สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์ ในสีผึ้งจะมีลูกอมม้าเสพนางปั้นผสมผงพรายจากป่าช้า ดินเจ็ดป่าช้า ผงขี้เถ้ากระดูกอาชาตายพราย , พรายของท่านไม่มีเข้าตัว ใช้ได้แรงจริง เห็นผลดี ไม่แพ้พรายมนุษย์เลย และยังมีผงว่านมหาเสน่ห์อีกมากมายหลายชนิด ฝังตะกรุดสาริกาทุกตลับ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดสีผึ้งที่แรงด้านเมตตา มหาเสน่ห์ มหาลาภ ใช้พกพาช่วยดึงดูดเพศตรงข้าม ช่วยในเรื่องเจรจาค้าขายดี ผู้ใหญ่ให้ความเมตตา เจ้านายรักไคร่เอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง.

วิธีใช้ : ใช้พกพาก็แรงดีมีเสน่ห์ หรือเอาสีผึ้งทาผม คิ้ว ปาก แตะบางๆเพียงน้อยนิดเป็นมหาเสน่ห์ เสมือนสาริกาลิ้นทอง พูดจาต่อผู้คนจะมีแต่คนนิยมชมชอบ จะสมหวังสมปรารถนา.

คาถาบูชา : โอม  โก๋นาถอก  สวาโอม  สวาหายะ  สวาหุมติด ( ท่อง 7 จบ )

สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์
สีผึ้งม้าเสพนาง อาจารย์สล่าไก่ มนต์ล้านนามหาเสน่ห์

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

กุมารทองเรืองฤทธิ์ อาจารย์เวส ไหว้ครู ปี 55

ก่อนตัดสินใจเลี้ยงกุมารทอง

กุมารทองถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  เป็นเครื่องรางของขลังที่สามารถดูแล และให้โชคลาภเราได้ แต่ทุกอย่างมีดีย่อมมีเสีย เพราะฉะนั้นเราต้องตรองดูให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจ…

กุมารทอง พระอาจารย์แว่น วัดป่าประชาสามัคคีธรรม กาฬสินธุ์
– เราจะต้องคิดก่อนว่า เราจะเลี้ยงเขาเพื่ออะไร ใช่เพียงแค่ว่าต้องการให้เขามากระโดดโลดเต้นเหมือนในละครหรือในหนัง ก็ไม่ควรเลี้ยง
– คุณพร้อมที่จะดูแลและเลี้ยงเขาหรือเปล่า  สถานที่บ้านช่องของเราพร้อมไหม  กำลังเงินมีพอซื้อของเซ่นไหว้ถวายหรือเปล่า  ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเลี้ยง
– การเลี้ยงกุมารนั้น เรื่องสัจจะเป็นสำคัญ บอกว่าให้กินตอนไหนก็ต้องให้กินตอนนั้น  จะให้อะไรก็ต้องอย่างนั้น จึงจะศักดิ์สิทธิ์
– เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงกุมารทอง ใจจริงแล้วเราต้องการจะเลี้ยงกุมารทอง หรือ พราย หรือ ตุ๊กตาทอง
– เมื่อได้คำตอบกับตัวเอง ให้คุณศึกษาหาวัด หรือสำนักที่มีการสร้างเสกกุมารขึ้นมา ที่สำคัญเราต้องศรัทธาในอาจารย์ผู้สร้าง และองค์กุมารทองที่บูชานั้นด้วย เพราะศรัทธาเป็นแรงที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์
– ศึกษาวิธีการบูชาของแต่ละสำนักที่เราจะนำกุมารทองมา เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และถูกต้องนั่นเอง.
กุมารทอง เนื้อดิน หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
กุมารทอง หลวงพ่อสังข์ทอง วัดป่าเทพารักษ์ ขอนแก่น

กุมารทอง อาจารย์เทพ พงศาวดาร ปี 56
กุมารทอง อาจารย์เทพ พงศาวดาร ปี 2556
กุมารทองเจ้าสัว ครูบาออ พระธาตุดอนจอมแวะ เชียงใหม่
กุมารเทพเนื้อนวโลหะ ปี 54 อาจารย์ประสูติ รุ่นแรก ลูกกรอกพรายเพิ่มทรัพย์ พระอาจารย์สมชาติ ปี56
พระขุนแผนหลังกุมารทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
พระขุนแผนหลังกุมารทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

 

กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

การเซ่นไหว้กุมารทอง

ปัจจุบันผู้บูชานิยมไหว้ด้วยน้ำแดง เรื่องราวของกุมารทองถูกกล่างถึงในวรรณคดีไทย เช่น ขุนช้างขุนแผน บ้างก็นับลูกกรอกเป็นกุมารทองด้วย

เครื่องรางอีกประเภทหนึ่งที่คล้ายกันคือ รักยม ทั้งกุมารทองและรักยม ยังมีผู้นิยมบูชากันอยู่ไม่น้อยในสังคมไทย.

กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

มวลสารที่ใช้สร้างกุมารทอง

สำหรับมวลสารการปั้นกุมารทองตำรับโบราณกว่า 100 ปี ตามพิธีกรรมของหลวงพ่อเต๋ และหลวงปู่แย้ม เกจิแห่งสามง่าม จ.นครปฐม อันประกรอบด้วย :

– ดินเจ็ดป่าช้า , เถ้ากระดูกเจ็ดเมรุ , ดินเจ็ดโป่ง , ดินเจ็ดถ้ำ , ดินเจ็ดท่าน้ำ , ดินเจ็ดนา สวน , เถ้ากระดูกเด็กเจ็ดคน , ไคร่เสมาเจ็ดวัด , เผาดินและมวลสารตามฤกษ์โบราณ และปลุกเสกกุมารก่อนนำมาบูชา 1 พรรษา.

กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

คาถาบูชากุมารทอง สูตรของหลวงพ่อเต๋-หลวงปู่แย้ม

เมื่อได้รูปปั้นกุมารทอง พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เขียนคาถาสวดบูชากุมารทอง(ตุ๊กตาทอง)ดังนี้ :

พุท  ธัสสะ  บูชา  ธัม  มัสสะ  บูชา  สัง  ฆัสสะ  บูชา  ปะติ  ปะติ  บูชา  ภะวันตุเม  อุกาสะ  อุกาสะ

ข้าพเจ้าขอไหว้ตุ๊กตาทอง ขอจงบังเกิดอยู่ในจักขุทวาร  ในมโนทวาร ในกายทวารแห่งข้าพเจ้า ขอเดชเดชะ  ข้าพเจ้าได้ทำบำเพ็ญกุศลมาแต่อเนกอนันตชาติ  เกิดด้วยตุ๊กตาทอง  ลาภทุกประการจงมาบังเกิดกับข้าพเจ้าทั้ง 8 ทิศเนืองๆ  ขอจงมาทุกวัน  อย่าได้ขาดแคลนลาภสักการะนั้นเลย  ให้เหมือนดั่งเช่นตุ๊กตาทองนี้เถิด.

กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
กุมารทอง(ตุ๊กตาทอง) หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
กุมารทอง(ตุ๊กตาทอง) หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
กุมารทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม กุมารทอง(ตุ๊กตาทอง) หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

 

การสร้างกุมารทอง

ในยุคปัจจุบันสภาพสังคมและวัฒนธรรมพัฒนามากขึ้น ทำให้ไม่สามารถสร้างกุมารทองจากศพทารกจริงๆได้  จึงมีการดัดแปลงกรรมวิธีการสร้างกุมารทองขึ้น โดยใช้ดินเจ็ดป่าช้าบ้าง ไม้รักซ้อนบ้าง หรือไม้รักยมบ้าง ไปจนถึงโลหะมาสร้างเป็นรูปกุมารทอง แล้วปลุกเสกตั้งจิต ตั้งธาตุ 4 และเรียกอาการ 32 ให้บังเกิดเป็นจิตวิญญาณของเด็กขึ้นมา.

กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55

กุมารทองปัจจุบันนิยมสร้างเป็นรูปปั้นเด็ก ลักษณะเป็นเด็กที่ไว้ผมจุก นุ่งโจมกระเบนอย่างโบราณ  กลายเป็นเครื่องรางของขลัง  เชื่อกันว่าเสมือนมีวิญญาณเด็กอยู่ในรูปกุมารนั้น.

กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55

วิธีบูชากุมารทอง

ผู้บูชาต้องเลี้ยงดูเหมือนลูกของตน ต้องให้ข้าวน้ำเซ่นสรวง และต้องเรียกให้กินข้าวด้วย   กล่าวกันว่าหากปฏิบัติดูแลดี กุมารทองก็จะช่วยค้ำคูณ อาทิ ช่วยคุ้มครองป้องกันเจ้าของ และครอบครัวจากสิ่งต่างๆ ที่ไม่ดีทั้งหลายได้  ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น ไปจนถึงเตือนภัยล่วงหน้าอีกด้วย  และจะคอยติดตามเฝ้าระวังบ้านเรือนจากโจรผู้ร้ายและศัตรูไม่ให้มากล้ำกราย.

กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55
กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55
กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55
กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55
กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55
กุมารทองร่ายมนต์ เจ้าทรัพย์ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ ปี 55
พระอาจารย์ ชอ วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ ชอ สุชีโว วัดหนองแสง จ.ฉะเชิงเทรา

 

 

กุมารทอง มหาลาภ หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก

กุมารทอง

ถ้าจะบูชาควรเป็นกุมารทองของแท้ถึงจะศักดิ์สิทธิ์

” กุมารทอง ” ของแท้ที่สมัยก่อนบูชานั้น ผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้ามาก กว่าจะเอากุมารทองมาทำเป็นของขลังของดี โดยจะผ่าท้องของแม่ เอาทารกตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ออกมา แล้วเอาทารกน้อยไปประกอบพิธีกรรมในป่าช้า โดยจะย่างไฟให้แห้งและบริกรรมท่องเวทมนตร์อาคมกำกับ ก่อนจะนำไปปลุกเสกอาคมอีกครั้ง ก็จะได้กุมารทองมีฤทธิ์มีเดชไว้ใช้งาน.

” กุมารทอง ” เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับจิตรวิญญาณ ที่มาของกุมารทอง มาจากการเลี้ยงภูติผีปีศาจไว้ใช้งาน โดยกุมารทองจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย  หากเป็นวิญญาณผู้หญิงที่เลี้ยงไว้จะเรียกว่า ” โหงพราย ”

กุมารทอง มหาลาภ หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก
กุมารทอง หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์
หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ เนื้อกระยาสารท หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ 

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง เนื้อกระยาสารท หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

พระเครื่องหลวงปู่ทิมนั้นมีอยู่หลากหลายพิมพ์ หลายแบบ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลออกมามากมาย ในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อแจกให้แก่ลูกศิษย์และผู้ที่มาทำบุญช่วยบูรณะวัดละหารไร่ .

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

นอกจากพระขุนแผนผงพรายกุมารเนื้อต่างๆ ที่สร้างจากวัดละหารไร่โดยตรงแล้ว หลวงปู่ทิม ท่านยังได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆจากพระเกจิอื่นๆที่มีวิชา และ อภิญาสูงยิ่ง เช่น หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง – ว่ากันว่าที่วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยองนั้น โด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในนาม สีผึ้งเขียวเกี้ยวสาว ของหลวงพ่อทาบ สีผึ้งของท่านสร้างจากสมุนไพรธรรมชาติที่หาได้ภายในเขตวัด ลักษณะสีผึ้งจะมีสีเขียวเข้ม มีพุทธคุณทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์ ดีเยี่ยมยอด.

