของ สมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี 

ปี พ.ศ. 2410 สมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี ท่านได้เริ่มสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางโปรดสัตว์ (ยืนอุ้มบาตร) โดยใช้ซุงทั้งต้นเป็นฐานราก และดูแลการก่อสร้างด้วยตัวท่านเองที่วัดอินทรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ท่านได้จำพรรษาอยู่เมื่อครั้งยังเป็นสามเณร  ในระหว่างการก่อสร้างเสมียนตราด้วง ต้นสกุล ธนโกเศรฐ และเครือญาติได้ปวารณาตนเองเป็นโยมอุปัฏฐากของสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี.

ถึงปี พ.ศ. 2411″ เสมียนตราด้วง” ต้นสกุล “ธนโกเศศ” ได้ทำการบูรณะพระอารามวัดใหม่อมตรส และปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ไว้เพื่อเป็นมหากุศล และเป็นพระเจดีย์ประจำตระกูล  ตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น โดยได้สร้างพระพระเจดีย์ขึ้นสององค์ องค์ใหญ่เพื่อบรรจุพระพิมพ์ต่างๆ ตามโบราณคติในอันที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนา และสร้างเจดีย์องค์เล็กเพื่อบรรจุอัฐิธาตุบรรพระบุรุษ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2411  จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2413 จึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงได้กราบนมัสการขอความเห็นจากสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี ในการสร้างพระสมเด็จ เพื่อสืบทอดทางพุทธศาสนา และเป็นการสร้างมหาบุญแห่งวงศ์ตระกูล  สมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี ท่านได้ให้อนุญาติ และมอบผงวิเศษที่ใช้ในการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังของท่านให้ส่วนหนึ่ง (จากบทความของนายกนก สัชฌุกร ที่ได้สัมภาษณ์ท่านเจ้าคุณธรรมถาวร ตอนมีชีวิตยุคสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี  ได้ความว่า ได้ผงวิเศษประมาณครึ่งบาตรพระ และทุกครั้งที่ตำในครก ท่านเจ้าประคุณสมเด็จจะโรยผงวิเศษของท่านมากบ้างน้อยบ้าง ตามอัธยาศัย จนกระทั่งแล้วเสร็จ) เมื่อได้ผงวิเศษแล้ว เสมียนตราเจิม และทีมงานก็ได้จัดหามวลสารต่างๆ ตรงตามตำราการสร้างพระสมเด็จของ สมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี ทุกประการ.

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

การแกะแม่พิมพ์พระสมเด็จของสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี 

ในเรื่องของการสร้างพิมพ์ขึ้นมาใหม่นั้น มีการจัดสร้าง และแกะแม่พิมพ์แม่แบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดจำนวน 9 พิมพ์ เป็นพิมพ์ชิ้นเดียวตัดขอบและปาดหลัง โดยฝีมือของช่างสิบหมู่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ แต่น่าจะเป็นคนละทีมกับช่างที่แกะแม่พิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง แต่เนื่องด้วยเป็นฝีมือช่างในยุคเดียวกัน มีศิลปะในสกุลช่างเดียวกัน และต้นแบบที่สำคัญคือพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง ดังนั้นพระสมเด็จบางขุนพรหม จึงมีความสวยงามใกล้เคียงกันกับพระสมเด็จวัดระฆังเป็นอย่างยิ่ง.

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พิมพ์พระสมเด็จบางขุนพรหมทั้ง9พิมพ์

1 . พิมพ์ใหญ่

2 . พิมพ์ทรงเจดีย์

3 . พิมพ์เกศบัวตูม

4 . พิมพ์เส้นด้าย

5 . พิมพ์ฐานแซม

6 . พิมพ์สังฆาฏิ

7 . พิมพ์ปรกโพธิ์

8 . พิมพ์ฐานคู่

9 . พิมพ์อกครุฑ

จำนวนที่จัดสร้าง สันนิษฐานกันว่า 84,000 องค์ เท่ากับพระธรรมขันธ์ พระสมเด็จที่สร้างเสร็จจะมีเนื้อขาวค่อนข้างแก่ปูน.

การปลุกเสกโดยสมเด็จพุฒจารย์(โต) พรหมรังสี ได้เจริญพระพุทธมนต์ และปลุกเสกเดี่ยว จนกระทั่งบริบูรณ์ด้วยพระสูตรคาถา.

เมื่อผ่านพิธีปลุกเสกเป็นที่สุดแล้ว ได้มีการเรียกชื่อพระสมเด็จนี้ว่า “พระสมเด็จบางขุนพรหม” ตามตำบลของของที่ตั้งพระเจดีย์ และได้ถูกนำเข้าบรรจุกรุในพระเจดีย์ใหญ่ และพระเจดีย์เล็กทั้งสิ้น ไม่มีการแจกจ่ายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง รวมทั้งมีข้อสันนิษฐานว่า ได้นำพระสมเด็จวัดระฆังลงบรรจุกรุด้วย ดังที่หลายๆท่านนิยมเรียกกันว่า “กรุสองคลอง”

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

การลักลอบเปิดกรุพระสมเด็จ และการตกพระ

หลังจากที่ได้บรรจุพระสมเด็จไว้ในพระเจดีย์ทั้งสองแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2413 จนกระทั่งเกิดวิกฤตกับประเทศในกรณีพิพาทกับประเทศฝรั่งเศษ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และนกรณีพิพาทอินโดจีน ได้มีการลักลอบเปิดกรุถึงสามครั้ง คือครั้งที่1 พ.ศ. 2425 , ครั้งที่2 พ.ศ. 2436 และครั้งที่3 พ.ศ. 2459

ในการลักลอบเปิดกรุทั้งสามครั้งนั้น ผู้ลักลอบได้ใช้วิธีต่างๆเช่น การตกเบ็ด โดยใช้ดินเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมๆ ติดกับปลายเชือก หย่อนเข้าไปทางรูระบายอากาศ ติดพระแล้วดึงขึ้นมา การใช้น้ำกรอกเข้าไปทางรูระบายอากาศ เพื่อให้น้ำไปละลายการเกาะยึดขององค์พระเป็นต้น ซึ่งการลักลอบเปิดกรุทั้งสามครั้งนั้น  พระสมเด็จที่อยู่บนส่วนบนจึงสวย มีความสมบูรณ์  นักนิยมพระสมเด็จเรียกกันว่า “พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า” ซึ่งลักษณะของวรรณะจะปรากฏคราบเพียงเล็กน้อย หรือบางๆเท่านั้น พิมพ์คมชัดสวยงาม เนื้อหนึกนุ่มละเอียด มีน้ำหนัก และแก่ปูนพระสมเด็จบางขุนพรหม.

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

ารเปิดกรุพระสมเด็จอย่างเป็นทางการ

ท้ายที่สุดคือการลักลอบขุดกรุที่ฐานในปี พ.ศ. 2500 วิธีนี้ได้พระไปเป็นจำนวนมาก(เป็นที่มาของพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุธนา เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรง ของพระภิกษุวงศ์ สุธรรมโม หรือพระอาจารย์จิ้ม กันภัย ได้ใจความว่า ในตอนกลางคืนฝนตกไม่หนักมากนัก นักเลงพระทางภาคเหนือ ได้ร่วมกันลักลอบเจาะที่บริเวณใกล้ฐานของพระเจดีย์พอตัวมุดเข้าไปได้  และได้นำพระออกไปได้เป็นจำนวนมาก จนหิ้วพระไม่ไหว ประกอบกับกลัวเจ้าหน้าที่จะพบเห็น จึงทิ้งไว้ข้างวัดก็หลายถุง มีบุคคลผู้หนึ่งชื่อธนา บ้านอยู่ละแวกวัด ได้เก็บพระชุดนี้ไว้เป็นจำนวนมาก  จะเก็บได้จากผู้ที่ลักลอบทิ้งไว้ หรือซื้อมาก็มิอาจทราบได้  แต่ภายหลังได้ขายให้กับ คุณแถกิงเดช คล่องบัญชี ซึ่งเป็นศิษย์ของท่านเอง และต่อมาได้เขียนหนังสือร่วมกับนายสุคนธ์ เพียรพัฒน์ เรื่อง”สี่สมเด็จ ” ซึ่งพระสมเด็จบางขุนพรหมที่ซื้อมามีทั้งที่สวยงาม มีคราบกรุน้อย และคราบกรุหนาจับกันเป็นก้อนก็มี) จนกระทั่งทางวัดใหม่อมตรส ได้ติดต่อกรมศิลปากรเข้ามาดูแล และเปิดกรุอย่างเป็นทางการโดยเชิญ พลเอกประภาส จารุเสถียร เป็นประธานในพิธีเปิดกรุเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 พระที่นำออกมาครั้งนั้น นักนิยมพระสมเด็จเรียกกันว่า “พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุใหม่”

เมื่อนำออกมาคัดแยก คงเหลือพระที่มีสภาพดี สวยงาม เพียง 3000 องค์เศษเท่านั้น ที่เหลือจับกันเป็นก้อน หักชำรุดแทบทั้งสิ้น ลักษณะของวรรณะส่วนใหญ่จะมีคราบกรุค่อนข้างหนา และจับเป็นก้อน ที่สภาพดีจะพบว่าผิวของพระเป็นเกร็ดๆทั่วทั้งองค์ หรือที่เรียกว่าเหนอะ มีคราบไขขาว ฟองเต้าหู้ คราบขี้มอด จะตั้งชื่อหรือเรียกว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ล้วนเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างน้ำกับปูน และเนื้อมวลสารที่เป็นองค์ประกรอบของพระสมเด็จทั้งสิ้น ทั้งสภาพเปียกชึ้น ร้อน เย็น และถูกแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานกับดินโคลนเป็นต้น  แต่แปลกตรงที่ว่า “พระสมเด็จบางขุนพรหม” เมื่อถูกใช้ซักระยะเนื้อจะเริ่มหนึกนุ่ม ใกล้เคียงกับ”พระสมเด็จวัดระฆัง” เป็นอย่างยิ่ง.

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พิมพ์นิยม กับ พระสมเด็จบางขุนพรหม

ในเรื่องของทรงพิมพ์ที่เรียกกันว่า พิมพ์นิยม 9 พิมพ์นั้น พิมพ์ที่พบน้อยที่สุดคือ พิมพ์ปรกโพธิ์ กล่าวกันว่ามีไม่ถึง 20 องค์ และที่สำคัญยังพบพิมพ์ไสยาสน์อีกหลายแบบ มีประมาณไม่เกิน 22 องค์ ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยาก  ในส่วนของกรุพระเจดีย์เล็ก นักเลงพระในยุคนั้น ไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่ปรากฏว่าหลังจากเปิดกรุก็ได้พบพระสมเด็จอยู่มากมาย นับได้เป็นพันองค์ ทรงพิมพ์ที่พบได้แก่ พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์ฐานหมอน พิมพ์สามเหลี่ยม(หน้าหมอน) พิมพ์จันทร์ลอย ลักษณะของวรรณะคราบกรุจะไม่มาก จะมีความสวยงามกว่ากรุพระเจดีย์ใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันหาดูได้ยาก เช่นกัน.

พระสมเด็จ พิมพ์ปรกโพธิ์ เนื้อแก่ปูน

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จบางขุนพรหม กับ ตราประทับ

หลังจากการเปิดกรุอย่างเป็นทางการ ทางวัดได้ประทับตราที่ด้านหลังขององค์พระ เพื่อป้องกันการปลอม เรีกกันว่า “ตราน้ำหนัก” และจำหน่ายในราคามากพอสมควร แต่ก็หมดลงในเวลาไม่นานนัก ในช่วงเวลาดังกล่าว พระที่ถูกขโมยออกจากกรุไป กลับมาจำนวนมาก โดยที่ประมาณในกรุมีทั้งหมด 84,000องค์ เปิดกรุได้ 3000 เศษ (แต่ให้บูชาได้  2750 องค์ พระหาย) ชำรุดประมาณไม่เกิน 1000 องค์ เท่ากับว่า พระหายออกจากกรุประมาณ 70,000 องค์ และกลับมาในเวลาดังกล่าวส่วนหนึ่ง โดยให้คนเข้าไปในวัดแล้วเช่าพระออกมาดูตราน้ำหนักของวัด แล้วปลอมขึ้น จะได้ขายได้ แล้วก็ขายกันข้างวัดเลย  แต่ก็ดูไม่ยาก คือ พระที่ขโมยออกไปมีสภาพสวย คราบกรุน้อย ปั๊มตราจะเห็นชัด ครบทั้งหมด.