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เนื่องด้วยหลวงปู่ทิม ท่านได้ร่วมกับหลวงพ่อทาบสร้างพระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียวจากวัดกระบกขึ้นผึ้งที่เสกโดย หลวงปู่ทาบ ยิ่งทำให้พระขุนแผนผงพรายกุมารชุดนี้ เป็นสุดยอดทางด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ช่วยให้เจรจาค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย จากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง.

มวลสารใช้สร้างพระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว 

มวลสารที่ใช้สร้างพระชุดนี้หลักๆคือข้าวสารตำหยาบ ในการสร้างกดพิมพ์ ทำให้เนื้อพระดูขรุขระคล้ายขนมกระยาสารท ซึ่งยังมีข้าวบางเม็ดที่ยังไม่แตกหักโผล่ในองค์พระ ที่มองเห็นเป็นเม็ดข้าวอย่างชัดเจน มวลสารที่ขาดไม่ได้คือผงพรายกุมาร และสีผึ้งเขียวของหลวงปู่ทาบนั่นเอง  พระองค์นี้มีความพิเศษคือฝังตะกรุดสาริกาคู่ไว้ด้านหลังด้วย.

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ องค์จริงจะมีความชุ่มชื้นตลอดเวลา ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว ด้วยมวลสารสีผึ้ง องค์พระก็ไม่เหือดแห้งแต่อย่างใด.

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระขุนแผนผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ - หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

แผ่นยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ มนต์เสน่ห์แห่งเครื่องรางล้านนา

ยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ ที่ชาวล้านนาเรียกขานกันจนติดปากถือได้ว่าเป็นสุดยอดตะกรุดเมตตามหาเสน่ห์ ของชาวล้านนาโดยแท้ มีการสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณนับเป็นระยะเวลายาวนานนับร้อยปีมาแล้ว

 คาถาที่ใช้เขียนเป็นคาถาสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนำมาเขียนลงบนแผ่นโลหะต่างๆกันไป เช่น แผ่นทองแดง อลูมิเนียม หรือแผ่นหนัง ขนาดมีทั้งเล็กใหญ่ก็สุดแล้วแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะสะดวกในการสรรค์สร้างขึ้น .

ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

พุทธคุณแผ่นยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ

ตะกรุดยันต์หนีบ เป็นตะกรุดอีกชนิดที่ได้รับความนิยมในหนุ่มสาวชาวล้านนามาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายก็ว่าได้ มักให้ผลทางด้านเสน่ห์เมตตา คนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่าในสมัยก่อนตะกรุดพับมีการบูชากันอย่างแพร่หลาย เช่นหนุ่มจีบสาวก็จะพกยันต์หนีบเอาไว้ติดตัวเมื่อชอบสาวคนใดก็มักนิยมเขียนชื่อพร้อมด้วยวันเดือนปีเกิดของคนทั้งคู่เข้าไว้แล้วสอดเข้าไปในแผ่นยันต์หนีบเชื่อกันว่าสาวเจ้าจะรักหลงอย่างน่าประหลาดใจ บางอาจารย์ผู้นำไปใช้ก็ไม่ต้องเขียนเองเพราะอาจารย์ท่านจะจารลงไปในแผ่นยันต์ให้แล้ว ด้านหนึ่งเป็นผู้หญิงอีกด้านหนึ่งเป็นผู้ชายแล้วเขียนชื่อกำกับเอาไว้ และถ้าจะเสริมความเข้มขลังเข้าไปก็ให้นำใบพลูที่แตกใบอ่อนทางทิศตะวันออกนำมาเขียนชื่อแล้วสอดเอาไว้ด้านในก็มักจะให้ผลดีนัก  แต่ตะกรุดพับไม่ได้ให้ผลแค่เฉพาะทางเรื่องรักๆใคร่ๆอย่างเดียว ยังมีผลทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม เรียกว่า ซื้อง่ายขายคล่องอีกด้วย พ่อค้าแม่ค้ามักจะพกบูชาในกระเป๋าสตางค์ เพราะมีความเชื่อว่า ตะกรุดพับหรือตะกรุดยันต์หนีบมักสามารถหนีบโชคลาภ เงินทองให้เข้ากระเป๋าผู้บูชาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ  มักมีคำพูดอยู่เสมอว่าเมื่อมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดเสมอ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะมันเป็นความเชื่อและภูมิปัญญาของชาวล้านนาสมัยก่อนที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ถ้าของไม่ดีจริงคงจะไม่อยู่มานานจนถึงปัจจุบันนี้ .

แผ่นยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ นับเป็นตะกรุดที่มีมนต์เสน่ห์ ความเข้มขลัง น่าเก็บไว้บูชา และยังถือเป็นการช่วยกันอนุรักษ์ภูมิปัญญาที่มีคุณค่าเหล่านี้ไว้สืบไปชั่วลูกชั่วหลาน เพราะนับวันก็ยิ่งจะสูญหายไปตามกาลเวลา ยิ่งถ้าเป็นของเกจิยุคเก่าๆ ยิ่งหายากมาก.

ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
แผ่นยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
แผ่นยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
แผ่นยันต์หนีบ ม้าเสพนาง หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ยันต์หนีบ หรือ ตะกรุดพับ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท

ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท

ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท ทำจากหนังวัวฟ้าผ่าตำราทำเครื่องรางเสี่ยงโชค ลงอักขระที่แผ่นโลหะ พันเชือกด้ายจูงผีตายโหง เป็นหนังวัวเพศผู้ ฟ้าผ่าตกบ่ตาย ได้มาแต่ภูพาน ลูกศิษย์ท่านถวายมาให้สร้างของขลังตามตำราว่าใช้เสริมดวงชะตา ช่วยหนุนดวงชะตา กลับร้ายให้กลายเป็นดี ใช้เรียกทรัพย์ ทำมาค้าขายดี พนันขันต่อเสี่ยงดวง เลข หวย ดีเยี่ยมเห็นผลทันใจ.

ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท


วัวตนนี้พระอาจารย์ ท่านว่าถูกตามตำรามีธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ครบถ้วน อิทธิฤทธิ์ทั้งเป็นเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด เสี่ยงดวงพนันขันต่ออยู่ในตัว ท่านได้ลงวิชาหัวใจพรายกระชิบ อันเป็นเลีศด้านการเสี่ยงดวง เสี่ยงโชค พนันขันต่อ เล่นเลข หวย หุ้น แข่งม้า ทุกประการ ลงนะหลงไหล นะมหาเสน่ห์ นะมหาละลวย ปลุกเสกด้วยหัวใจโลกธาตุ ดีเลีศครอบจักรวาล ดีทุกประการ ตามแต่จะอธิษฐานเอาเทอญ…

คาถาปลุกตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน

อุเยอะเย   สะมุหุติ  สุสิสุสัง  สุวะตะติ

( สวด 3 จบ ) อธิษฐานเอาเทอญ ประเสริฐทุกประการแล.

ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
ตะกรุดหนังวัวฟ้าผ่าทะลายบ่อน พระอาจารย์เทพ เทพอินโท
พระอาจารย์เทพ เทพอินโท พระอาจารย์เทพ เทพอินโท

 

 

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19

หลวงพ่อคูณ บารมี 91 ติดผ้าจีวร ย้อนยุค ปี 17 และ 19

หลวงพ่อคูณ รุ่น พระเทพวิทยาคม (คูณ) บารมี ๙๑ เหรียญพิเศษย้อนยุค ติดผ้าจีวรของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19

จัดสร้างทั้งหมด 6 เนื้อ จำนวนคือ :

1. เนื้อทองแดงเงินพดด้วง

– ย้อนยุค ปี 17 จัดสร้าง 10,000 เหรียญ

– ย้อนยุค ปี 19 จัดสร้าง 10,000 เหรียญ

2. เนื้อเงินบร็อนซ์

– ย้อนยุค ปี 17 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

– ย้อนยุค ปี 19 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

3. เนื้อทองแดงเก่า

– ย้อนยุค ปี 17 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

– ย้อนยุค ปี 19 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

4. เนื้อทองแดงผิวไฟ

– ย้อนยุค ปี 17 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

– ย้อนยุค ปี 19 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

5. เนื้อทองแดงรมดำ

– ย้อนยุค ปี 17 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

– ย้อนยุค ปี 19 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

6. เนื้อมันปู

– ย้อนยุค ปี 17 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

– ย้อนยุค ปี 19 จัดสร้าง 8,000 เหรียญ

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19

มวลสารที่นำมาผสมในการจัดสร้าง

ผงตะใบพระ , ชนวนนวะโลหะ , ชนวนเหรียญเก่า , ตลับเงินเก่าพร้อมแผ่นจาร , แผ่นชนวนจารพระเกจิ , แผ่นยันต์อธิษฐาน , ผงชักเหล็กน้ำพี้ , เหรียญเก่าพระเกจิ และยังมีจีวรหลวงพ่อคูณที่ คุณมวีเดช กิจการนนท์ ได้รับผ้าจีวร หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโท และได้รับอนุญาตในการจัดสร้างในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้จากท่านประธาน และคณะกรรมการ การวัดบ้านไร่ อย่างถูกต้องทุกเหรียญ เลี่ยมกรอบไมครอนสีทองทุกองค์ พร้อมบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกใส ด้านในบุ สร้างแบบย้อนยุคเหรียญ รุ่นสร้างบารมี 19 อันโด่งดัง และเป็นเหรียญดีเยี่ยมอีกรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อคูณ ที่น่าเก็บอย่างยิ่ง เพราะทั้งผู้สร้าง การจัดสร้าง ชนวนมวลสาร เจตนาการจัดสร้าง ยอดเยี่ยมมาก.

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19

เหรียญหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รุ่นบารมี 91 (ย้อนยุค รุ่น สร้างบารมี 19) ปี 2557 เนื้อพิเศษ ทองแดงเก่า สำหรับเนื้อนี้ น้อยนักจะมีการสร้าง ทองแดงเก่าสวย และดูมีเสน่ห์โดดเด่นเฉพาะไม่เหมือนใคร กรอบเข้ารูปกับพระ งดงามเป็นอย่างยิ่ง พิเศษสุดๆ เข้มขลังด้วยติดจีวรของ หลวงพ่อคูณ และชนวนมวลสารมหามงคล 8 ชนิดดังกล่าวเบื้องต้น พุทธคุณเด่นดีครอบจักรวาล ใครมีเหรียญรุ่นนี้ติดตัวไว้บูชา ถึอเป็นมงคลสูงยิ่ง.