ส่วนพระที่เปิดกรุ ปี 2500 หลังจะไม่สวย คราบกรุเยอะ  ตรายางจะไม่ชัด การสังเกตตรายาง ตรายางสมัยก่อนจะเนื้อแข็ง ปั๊มได้บนพื้นที่ราบเรียบ ดังนั้นบนคราบกรุ หรอรูบ่อน้ำตรา และขี้กรุที่สูงๆต่ำๆ จะไม่ติดชัด(ใช้ไม้บรรทัดวางแนวหาองศาดูได้ ว่าตรายางอยู่บนแนว 180 องศาหรือเปล่า) ถ้าเป็นตรายางสมัยใหม่จะเป็นยางซิลิโคลน จะมีความนุ่ม และจะปั๊มชัดมาก แม้กระทั่งในรูเล็กๆ สีของตรายางเองก็ต้องเปลี่ยนไป เป็นสีน้ำเงินม่วง หรือม่วงอมแดง ต้องไม่ใช่สีน้ำเงิน และไม่ใช่สีฟ้า เพราะผ่านมา 60 กว่าปีแล้ว(ปัจจุบัน พ.ศ.2565) , ส่วนองค์พระนั้น ตอนที่บรรจุกรุอยู่ในหลุมถูกวางเรียงหงายหน้าขึ้น และซ้อนกันหลายชั้น พระจึงมีแรงกดจำนวนมาก และมีความชื้นตั้งแต่แรก ทำให้พระบางองค์ติดกัน และบิดงอไปทางด้านหลังส่วนใหญ่ และทำให้เกิดเนื้อเกินหลังองค์พระ ที่มีอายุเท่ากับองค์พระนั้นเอง(ตอนเปิดกรุพบบางขุนพรหมชำรุดด้านหน้าเป็นจำนวนมาก) และพระอยู่ในกรุ 87 ปี ด้านหลังจะไม่เห็นรอยปาดแล้ว มีแต่คราบเหนอะ คราบกรุเท่านั้น.

จากตรงนี้ผู้เขียนในทรรศนะคติผู้ใดที่ครอบครอง”พระกรุบางขุนพรหม” และพระอยู่ในสภาพสวยมากๆ ต้องพิจารณาให้ดี.

พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระในสกุล พระสมเด็จวัดระฆัง

ปั้นเหน่ง พ่อแก่ฤาษี

ตำนานพระฤาษี – พ่อแก่ฤาษี

พระฤาษี เป็นคำเรียกขานของคนที่บำเพ็ญเพียรด้วยความอุดตสาหะ เป็นความเชื่อของคนว่าต้องการจะหลุดพ้นจากความทุกข์  บ้างก็ต้องการจะสร้างฤทธิ์ สร้างบารมี จึงเกิดมีลัทธิ มีการตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนศิษย์ให้ประพฤติปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้.

หากท่านจะอ่านเรื่องราวให้ลึกซึ้ง ท่านก็ต้องวางใจเอาไว้ให้นิ่งๆ อย่าลืมคำว่า “ตำนาน” มันคือการเล่าขานต่อๆกันมา แต่เวลามันนานเหลือเกิน นานนับพันๆปี เรื่องราวที่เล่าต่อๆกันมา มันก็อาจแหว่งวิ่นไปบ้างเป็นของธรรมดา  มาถึงยุคเราก็กว่าสองพันห้าร้อยปีเข้าไปแล้ว คนยุคเราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้น  มันอยู่ที่ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อมากน้อยแค่ไหน! แต่ถ้าเชื่อก็จงขจัดข้อข้องใจให้หมดไป  ยึดมั่น มันก็ได้ผลเหมือนกัน แต่ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่จำเป็นจะต้องฝืนความรู้สึก เพราะจะมีแต่ความระแวงสงสัย จิตก็ไม่เกิดสุข แทนที่จะเป็นผลดี ตรงกันข้ามอาจเกิดผลร้ายเสียด้วยซ้ำไป.

ปั้นเหน่งพ่อแก่ฤาษี

พลังแห่งศรัทธาก่อเกิดบารมี

จะยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง มีคนเอาผ้า 7 สีไปผูกรอบต้นแล้วบูชาด้วยพวงมาลัย จุดธูปบูชาทุกวัน คนที่ผ่านไปมาเห็นก็คิดว่ามีเทพสถิต ก็จุดธูปบูชาตาม เอาผ้า 7 สีไปผูกแล้วขอโชคลาภ ด้วยจิตที่ยึดมั่น ประจวบกับตัวเองก็กำลังจะมีโชค เกิดได้โชคขึ้นมา ที่นี้ก็เอาหมู เป็ด ไก่ ผลไม้มาบูชา ผู้คนที่ผ่านไปมาเห็นก็สอบถาม พอรู้เรื่องก็เอาอย่างบ้าง จะได้โชคหรือไม่ก็ตามแต่ ต้นไม้นั่นเริ่มศักดิ์สิทธิ์ทันที ที่ศักดิ์สิทธิ์ก็เพราะอาจมีเทพารักษ์ไปสิงสถิต หรือเป็นเพราะพลังจิตของคนหลายๆคน มุ่งมั่นไปที่จุดเดียวก็เลยเกิดพลังเร้นลับ  คือโดยธรรมชาติแล้วต้นไม้ก็จะมีพลังของตัวมันเองอยู่แล้ว  เมื่อได้รับพลังจิตของคนหลายๆคน ก็ยิ่งเพิ่มพลังมากขึ้น ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ นี่คือความจริงที่กำลังชี้ประเด็นคือ “พลังจิต” นั่นเอง

ปั้นเหน่งพระฤาษี-พ่อแก่ฤาษี

พระฤาษี หรือพ่อแก่

พระฤาษี เป็นคำที่เรียกคนที่มีพลังจิตเด็ดเดี่ยว มุ่งปฏิบัติจนประสบผลสำเร็จในอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายๆอย่าง เช่น สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ มีวาจาสิทธิ์ และอีกมากมาย  บางท่านก็เก่งเรื่องยาสมุนไพร เช่น ปู่ชีวกโกมารภัทร ซึ่งเป็นแพทย์ประจำพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เราก็รวมเรียกท่านอยู่ในกลุ่มของพระฤาษีเช่นกัน และที่สำคัญ พระพุทธเจ้าของเราก็เคยไปศึกษาวิชากับพระฤาษีเหมือนกัน แต่พระองค์ต้องหันเหออกไป เพราะไม่สามารถจะทำให้พระองค์ตรัสรู้ได้  จนกระทั่งพระพุทธเจ้าค้นพบสัจจธรรม ค้นพบความจริงที่มีอยู่ในโลกแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครค้นพบเท่านั้น , พระพุทธเจ้าของเราทรงค้นพบและนำเอาความรู้มาสั่งสอนเหล่ามนุษย์ ที่ยังหลงระเริงอยู่กับความสุขจอมปลอม ต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบสิ้น.

อันที่จริงพระฤาษี ท่านก็พยายามจะค้นหาหนทางที่จะให้มนุษย์ได้พบกับความสุขนิรันดร์ แต่ค้นไปค้นมาก็ได้พบกับอิทธิฤทธิ์ต่างๆ บางท่านสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นร้อยๆปี การบำเพ็ญตบะ เพื่อสร้างบารมีของเหล่าพระฤาษีนั้น จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะได้จุติเป็นพระพรหม หรือเทพ ฉะนั้นเรื่องราวของพระฤาษี จึงมีมากมายแตกต่างกัน และกลายเป็นตำนานเล่าขานมาจนทุกวันนี้.

ตำนานพระฤาษี

ตำนานพระฤาษี

ตำนานพระฤาษี

 

พระกริ่งอุปคุต วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ปี 2512

พระกริ่งอุปคุต วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ปี 2512 

พระกริ่งอุปคุต ของวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2512 เป็นของหายากมากในทุกวันนี้ ,  พิธีพุทธาภิเษกขลังมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.9) ทรงเสด็จเป็นประธานในพิธีเททอง พิธีใหญ่ เจตนาการจัดสร้างดี พุทธาภิเษกพิธีเดียวกันกับพระกริ่งนเรศวร เมืองงาย , พระร่วงรางปืน , พระกริ่งชัยวัฒน์นเรศวร และเหรียญพระนเรศวร อันโด่งดัง พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงยุคนั้นเข้าร่วมพิธีปลุกเสกมากมายอาทิ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน-จันดี นครศรีธรรมราช , หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเพทฯ , หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยานิมิตร กรุงเพทฯ , หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา , หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี , หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง , ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก , หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิรา จ.พระนครศรีอยุธยา , หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง จ.พิจิตร , พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี , หลวงพ่อนอ วัดท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา , หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง , พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง และอื่นๆ

สนใจสอบถาม :

LINE ID : 0613608638

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์เล็ก

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลังยันต์ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง พิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่ ลงรักปิดทอง หลังยันต์ดวงประสูติพระพุทธเจ้า หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี มีพิธีใหญ่ เริ่มหายากแล้ว สององค์นี้ผ่านการใช้ สภาพสวยสมบูรณ์.

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์ใหญ่

“หลวงปู่เริ่ม ปรโม” แห่งวัดจุกกะเฌอ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  ท่านก็เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร แม้สนนราคาค่านิยมในวัตถุมงคลของท่าน จะไม่สูงเทียบเท่าหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ก็ตาม แต่ประสบการณ์อภินิหารในวัตถุมงคลของท่าน ทุกรุ่นทุกแบบ ปรากฎเด่นชัดขึ้นทุกวัน ทำให้ของๆท่านนั้นหายากขึ้นทุกที ใครมีต่างก็หวงแหน ไม่ออกตัวกันง่ายๆ.

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์ใหญ่

วัตถุมงคลชุดนี้จัดสร้างราวๆปี พ.ศ.2513 พิธีใหญ่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ช่างที่ออกแบบ แกะแม่พิมพ์ได้สวบงดงามมาก คนแกะแม่พิมพ์คือ ช่างเกษม ที่แกะพระแก้วมรกตชุดไตรภาคีของท่านเจ้าคุณนรฯนั่นเอง.

พิธีปลุกเสก

พิธีปลุกเสก มี หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ เป็นประธานเจ้าพิธีจุดเทียนชัย

หลวงปู่บู๊ (พระครูวรกัณฑราจารย์) วัดบางพระวรวิหาร

หลวงพ่อฉิ่ง วัดบางพระวรวิหาร

หลวงพ่อทองเริ่ม วัดบางพระวรวิหาร

และเกจิที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน ร่วมพิธีปลุกเสกในครั้งนั้น (มีข้อมูลหลายที่ ว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วย)

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์ใหญ่

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์เล็ก

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์เล็ก

พระแก้วมรกต ลงรักปิดทอง หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี พิมพ์เล็ก

หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม10

กุมารดูดรก ผงพรายกุมารเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ปีพ.ศ.2480

หลวงพ่อแช่ม ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระผู้มีวิชาอาคมเข้มขลัง เป็นที่นับถือของคนทั่วไป , หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัวยุคเก่า ที่ชาวนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมากให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง.

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

หลวงพ่อแช่ม ท่านใช้คาถาปลุกเสกกุมารดูดรกตอนอยู่ในครรภ์มารดา เสมือนเด็กที่มีกินสุขสบายในท้องผู้เป็นแม่ พุทธคุณเด่นในเรื่องช่วยทำมาหากินคล่อง มีโชค มีลาภ ไม่มีอด เป็นเมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็น และช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันอันตรายได้ดีเยี่ยม.

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ท่านเป็นหนึ่งในอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการสร้างกุมารให้กับ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของท่านเอง.

หลวงพ่อแช่มท่านถ่ายทอดพื้นฐานความรู้เรื่องบทสวดมนต์ และคาถาอาคมให้ท่องจำ สอนอ่าน เขียน อักขระขอม เพื่อปูทางไปสู่การเรียนคำภีร์อื่นๆโดยเฉพาะการสร้างกุมารทองนั้น หลวงพ่อเต๋ ก็ได้วิชามาจาก หลวงพ่อแช่ม จนกุมารของหลวงพ่อเต๋ ได้สร้างประสบการณ์มากมาย จนโด่งดังเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ.

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

วัดถุมงคลของหลวงพ่อแช่ม ที่ท่านสร้างและปลุกเสกนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็ล้วนมีประสบการณ์แก่ผู้มีไว้ติดตัวอย่างกว้างขวาง เนื่องจากท่านเป็นผู้มีอาคมกล้าแก่ง และท่านยังมีอำนาจทางพลังจิตสูงอีกด้วย.

เล่าขานกันว่า หลวงพ่อแช่ม ท่านสำเร็จวิชากสิณ ซึ่งผู้ใดที่สำเร็จกสิณจะสามารถแสดงฤทธิ์ได้แบบที่คนธรรมดาทำไม่ได้ ในเรื่องของวิชาอาคม ไสยศาสตร์นี้ ถ้าปราศจากพลังอำนาจทางจิต การนำเอาวิชาอาคม หรือไสยศาสตร์มาใช้ก็ไม่ได้ผล  แต่สำหรับผู้ที่มีพลังอำนาจจิตกล้าแกร่งแล้ว จะสามารถใช้วิชาเหล่านี้ได้ผล ศักดิ์สิทธิ์ตามตำราที่บันทึกไว้จริงๆ.