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19

จัดสร้างโดย มูลนิธิพุทธคยา เป็นมูลนิธิใหญ่ เชื่อถือได้ ซึ่งวัตถุประสงค์จัดสร้างเพื่อ :

– สมทบกองทุนบูรณะวัดบ้านไร่

– สมทบทุนจัดสร้างรูปเหมือน ลพ.คูณ องค์ใหญ่ ณ วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2)

– สร้างศูนย์ปฏิบัตรธรรมชินบัญชร ภายใต้ฐานสมเด็จโต ณ มูลนิธิพุทธคยา

– สมทบทุนโรงเรียนธรรมมิกวิทยา มูลนิธิมิกฃน เพื่อช่วยเหลือคนตาบอดในประเทศไทย

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่

พิธีพุทธาภิเษก

หลวงพ่อคูณ ท่านเมตตาอธิษฐานจิต ในมหาพิธีใหญ่พุทธาภิเษก ในวันเสาร์ที่ 5 เมษา 2557 ณ.อุโบสถวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา , ตามความเชื่อโบราณถือว่า หากอธิษฐานจิตวันเสาร์ 5  ซึ่งเป็นวันมงคลสูงยิ่ง จะทำให้วัตถุมงคลนั้นมีพลังเข้มขลังสุดๆ.

เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19
เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19
เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19
เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ย้อนยุคปี 17 และ 19
มหาพิธีใหญ่พุทธาภิเษกเสาร์ 5 เมษายน 2557
มหาพิธีใหญ่พุทธาภิเษกเสาร์ 5 เมษายน 2557

ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์

ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน

วัดเกาะภู เมืองกาฬสินธุ์

ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู เมืองกาฬสินธุ์ อธิษฐานจิตด้วยมโนมยิทธิดวงแก้วมณีโชติ วิชาโบราณพันปี เคล็ดการบูชาเพื่อให้เห็นผลสำเร็จเร็วไว มีโชคลาภสมปรารถนา คือ เมื่ออยู่ในบ้านร้านค้า ให้เอาตะกรุดปักกระถางธูป แล้วสวดคาถาบูชา จุดธูปบูชาพระ , เมื่อออกจากบ้านเอาตะกรุดพกไว้กระเปาเสื้อ หรือแขวนคอ ติดต่อการงานสำเร็จทุกประการ ห้ามคาดเอวหรือใส่กระเปากางเกง.

 

ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์

พระสีวลี หรือ พระฉิมเป็นพระเถระ ที่พระพุทธเจ้ายกย่องว่า เป็นพระอรหันต์ที่เลีศทางลาภสักการะมาก หากผู้ใดมีพระสีวลีไว้บูชาประจำบ้านเรือน จะนำโชคมหาลาภ ความสำเร็จมาสู่ท่านผู้บูชา ในธุระกิจ การค้า หรือเคหาสน์สถานบ้านเรือน ให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป  การใช้ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี พกติดตัวจะเป็นสิริมงคล เป็นเมตตามหานิยม และช่วยป้องกันภัยอันตราย ผู้หมั่นสักการะอยู่เสมอ จะเจริญด้วยลาภ ถ้าไปค้าขาย หรือไปหาลาภ ให้ภาวนาคาถาพระฉิมนี้เป็นอารมณ์ไปก็ยิ่งดีนัก.

ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์

คาถาหัวใจพระสีวลี หรือ พระฉิม

นะชาลีติ

นะ  หมายถึ งนอบน้อม มีสัมมาคาราวะ

ชา  หมายถึง  ขวนขวายเรื่องการงาน

ลี   หมายถึง  ไม่นอนมาก ไม่นอนดึก ไม่ตื่นสาย

ติ   หมายถึง ว่าโดยทั้งหมด  ( ท่องตอนติดลูกค้า คุยกับผู้ใหญ่ ติดต่อการงาน )

ตั้งนะโม 3 จบ นะชาลีติ  ประสิทธิลาภา  ( ภาวนาในใจจะสำเร็จสมปรารถนา )

ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
ตะกรุดมหาลาภดวงแก้วพระสีวลี หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์
หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์ หลวงพ่อเคน วัดเกาะภู กาฬสินธุ์

พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุ่ย

พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย จ.ลำพูน

พระปิดตานะเศรษฐี หรือ” พระภควัมบดี ” แปลว่า ผู้มีความงดงามละม้ายเหมือนพระพุทธเจ้า เป็นพระอัครสาวกผู้มีความงดงามแห่งรูปกาย จนเกิดความคลั่งไคร่ของชายหญิง เกิดเรื่องพิพาทไม่จบสิ้น ทำให้เกิดสังเวชในจิต อันเกิดจากร่างกายที่งดงาม จึงตั้งจิตอธิษฐานให้ร่างกายอ้วนพลุ้ย ศรีษะใหญ่ ขาสั้น อันเป็นลักษณะของ พระภควัมบดี ในปัจจุบันแม้จะเปลี่ยนสรีระแล้ว ด้วยกุศลแห่งอดีตชาติ ก็ยังส่งผลให้ พระภควัมบดี ยังเป็นที่นิยมยกย่อง มีแต่ผู้ให้ลาภสักการะสรรเสริญตลอดมิขาด ด้วยกาลนี้ หลวงปู่ครูบานะ ท่านเมตตาอธิษฐานจิต พระปิดตา นะเศรษฐี ด้วยถือเคล็ดมหาลาภ สักการะมากมี กินไม่ไหวใช้ไม่หมด รับโชครับลาภมากมี.

พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย

คาถาบูชาพระปิดตานะเศรษฐี

ตั้งนะโม ( 3 จบ )

นะมามีมา  เงินคำมา  ทองคำมา  นะชาลิติ  นะมะพะธะ  นะโมพุทธายะ ( 3 จบ )

พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุ่ย
พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย
พระปิดตานะเศรษฐี หรือพระภควัมบดี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุ่ย จ.ลำพูน
พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย
พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุ่ย

พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุ่ย
พระปิดตานะเศรษฐี ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุ่ย
หลวงปู่ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย จ.ลำพูน หลวงปู่ครูบานะ สำนักสงฆ์ดอยอีฮุย จ.ลำพูน

พระพิมพ์ใบโพธิ์ เนื้อเกสร หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500 เนื้อเกสร

พระพิมพ์ใบโพธิ์ หลวงพ่อลี วัดอโศการาม

พระพิมพ์ใบโพธิ์ท่านพ่อลี  พระพิมพ์ที่ทำแบบใบโพธิ์นี้ เรียกว่า ” พระโพธิจักร ” ทำเป็นพระพุทธรูปปางแสดงพระธรรมจักร ประดิษฐ์อยู่ในใบโพธิ์ ต่อมาเนื่องจากเหตุบางประการ ท่านจึงทำเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ในใบโพธิ์เช่นเดียวกัน เหตุที่เปลี่ยนมาเป็นปางสมาธินั้น ท่านกล่าวไว้ในประวัติของท่านว่า วันหนึ่งเกิดนิมิตแปลกประหลาด ในคืนวันเงียบสงัดกำลังนั่งพิมพ์พระพุทธรูปอยู่ มีพระบรมธาตุองค์หนึ่งได้เสด็จมาราวปฏิหาริย์มาอยู่บนเตียงนอน มีลักษณะคล้ายรูปพระใบโพธิ์ที่กำลังพิมพ์อยู่ แต่พระใบโพธิ์ที่พิมพ์อยู่เป็นแบบพระแสดงพระธรรมจักร คือยกพระหัตถ์ 2 ข้างเป็นแบบแสดงพระธรรมเทศนา จึงได้ตั้งชื่อพระพิมพ์นี้ว่า ” พระโพธิจักร ”
พระพิมพ์ใบโพธิ์ เนื้อเกสร หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500 เนื้อเกสร
พระพิมพ์ใบโพธิ์ เนื้อเกสร หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500 เนื้อเกสร
พระพิมพ์ใบโพธิ์ เนื้อเกสร หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500 เนื้อเกสร
พระพิมพ์ใบโพธิ์ เนื้อเกสร หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500 เนื้อเกสร
หลวงพ่อลี วัดอโศการาม หลวงพ่อลี วัดอโศการาม

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

ผงจินดามณีของ หลวงปู่บุญ นั้นนับว่าเป็นสุดยอดของ วัดกลางบางแก้ว เนื่องจากยาจินดามณี เป็นตำรับยาที่มีคุณวิเศษสารพัด และมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ตำรับยานี้เป็นของตกทอดคู่มากับวัดกลางบางแก้ว ว่ากันว่า ตำรับยาฉบับนี้เป็นของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา และตกทอดสู่ วัดกลางบางแก้ว.

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

ตำรับยาฉบับนี้เป็นสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดาร และอนุภาพอัศจรรย์ยิ่ง เท่าที่ข้อมูลได้มาคือ หลวงปู่บุญ ท่านสร้างผงยาจินดามณีไว้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือ ในช่วงปี พ.ศ. 2435 และ ปี พ.ศ. 2476 ในส่วนของลูกประคำ(เม็ดประคำ)สร้างไว้ไม่มากนัก ท่านจะสร้างมอบให้เฉพาะแก่ลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิดท่าน รวมทั้งคหบดี เจ้านายผู้หลักผู้ใหญ่ชั้นสูงที่มาอุปถัมถ์ วัดกลางบางแก้ว เหตุที่สร้างน้อยเนื่องมาจาก มวลสารที่นำมาสร้างผงยาจินดามณีนั้นหายากมาก.

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

พุทธคุณลูกประคำผงจินดามณีเด่นทางด้าน เมตตามหานิยม โดยภาวนา ” นะชาลิติ ” มักจะให้โชคลาภ

ภาวนาด้วย ” พุธโท  โม  เมตตา  นะ  ไฝ่หา ” จะมีคุณวิเศษทาง เมตตามหานิยม

นอกจากนี้ยังช่วยรักษาโรคภัย กันคุณไสย ยาสั่ง เสนียดจัญไรได้ดีมาก ใครมีไว้บูชาถือเป็นบุญนำพาวาสนาส่งยิ่งนัก.

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว

พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ท่านสร้างแจกแก่ชาวบ้าน ที่ร่วมบริจาคทุนบูรณะสิ่งก่อสร้างภายในวัด การสร้างพระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ของท่านสร้างหลายวาระ จำนวนครั้งละไม่มาก สันนิษฐานว่า “เริ่มสร้างพระในช่วงก่อสร้างพระอุโบสถ วัดสะพานสูง ปี 2397” และสร้างเรื่อยมาจนถึงท้ายอายุขัยของ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง โดยมี หลวงปู่กลิ่น ผู้เป็นศิษย์เอกเป็นแม่งานดำเนินการ.

 หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

 

พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ถือเป็นตะกรุดชั้นยอดของหลวงปู่เลยก็ว่าได้ เพราะท่านสร้างไว้ไม่มาก วิธีการสร้างของท่านยากยิ่งพอสมควญ เพราะจะต้องดูฤกษ์ดูยาม และ ต้องทำพิธีบายศรี มีหัวหมู ผู้ที่จะทำต้องจัดหาเครื่องทำพิธีมาครบ เอาหนังหน้าผากเสือมาให้ท่าน เสือหนึ่งตัวใช้ทำตะกรุดได้ดอกเดียว เพราะตะบะมหาอำนาจถูกดึงออกมาหมดแล้ว , ตะกรุดหน้าผากเสือของ หลวงปู่บุญ คือท่านกำหนดเอาหนังส่วนเหนือของตาเสือขึ้นไประหว่างทั้งสองเฉพาะช่วงนั้นเท่านั้น เมื่อได้หนังเสือดังกล่าวมาแล้ว ต้องให้หลวงปู่กำหนดฤกษ์ จากนั้นก็ตั้งเครื่องสังเวยบูชาเทวดา ครูอาจารย์ แล้วท่านก็เข้าพิธีลงอักขระเลขยันต์บนแผ่นหนัง ซึ่งพิธีแต่ละครั้งทำได้ครั้งละเพียง 1 ดอกเท่านั้น หลังจากนั้นท่านจะปลุกเสกจนครบ 7 เสาร์ 7 อังคาร จึงเป็นอันเสร็จพิธีอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วนำไปใช้ได้เลย.

ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

กรรมวิธีสร้างที่ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะหนังหน้าผากเสือ นับว่าหายากมากกว่าจะได้มาชิ้นหนึ่ง จากเสือตัวเดียว ทำได้เพียงดอกเดียวเท่านั้น ดังนั้นในช่วงชีวิตของหลวงปู่บุญ จึงสร้างไว้ได้ไม่มากนัก มีผู้คนจำนวนน้อยมากที่จะมีโอกาสครอบครองเป็นเจ้าของ ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ แห่งวัดกลางบางแก้ว เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี.

หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม

  • หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เกิดเมื่อวันจันทร์ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 8 ปีวอก จุลศักราช 1210 สัมฤทธิศกเวลาย่ำรุ่งใกล้สว่าง ตรงกับวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2391 เป็นปีที่ 25 แห่งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.3
  • ท่านมรณภาพลงเมื่อวันที่ 30มีนาคม พ.ศ. 2478 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 ปีชวด เวลา 10.45 น. ด้วยอาการอาพาธ ณ กุฏิของท่าน สิริอายุ 87 ปี พรรษา 69 .

ลักษณะตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ลักษณะเป็นหนังเสือม้วน ถักเชือกคลุมไว้แน่น เพราะหนังเสือที่แห้งม้วนยาก หากถักพันไม่แน่น หนังตะกรุดที่ตึงจะคลายตัวออกทันที และลงรักอีกให้เชือกแน่น ป้องกันเชือกผุขาดเร็ว และ ยังมีที่ถักเชือกแล้วไม่ลงรัก เชือกเปื่อยขาดคลายตัวออกไป จนเห็นเส้นขนก็มีให้เห็นกันบ้าง , การถักมีหลายแบบไม่แน่นอน มีทั้งถักคลุมหัวท้าย – ถักไม่คลุมหัวท้าย  .

ลักษณะตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เกิดจากการทำมือในยุคสมัยนั้นนั่นเอง.

ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
ตะกรุดหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว

 

ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก

ตะกรุดไม่รวกลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก

ลวงพ่อทา ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านนครปฐมมักเรียกท่านว่า “หลวงพ่อเสือ” ซึ่งก็คือ หลวงพ่อทา หรือ พระครูอุตรการบดี วัดพะเนียงแตกนั่นเอง , ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าแก่ของนครปฐม การสืบค้นประวัติของท่านที่บันทึกจากปากคำของศิษยานุศิษย์ของท่าน ในจำนวนนั้นก็มีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคต่อๆมาอีกหลายท่าน เช่น หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง , หลวงพ่อวงศ์ ( พระครูพรหมวิสุทธิ์ ) วัดทุ่งผักกรูด , หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม เป็นต้น…และหลักฐานรูปถ่ายคู่กับพัดยศ ระบุ ร.ศ. 127 ( พ.ศ.2452 ) ที่จะกล่าวดังต่อไปนี้ :

ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก

ลวงพ่อทาเป็นชาวโพธาราม จ.ราชบุรี บางกระแสว่าโยมบิดาของท่านมีเชื้อสายมาจากเวียงจันทน์  จากการนับอายุปีที่ท่านมรณภาพ ก็พอสันนิษฐานได้ว่า ท่านเกิดในปี พ.ศ.2366 เมื่อท่านมีอายุได้ 6 ขวบ โยมบิดามารดาได้นำท่านไปฝากเรียนหนังสือที่วัดโพธาราม จนอ่านออกเขียนได้ และ พอท่านอายุได้ 15 ปี พ.ศ.2381 ท่านก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดโพธาราม โดยมีหลวงพ่อทาน เป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น

ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
เมื่อท่านมีอายุครบบวช ปี พ.ศ.2386 จึงได้รับอุปสมบทที่วัดบ้านฆ้อง ( วัดฆ้อง ) อ.โพธาราม  ซึ่งในสมัยนั้นเป็นสำนักปฏิบัติธรรม และ สอนวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ท่านก็ได้อยู่จำพรรษา และ ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน เรียนวิชาพุทธาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ และ อาจารย์ชาวมอญรูปหนึ่ง ซึ่งมีวิทยาคมแกร่งกล้ามาก , ลวงพ่อทาเป็นผู้ที่ขยันหมั่นเพียรใฝ่ศึกษาหาความรู้ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างจริงจัง จึงเป็นที่รักใคร่ของพระอาจารย์ทั้งสอง และ ได้ถ่ายทอดวิชาให้อย่างไม่หวงแหน.
ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
ท่านจำพรรษาที่วัดฆ้องหลายปี ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานจนเชี่ยวชาญแล้ว ท่านจึงได้กราบขออนุญาตพระอุปัชฌาย์ เพื่อออกธุดงค์แสวงหาวิเวกและปฏิบัติกรรมฐานต่อไป ท่านออกธุดงค์ตามป่าเขาดงดิบอยู่หลายปี และ ได้พบพระเกจิอาจารย์ในป่าที่มีจิตกล้าแข็ง ท่านก็ได้ศึกษาพุทธาคมด้วย  จนถึงประมาณ ปี พ.ศ.2417 ท่านได้ธุดงค์มาถึงตำบลพะเนียงแตก ( ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นตำบลมาบแค ) ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ 51 ปี ท่านได้พบสถานที่เป็นป่ารกชัฏนอกเมือง และ เห็นว่าเป็นที่วิเวก เหมาะแก่การเจริญภาวนาธรรม ท่านจึงได้ปักกลดพักแรม และ ได้ทราบต่อมาว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน แต่กลับมาเป็นวัดรกร้าง.
ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
เมื่อชาวบ้านมาพบ หลวงพ่อทา ปักกลดพักแรมอยู่ที่ดังกล่าว จึงพากันขอนิมนต์ท่านให้มาจำพรรษาอยู่ในวัดร้างแห่งนั้น ท่านก็มาอยู่จำพรรษา และ ได้พัฒนาวัดขึ้นมาใหม่ใน ปี พ.ศ.2430 พร้อมทั้งเสนาสนะต่างๆและพระอุโบสถ นอกจากนี้ท่านยังได้สร้างวัดอื่นอีกในแถบนั้นพร้อมๆกันคือ วัดบางหลวง วัดดอนเตาอิฐ วัดสองห้อง เป็นต้น…หลวงพ่อทา เป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านรักและเคารพนับถือมาก ท่านอบรมสั่งสอนชาวบ้านจนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ไปทั่วทั้งในจังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี ชัยนาท เพชรบุรี ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงอีก จึงมีพระเณรมาบวชอยู่วัดพะเนียงแตกมากมาย เมื่อท่านดำริจะสร้างอะไร ก็มีชาวบ้านและลูกศิษย์พร้อมใจกันร่วมสร้างให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี.
ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ทรงทราบถึงเกียรติคุณดังกล่าว จึงมีรับสั่งโปรดเกล้าฯให้เข้าเฝ้าอยู่เสมอๆ ดังจะเห็นได้ว่าในพระราชพิธีต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดฯให้นิมนต์ ลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก บ่อยครั้งเช่น พิธีพระศพสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านก็ได้รับนิมนต์ด้วย และรับถวายพัดยศ เนื่องในพิธีหลวงการพระศพดังกล่าว ซึ่งปรากฏรูปถ่ายของ ลวงพ่อทา ในปี พ.ศ.2452 พัดที่อยู่ทางด้านขวาของท่านเป็นพัดยศพุดตานปักลายใบเทศรักร้อย และ ทางด้านซ้ายของท่านเป็นพัดรองการ พระศพสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ และทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระเถระ 4 รูปคือ

    1. พระครูอุตรการบดี ประจำทิศเหนือพระเถระคือ หลวงพ่อทา ได้รับแต่งตั้งเป็นรูปแรกของตำแหน่งนั้น
    2. พระครูทักษินณานุกิจ ประจำทิศใต้พระเถระคือ หลวงพ่อเงิน วัดสรรเพชร
    3. พระครูปริมานุรักษ์ ประจำทิศตาวันออกพระเถระคือ หลวงพ่อคต วัดใหม่
    4. พระครูปัจฉิมทิศบริหาร ประจำทิศตาวันตกพระเถระคือ หลวงพ่อนาค วัดห้วยจรเข้.

 

ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
หลวงพ่อทา ยังเป็นที่เกรงขามของบรรดานักเลงหัวไม้ทั้งหลาย ดังจะเห็นได้ว่างานวัดพะเนียงแตก ในสมัยหลวงพ่อทานั้น ท่านไม่เคยขอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านหรือทางตำรวจมารักษาความสงบเลย เพราะในยุคนั้นเมื่อมีงานวัด ทุกวัดก็จะเป็นการรวมพวกนักเลงหัวไม้ต่างถิ่นที่เข้ามาเที่ยวงานวัดของทุกวัด และมักมีเรื่องตีรันฟันแทงกันอยู่เนืองนิตย์ แต่ที่วัดพะเนียงแตกกลับไม่มีใครกล้าจะมีเรื่องในเขตวัดเลย , หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เล่าให้ฟังว่า พวกนักเลงตำบลตาก้องกับตำบลพะเนียงแตกต่างก็ไม่ถูกกัน เจอกันที่ไหนก็มักจะมีเรื่องกันทุกที แต่ที่ในงานวัดพะเนียงแตกกลับไม่กล้าตีกัน เนื่องจาก หลวงพ่อทา จะถือไม้พลองตรวจตราทั่วงาน เป็นที่ยำเกรงแก่พวกหัวไม้ทั้งหลาย ขนาดคนเมาเอะอะ พอเห็น หลวงพ่อทา เดินมาก็แทบจะหายเมาเลยทีเดียว ทุกคนต่างเคารพยำเกรงหลวงพ่อทามาก จนได้ฉายาว่า ” หลวงพ่อเสือ ”
ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก

การมรณภาพ

ลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ท่านมรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อปี พ.ศ.2462 สิริอายุได้ 96 ปี พรรษา 76

วัตถุมงคลหลวงพ่อาทา วัดพะเนียงแตก

วัตถุมงคลที่ หลวงพ่อทา ได้สร้างไว้มีหลายอย่างเช่น ะตกรุด พระปิดตาเนื้อสัมฤทธิ์และเนื้อเมฆพัด มีหลายแบบ ทั้งเกลอเดี่ยวและสามเกลอ มีเหรียญหล่อรุ่นแรกและรุ่นสอง , วัตถุมงคลที่ หลวงพ่อทา ได้สร้างไว้ล้วนเป็นที่นิยม เพราะหาชมได้ยากมากๆ.

ตะกรุดไม้รวก ลงรักถักเชือก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
หลวงพ่อทา ฉายา หลวงพ่อเสือ วัดพะเนียงแตก เกจิแห่งนครปฐม หลวงพ่อทา ฉายา “หลวงพ่อเสือ” วัดพะเนียงแตก เกจิแห่งนครปฐม