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

คาถาบูชากุมารดูดรก หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง

ตั้ง นะโม 3 จบ :

โสสะอะนิ  สะอะนิโน  เอหิตาตะ  ปุเรถะมะมะ  ปาระมิง  หะทะยังเมภิ  สันเจถะกะโรถะ  วะจะนังมะมะ

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

กุมารดูดรก ผงพรายกุมาร เนื้อดินเจ็ดป่าช้า หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ รุ่นมหาโชครับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชครับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ อธิษฐานจิตปลุกเสก , โคอุสุภราช ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสัตว์สี่เท้า การที่มีไว้บูชานั้น จะช่วยดลบันดาลให้แก่ผู้บูชาได้รับเมตตา มหานิยม ดลบันดาลโชคลาภ ทรัพย์สินเพิ่มพูน มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต และยังช่วยปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตราย คุณไสยมนต์ดำ ภูตผีวิญญานร้าย ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ มีคุณวิเศษถรอบจักรวาลเลยก็ว่าได้.

คาถาอาราธนา

” โอมโคโน มหาโคโน โอมสทธิสวาหะ “

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

วัวธนูมหาลาภ(โคอุสุภราช) รุ่นมหาโชค รับทรัพย์ หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด

ตะกรุดเป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างถึงพุทธคุณ และทำมาจากวัสดุต่างๆ ตามตำราของครูอาจารย์แต่ละท่าน ตะกรุดได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่าตะกรุดสามารถปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายให้แคล้วคลาด คงกระพัน รวมทั้งเรื่องโชคลาภ เมตตามหานิยม มีความโชคดีทั้งหลายทั้งปวง.

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ในปัจจุบันนั้น ตะกรุดถูกนำมาผสานเข้ากับการออกแบบที่สวยงาม โดดเด่นจนกลายเป็นเครื่องประดับที่แฝงพุทธคุณไว้อย่างลงตัว นั่นจึงทำให้ตะกรุดได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แม้ในหมู่คนดังและผู้ที่นิยมชมชอบทุกเพศทุกวัย.

ตะกรุดคือเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง เปรียบเสมือนวัตถุมงคลทำจากวัสดุง่ายๆ ตามพื้นถิ่น สร้างโดยเกจิอาจารย์ท่านนั้นๆ เพื่อมอบให้ลูกศิษย์ หรือว่าลูกศิษย์นำโลหะหรือของพื้นถิ่น อาทิ เงิน ทอง ตะกั่ว ทองแดง ทองเหลือง ฯลฯ มาให้เกจิอาจารย์ทำการลงอักขระยันต์ แล้วปลุกเสกนำมาแจกให้ลูกศิษย์พกติดตัวเพื่อเป็นมงคล จึงเป็นที่มาของตะกรุดต่างๆ ของแต่ละอาจารย์ แต่วิวัฒนาการสมัยนี้หากเกจิอาจารย์หรือวัดใดจะสร้าง ก็สามารถสั่งโรงงานได้ง่ายๆ มีโหละหาได้ง่าย สร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาเป็นเลขยันต์ปั๊ม เพราะฉะนั้นการทำตะกรุดในปัจจุบันจะทันสมัยมากขึ้น.

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

 

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

ตะกรุด - เครื่องรางของขลัง

สุดยอด เครื่องรางของขลัง พร้อมอิทธิปฏิหาริย์ที่ได้รับการกล่าวขานถึง คือ ผู้ใดได้บูชา ย่อมเป็นสิริมงคล นำความสำเร็จ ร่ำรวย รุ่งเรือง สู่ชีวิต.

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เนื้อตะกั่วถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน

ตะกรุดโทนมหาระงับ คงกระพัน ที่ชั้นยอดของอดีตย์เกจิอาจารย์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว 3.9 นิ้ว.

คำว่า ” มหา ” เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่เสมอ ตะกรุดหลวงพ่อคง ตามสูตรขนาด 3-5 นิ้ว จะเป็นตะกรุดมหาระงับ และถ้าขนาด 5 นิ้วขึ้นไปจะเป็นตะกรุดมหาปราบ.

ตะกรุดมหาระงับมีพุทธคุณมากมายหลายประการอันได้แก่ :

– หากเดินทางพร้อมกันมีตะกรุดดอกเดียวสามารถคุ้มครองกันได้ทั้งหมด

– มหาอำนาจสำหรับแม่ทัพ นายกอง ผู้ที่เป็นเจ้าคนนายคน

– ป้องกันอาวุธนานับประการ ที่เรียกกันว่าแคล้วคลาดปลอดภัยนั่นเอง

– บูชาไว้ที่บ้านป้องกันฟืนไฟ และโจรขโมยได้เป็นอย่างดี

– หากมีคดีความให้อาราธนา ทำน้ำมนต์แล้วจะโชคดีมีชัย

จากคำกล่าวขานเป็นที่เลื่องลือว่ากันว่า ตะกรุดของหลวงพ่อคงนี้ ท่านจะไม่ทำให้ใครง่ายๆ ต้องเป็นคนดีมีวาสนาจริงๆ ท่านถึงจะทำตะกรุดให้ และกว่าจะได้ต้องรอกันเป็นปีเลยถึงจะได้.

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

 

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

ตะกรุดโทนมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลงรักถักเชือกลายจระเข้ขบฟัน เนื้อตะกั่ว

หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

หุ่นพยนต์แบบสาน อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

อาจารย์ปี่ หรือ อาจารย์สมาน แจ้งเจริญ ปัจจุบันท่านอายุ 76 ปี (พ.ศ.2563) ท่านเป็นศิษย์ของอาจารย์ลอย โพธิ์เงิน ฆราวาสจอมขมังเวทแห่งเมืองกรุงเก่าเจ้าของหุ่นพยนต์ที่เล่นหาค่านิยมสูงมาก  อาจารย์ปี่ผู้เป็นศิษย์สืบทอดวิชาหุ่นพยนต์เรืองฤทธิ์จากอาจารย์ลอย  เดิมทีอาจารย์ปี่ ท่านเป็นลูกเกษตรในเมืองกรุงเก่า บิดาของท่านเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์ลอย โพธิ์เงิน ซึ่งพ่อของท่านได้นำลูกชายไปฝากไว้กับอาจารย์ลอย แพของอาจารย์ผูกอยู่หน้าวัดพนัญเชิง หรือที่เรียกกันว่า วัดจีน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าวิชาอาคมมีจริงหรือไม่ สมัยเป็นเด็กอาจารย์ปี่จึงได้แอบดูและแอบฟังอาจารย์ลอยสวดมนต์ท่องคาถาผูกหุ่นพยนต์มานานกว่า10ปี และได้เห็นวิชามายาศาสตร์ในขณะที่แอบดู อาจารย์ลอยท่านเสกผ้าขาวม้าให้เป็นงู ยังความอัศจรรย์ให้เกิดขึ้น ในที่สุดอาจารย์ลอยได้ถ่ายทอดวิชาทำหุ่นพยนต์ การรักษาโรค การถอนคุณไสย เสกน้ำมนต์ให้คลอดลูกง่าย วิชามหาเสน่ห์ให้อาจารย์ปี่ โดยอาจารย์ปี่ ได้รับการครอบครูครอบวิชาจากอาจารย์ลอย  อาจารย์ลอยท่านเมตตาอาจารย์ปี่ในฐานะศิษย์รับใช้ใกล้ชิด.

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์สานอาจารย์ปี

การทำหุ่นพยนต์ของอาจารย์ปี่ ท่านทำหุ่นพยนต์มีความแตกต่างจากครูอาจารย์ของท่านอย่างเห็นได้ชัด การทำหุ่นแบบเดิมเริ่มจากเจาะแผ่นสังกะสี หรือฝากระป๋องนมให้เป็นรู และสอดตอกเข้าไป ดึงรูดออกมาให้คมของรูกระป๋องนม หรือสังกะสี รูดบังคับให้ตอกหรือไม้มีขนาดเท่ากันทั้งเส้น เมื่อนำตอกที่ผ่านกรรมวิธี รูดผ่านรูสังกะสีที่ว่านั้นมาสานเป็นหุ่น แนวสานตามขวางทุกๆแนวต้องมีขนาดเท่ากันทั้งเส้น วัสดุที่ผ่านการรูดนี้ จะมีลักษณะมนน้อยๆ เมื่อได้รูปปั้นตามต้องการแล้วก็นำมาประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ เรียกว่า “ผูกหุ่นพยนต์” คือการเอารูปหุ่นที่ได้แล้วมาเป่าเสกคาถา ปลุกด้วยคาถาหมวดนิพพานสูตร ให้ภูตสิงสถิตยังหุ่นพยนต์ ปลุกเสกเสร็จแล้วจะมีวิธีการเลี้ยงรักษาและอธิษฐานใช้หุ่นพยนต์.

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

อานุภาพหุ่นพยนต์

พยนต์ แปลว่า สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น เช่น หุ่นพยนต์ เป็นรูปหุ่นจำลองของคน สัตว์ เทวดา ยักษ์ หรือภูตต่างๆ โดยอาศัยรูปแบบของหุ่นให้แสดงออกซึ่งลักษณะของสิ่งนั้นๆ ตามความต้องการ ส่วนอานุภาพของหุ่นพยนต์นั้นดีทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ขอสิ่งใดๆ(ไม่เกินกรรม)ก็มักสมปรารถนาเสมอ เสมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวคอยคุ้มครองเรา เวลารู้สึกมีภัยใกล้ตัว เรายังสามารถนึกถึงหุ่นพยนต์เหมือนเป็นมิตรให้ยามยาก และยังช่วยในเรื่องป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสยทั้งปวงได้อีกด้วย.

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดอาจารย์ลอยจอมฆมังเวท

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดอาจารย์ลอยจอมฆมังเวท

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

 

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

หนุมานไม้แกะ หน้ากระบี่ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น แห่งวัดศาลากุน ขึ้นชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์แรงกล้าเข้มขลัง มาเป็นเวลายาวนาน จัดอยู่ในทำเนียบสุดยอดเครื่องรางระดับเบญจภาคี คู่เคียงมากับเสือ หลวงพ่อปาน จนมีคำกล่างคล้องจองกันว่า “เสือ หลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น”

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

หนุมานเป็นทหารเอกของพระราม มีฤทธิ์เดชมาก มีกำลังวังชามหาศาล คล่องแคล่วว่องไว มีมนต์เสน่ห์มหานิยมสูงส่ง เมื่อหลวงพ่อสุ่นจัดสร้างและปลุกเสกด้วยพระเวทย์อาคม จึงยิ่งทรงอานุภาพเข้มขลัง ” มีคุณวิเศษทางป้องกันศาสตราวุธต่างๆ อยู่ยงคงกระพัน อำนวยโชคลาภ ก่อเกิดเมตตมหานิยม ติดต่องานสำเร็จรวดเร็ว ทำกิจการเจริญก้าวหน้ามั่นคง สามารถเอาชนะอุปสรรคนานัปการ ”

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น แกะสลักจากไม้และงาช้าง องค์ที่แกะจากไม้เป็นหนุมานยุคแรกๆ ไม้ที่ใช้แกะเป็นรากไม้พุดซ้อนและรากไม้รัก ซึ่งหลวงพ่อสุ่นนำทั้งสองต้นมาปลูกตั้งแต่เพิ่งมาอยู่วัดศาลากุน ท่านเสกน้ำมนต์รดน้ำจนเติบใหญ่ ค่อยนำมาแกะขึ้นรูปเป็นหนุมาน  และองค์ที่แกะจากงาช้างมีจำนวนน้อยกว่า

หลวงพ่อสุ่นปลุกเสกหนุมานแจกหลายวาระ แต่ครั้งสำคัญที่มีผู้จำได้ 2 ครั้งคือ ปี 2468 และ ปี 2470 ทั้งสองครั้งประมาณหลักหลายร้อยตัว.

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น จุดสังเกตของเก่าแท้

หนุมานแกะสลักขึ้นด้วยมือ รายละเอียดแต่ละองค์จึงไม่เหมือนกัน แต่มีเค้าโครงแบบพิมพ์ที่คล้ายกัน คือ หนุมานนั่งยอง มือกุมเข่าทั้งสองข้าง อ้าปากเห็นลิ้น หางม้วนรอบฐาน ส่วนใหญ่มีขนาดสูงประมาณ 1 นิ้วเศษ งานแกะฝีมือช่างชั้นครู สัดส่วนทรวดทรงสวยงามได้รูป การลงมีดเจาะเฉาะตามซอกลึกมีเหลี่ยมมุมงดงาม ต่างจากของปลอมที่ฝีมือหยาบ สัดส่วนรูปทรงบิดเบี้ยวไม่งาม รอยขูดเกลาผิวมักหยาบไม่เรียบร้อย การเก็บงานในซอกเล็กไม่ประณีตเท่าของแท้.

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

หนุมาน หลวงพ่อสุ่นมี2พิมพ์หลัก 

– พิมพ์หน้าโขน แต่งองค์ด้วยเครื่องทรงรายละเอียดวิจิตรงดงามแบบโขนรามเกียรติ์ รูปแบบหนุมานนั่งยอง มือกุมเข่า อ้าปากเห็นลิ้น หางม้วนรอบฐาน

– พิมพ์กระบี่ ศิลปเรียบง่ายคลาสสิค รอบคอมีกรองศอ หรือ เกราะคอ ด้านหลังมีผ้าห้อยปิดต้นขา รูปแบบหนุมานนั่งยอง มือกุมเข่า อ้าปากเห็นลิ้น หางม้วนรอบฐาน.

นอกจากนี้ยังมีพิมพ์พิเศษ เช่น พิมพ์นั่งพนมมือ พิมพ์ยืนพนมมือ แต่มีจำนวนน้อย

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

การปลุกเสกหนุมานหลวงพ่อสุ่น

การปลุกเสกหนุมานของหลวงพ่อสุ่นนั้น ท่านรวบรวมหนุมานใส่ไว้ในบาตร นำเข้าไปปลุกเสกในโบสถ์ ปลุกเสกตั้งแต่ค่ำจนย่ำรุ่ง กล่าวกันว่า “ท่านปลุกเสกจนหนุมานกระโดดได้ก่อนจะนำออกแจก”

หนุมานหลวงพ่อสุ่นมีความเก่าถึงปัจจุบันร่วม 100 ปีเข้าไปแล้ว เนื้อไม้ที่แกะเป็นรูปหนุมานจึงแห้งเก่าเป็นพิเศษ ไม่เหลือความชื้นในเนื้อไม้ ตัวหนุมานแห้งเบา อาจมีสีเข้มบริเวณจุดสำผัส

ส่วนองค์ที่แกะจากงานั้น เนื้องาจะแห้งนวลเนียนเป็นธรรมชาติ บริเวณจุดสำผัสเป็นมันฉ่ำ บางตัวอาจมีคราบสีเข้มในซอก และมีรอยแตกเป็นริ้วเล็กๆ เนื่องจากงาแห้งหดรัดตัวปรากฏให้เห็น.

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์ ในสีผึ้งจะมีลูกอมม้าเสพนางปั้นผสมผงพรายจากป่าช้า ดินเจ็ดป่าช้า ผงขี้เถ้ากระดูกอาชาตายพราย , พรายของท่านไม่มีเข้าตัว ใช้ได้แรงจริง เห็นผลดี ไม่แพ้พรายมนุษย์เลย และยังมีผงว่านมหาเสน่ห์อีกมากมายหลายชนิด ฝังตะกรุดสาริกาทุกตลับ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดสีผึ้งที่แรงด้านเมตตา มหาเสน่ห์ มหาลาภ ใช้พกพาช่วยดึงดูดเพศตรงข้าม ช่วยในเรื่องเจรจาค้าขายดี ผู้ใหญ่ให้ความเมตตา เจ้านายรักไคร่เอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง.

วิธีใช้ : ใช้พกพาก็แรงดีมีเสน่ห์ หรือเอาสีผึ้งทาผม คิ้ว ปาก แตะบางๆเพียงน้อยนิดเป็นมหาเสน่ห์ เสมือนสาริกาลิ้นทอง พูดจาต่อผู้คนจะมีแต่คนนิยมชมชอบ จะสมหวังสมปรารถนา.

คาถาบูชา : โอม  โก๋นาถอก  สวาโอม  สวาหายะ  สวาหุมติด ( ท่อง 7 จบ )

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

กุมารทองเรืองฤทธิ์ อาจารย์เวส ไหว้ครู ปี 55

ก่อนตัดสินใจเลี้ยงกุมารทอง

กุมารทองถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  เป็นเครื่องรางของขลังที่สามารถดูแล และให้โชคลาภเราได้ แต่ทุกอย่างมีดีย่อมมีเสีย เพราะฉะนั้นเราต้องตรองดูให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจ…

กุมารทอง พระอาจารย์แว่น วัดป่าประชาสามัคคีธรรม กาฬสินธุ์
– เราจะต้องคิดก่อนว่า เราจะเลี้ยงเขาเพื่ออะไร ใช่เพียงแค่ว่าต้องการให้เขามากระโดดโลดเต้นเหมือนในละครหรือในหนัง ก็ไม่ควรเลี้ยง
– คุณพร้อมที่จะดูแลและเลี้ยงเขาหรือเปล่า  สถานที่บ้านช่องของเราพร้อมไหม  กำลังเงินมีพอซื้อของเซ่นไหว้ถวายหรือเปล่า  ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเลี้ยง
– การเลี้ยงกุมารนั้น เรื่องสัจจะเป็นสำคัญ บอกว่าให้กินตอนไหนก็ต้องให้กินตอนนั้น  จะให้อะไรก็ต้องอย่างนั้น จึงจะศักดิ์สิทธิ์
– เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงกุมารทอง ใจจริงแล้วเราต้องการจะเลี้ยงกุมารทอง หรือ พราย หรือ ตุ๊กตาทอง
– เมื่อได้คำตอบกับตัวเอง ให้คุณศึกษาหาวัด หรือสำนักที่มีการสร้างเสกกุมารขึ้นมา ที่สำคัญเราต้องศรัทธาในอาจารย์ผู้สร้าง และองค์กุมารทองที่บูชานั้นด้วย เพราะศรัทธาเป็นแรงที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์
– ศึกษาวิธีการบูชาของแต่ละสำนักที่เราจะนำกุมารทองมา เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และถูกต้องนั่นเอง.
กุมารทอง เนื้อดิน หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
กุมารทอง หลวงพ่อสังข์ทอง วัดป่าเทพารักษ์ ขอนแก่น

กุมารทอง อาจารย์เทพ พงศาวดาร ปี 56
กุมารทอง อาจารย์เทพ พงศาวดาร ปี 2556
กุมารทองเจ้าสัว ครูบาออ พระธาตุดอนจอมแวะ เชียงใหม่
กุมารเทพเนื้อนวโลหะ ปี 54 อาจารย์ประสูติ รุ่นแรก ลูกกรอกพรายเพิ่มทรัพย์ พระอาจารย์สมชาติ ปี56
พระขุนแผนหลังกุมารทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
พระขุนแผนหลังกุมารทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

 

กุมารทอง มหาลาภ หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก

กุมารทอง

ถ้าจะบูชาควรเป็นกุมารทองของแท้ถึงจะศักดิ์สิทธิ์

” กุมารทอง ” ของแท้ที่สมัยก่อนบูชานั้น ผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก กว่าจะเอากุมารทองมาทำเป็นของขลังของดี โดยจะผ่าท้องของแม่ เอาทารกตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ออกมา แล้วเอาทารกน้อยไปประกอบพิธีกรรมในป่าช้า โดยจะย่างไฟให้แห้งและบริกรรมท่องเวทมนตร์อาคมกำกับ ก่อนจะนำไปปลุกเสกอาคมอีกครั้ง ก็จะได้กุมารทองมีฤทธิ์มีเดชไว้ใช้งาน.

” กุมารทอง ” เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับจิตรวิญญาณ ที่มาของกุมารทอง มาจากการเลี้ยงภูติผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย  หากเป็นวิญญาณผู้หญิงที่เลี้ยงไว้จะเรียกว่า ” โหงพราย ”

กุมารทอง มหาลาภ หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์
หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ เนื้อกระยาสารท หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ 

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง เนื้อกระยาสารท หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

พระเครื่องหลวงปู่ทิมนั้นมีอยู่หลากหลายพิมพ์ หลายแบบ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลออกมามากมาย ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อแจกให้แก่ลูกศิษย์และผู้ที่มาทำบุญช่วยบูรณะวัดละหารไร่ .

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

นอกจากพระขุนแผนผงพรายกุมารเนื้อต่างๆ ที่สร้างจากวัดละหารไร่โดยตรงแล้ว หลวงปู่ทิม ท่านยังได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆจากพระเกจิอื่นๆที่มีวิชา และ อภิญาสูงยิ่ง เช่น หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง – ว่ากันว่าที่วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยองนั้น โด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในนาม สีผึ้งเขียวเกี้ยวสาว ของหลวงพ่อทาบ สีผึ้งของท่านสร้างจากสมุนไพรธรรมชาติที่หาได้ภายในเขตวัด ลักษณะสีผึ้งจะมีสีเขียวเข้ม มีพุทธคุณทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์ ดีเยี่ยมยอด.

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เนื่องด้วยหลวงปู่ทิม ท่านได้ร่วมกับหลวงพ่อทาบสร้างพระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียวจากวัดกระบกขึ้นผึ้งที่เสกโดย หลวงปู่ทาบ ยิ่งทำให้พระขุนแผนผงพรายกุมารชุดนี้ เป็นสุดยอดทางด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ช่วยให้เจรจาค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย จากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง.

มวลสารใช้สร้างพระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว 

มวลสารที่ใช้สร้างพระชุดนี้หลักๆคือข้าวสารตำหยาบ ในการสร้างกดพิมพ์ ทำให้เนื้อพระดูขรุขระคล้ายขนมกระยาสารท ซึ่งยังมีข้าวบางเม็ดที่ยังไม่แตกหักโผล่ในองค์พระ ที่มองเห็นเป็นเม็ดข้าวอย่างชัดเจน มวลสารที่ขาดไม่ได้คือผงพรายกุมาร และสีผึ้งเขียวของหลวงปู่ทาบนั่นเอง  พระองค์นี้มีความพิเศษคือฝังตะกรุดสาริกาคู่ไว้ด้านหลังด้วย.

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ องค์จริงจะมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว ด้วยมวลสารสีผึ้ง องค์พระก็ไม่เหือดแห้งแต่อย่างใด.

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

แผ่นยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ มนต์เสน่ห์แห่งเครื่องรางล้านนา

ยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ ที่ชาวล้านนาเรียกขานกันจนติดปากถือได้ว่าเป็นสุดยอดตะกรุดเมตตามหาเสน่ห์ ของชาวล้านนาโดยแท้ มีการสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณนับเป็นระยะเวลายาวนานนับร้อยปีมาแล้ว

 คาถาที่ใช้เขียนเป็นคาถาสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนำมาเขียนลงบนแผ่นโลหะต่างๆกันไป เช่น แผ่นทองแดง อลูมิเนียม หรือแผ่นหนัง ขนาดมีทั้งเล็กใหญ่ก็สุดแล้วแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะสะดวกในการสรรค์สร้างขึ้น .

ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

พุทธคุณแผ่นยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ

ตะกรุดยันต์หนีบ เป็นตะกรุดอีกชนิดที่ได้รับความนิยมในหนุ่มสาวชาวล้านนามาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายก็ว่าได้ มักให้ผลทางด้านเสน่ห์เมตตา คนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่าในสมัยก่อนตะกรุดพับมีการบูชากันอย่างแพร่หลาย เช่นหนุ่มจีบสาวก็จะพกยันต์หนีบเอาไว้ติดตัวเมื่อชอบสาวคนใดก็มักนิยมเขียนชื่อพร้อมด้วยวันเดือนปีเกิดของคนทั้งคู่เข้าไว้แล้วสอดเข้าไปในแผ่นยันต์หนีบเชื่อกันว่าสาวเจ้าจะรักหลงอย่างน่าประหลาดใจ บางอาจารย์ผู้นำไปใช้ก็ไม่ต้องเขียนเองเพราะอาจารย์ท่านจะจารลงไปในแผ่นยันต์ให้แล้ว ด้านหนึ่งเป็นผู้หญิงอีกด้านหนึ่งเป็นผู้ชายแล้วเขียนชื่อกำกับเอาไว้ และถ้าจะเสริมความเข้มขลังเข้าไปก็ให้นำใบพลูที่แตกใบอ่อนทางทิศตะวันออกนำมาเขียนชื่อแล้วสอดเอาไว้ด้านในก็มักจะให้ผลดีนัก  แต่ตะกรุดพับไม่ได้ให้ผลแค่เฉพาะทางเรื่องรักๆใคร่ๆอย่างเดียว ยังมีผลทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม เรียกว่า ซื้อง่ายขายคล่องอีกด้วย พ่อค้าแม่ค้ามักจะพกบูชาในกระเป๋าสตางค์ เพราะมีความเชื่อว่า ตะกรุดพับหรือตะกรุดยันต์หนีบมักสามารถหนีบโชคลาภ เงินทองให้เข้ากระเป๋าผู้บูชาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ  มักมีคำพูดอยู่เสมอว่าเมื่อมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดเสมอ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะมันเป็นความเชื่อและภูมิปัญญาของชาวล้านนาสมัยก่อนที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ถ้าของไม่ดีจริงคงจะไม่อยู่มานานจนถึงปัจจุบันนี้ .

แผ่นยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ นับเป็นตะกรุดที่มีมนต์เสน่ห์ ความเข้มขลัง น่าเก็บไว้บูชา และยังถือเป็นการช่วยกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาที่มีคุณค่าเหล่านี้ไว้สืบไปชั่วลูกชั่วหลาน เพราะนับวันก็ยิ่งจะสูญหายไปตามกาลเวลา ยิ่งถ้าเป็นของเกจิยุคเก่าๆ ยิ่งหายากมาก.

ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
แผ่นยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
แผ่นยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
แผ่นยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก