พระขุนแผนผงพรายกุมาร

ความลับแห่งมนต์ขลัง-มวลสารว่านมหาเสน่ห์ ของพระขุนแผน

ผงพรายมหาภูติ

หัวใจสำคัญและมวลสารหลักที่ทำให้พระขุนแผนรุ่นนี้มีชื่อเสียงที่สุดคือ ผงพรายกุมารมหาภูติ ซึ่งเป็นผงที่หลวงปู่ทิม อิสริโก ได้มอบหมายให้ลูกศิษย์คนสำคัญคือ อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ เป็นผู้จัดหาและดำเนินการตามตำรา โดยนำอัฐิหรือกระดูกของเด็กที่เสียชีวิตวันเสาร์และเผาวันอังคาร (ตามตำราโหราศาสตร์โบราณถือเป็นวันที่แข็งและมีพลัง) มาเป็นมวลสารหลัก จากนั้นหลวงปู่ทิมได้ทำพิธีและปลุกเสกตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร

พุทธคุณของผงพรายกุมาร

พุทธคุณที่โดดเด่นและเป็นที่ประจักษ์ของผงพรายกุมารคือ เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ที่รุนแรงและครอบจักรวาล เชื่อกันว่าผงพรายกุมารมีพลังดึงดูดผู้คนให้เข้ามารักใคร่เอ็นดู มีเสน่ห์ต่อผู้ที่พบเห็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเด่นด้าน โชคลาภ และ ค้าขาย ทำให้เป็นที่แสวงหาของผู้คนทั่วไป นักสะสม เซียนพระ ผู้ที่ทำธุรกิจการค้าขาย…

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร


🌿 การเสริมพุทธคุณด้วยว่านยา และการกำเนิดเนื้อสีต่าง ๆของพระขุนแผน ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม

นอกจากผงพรายกุมารแล้ว หลวงปู่ทิมยังได้ผสมมวลสารจากธรรมชาติและว่านยาต่าง ๆ เข้าไปด้วย ซึ่งมวลสารเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนผสมให้จับตัวเป็นเนื้อพระเท่านั้น แต่ยังเป็นการ เสริมพุทธคุณเฉพาะด้าน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อพระมีสีสันที่แตกต่างกันออกไป

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร

1. ว่านดอกทอง (เนื้อสีเหลือง)

ว่านดอกทอง ถือเป็นว่านทางมหาเสน่ห์อย่างแท้จริง การนำน้ำว่านหรือผงว่านดอกทองมาผสม ทำให้เนื้อพระมีสีออก สีเหลือง หรือ สีเหลืองนวล พุทธคุณของเนื้อสีนี้จึงถูกเน้นหนักไปในด้าน มหาเสน่ห์ และ ราคะ คือมีความรุนแรงในการดึงดูดเพศตรงข้าม ผู้คนเห็นแล้วเมตตาหลงใหล เจรจาค้าขายคล่องตัวเป็นพิเศษ

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร

2. ว่านเถาวัลย์หลง (เนื้อสีเขียว)

ว่านเถาวัลย์หลง เป็นอีกหนึ่งว่านสำคัญทางด้าน เมตตา มหานิยม ตามชื่อของว่าน คือผู้คนเห็นแล้วจะรัก หลงใหล คล้อยตาม การผสมว่านเถาวัลย์หลงทำให้เนื้อพระมีสีออก สีเขียว พุทธคุณของเนื้อนี้จึงเน้นไปที่การ เจรจา มหาละลวย และการงานที่ต้องติดต่อผู้คนให้เกิดความสำเร็จลุล่วง

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร

3. ปูนกินหมากและว่านสบู่เลือด (เนื้อสีแดง-ชมพู)

  • ปูนกินหมาก ที่หลวงปู่ทิมฉัน เป็นมวลสารสำคัญที่ใช้ประสานเนื้อพระ การผสมปูนกินหมากทำให้เนื้อพระมีสีออก สีแดง หรือ สีแดงอมชมพู พุทธคุณเน้นด้าน เมตตา โชคลาภ และความเป็นสิริมงคลตามตำราโบราณ

  • นอกจากนี้ ยังมี ว่านสบู่เลือด ซึ่งเป็นว่านที่มีสรรพคุณทางด้าน คงกระพันชาตรี และเมื่อนำมาผสมจะได้เนื้อพระออกเป็น สีชมพู อ่อน ๆ เนื้อนี้จึงเป็นเนื้อพิเศษที่เสริมพุทธคุณด้านการป้องกันภัยควบคู่ไปกับเมตตา

  • พระขุนแผน ผงพรายกุมาร

4. ว่านไพรดำ (เนื้อสีดำ)

ว่านไพรดำ มีคุณทางด้าน คงกระพันชาตรี และ มหาอุด ตามความเชื่อโบราณ การผสมน้ำว่านไพรดำเข้าไปในมวลสารจะทำให้เนื้อพระมีสีออก สีดำ เนื้อสีนี้จึงโดดเด่นในการ คุ้มครองป้องกันภัย แคล้วคลาดจากอันตรายและอาวุธต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเสริมความเข้มขลังด้านการป้องกันให้กับผู้บูชา

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร

5. เนื้อสีพิเศษหายาก (สีฟ้า, สีม่วง)

นอกจากเนื้อหลักแล้ว ยังมีการสร้างเนื้อสีพิเศษที่สร้างน้อยและหายาก เช่น สีฟ้า ที่เชื่อว่าผสม น้ำครามธรรมชาติ และ สีม่วง ที่เชื่อว่าผสม น้ำดอกอัญชัน เนื้อเหล่านี้จัดเป็นเนื้อพิเศษที่เน้นความหายาก และเชื่อว่ามีพุทธคุณด้าน เมตตา มหานิยม เช่นกันตามเจตนาเดิมของการสร้างพระขุนแผน

พระขุนแผน ผงพรายกุมาร


แม้ว่าพระขุนแผนผงพรายกุมารทุกองค์จะมีพุทธคุณด้าน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นหลักจาก ผงพรายกุมารมหาภูติ แต่การเลือกใช้มวลสารว่านยาที่มีสีสันแตกต่างกัน ก็ช่วยเสริมพุทธคุณในด้านเฉพาะทาง เช่น เสน่ห์จัดจ้าน (สีเหลือง/ดอกทอง) หรือคงกระพัน (สีดำ/ไพรดำ) ทำให้พระรุ่นนี้มีความสมบูรณ์และครบถ้วนในด้านพุทธคุณหรือเรียกได้ว่าครอบจักรวานก็ว่าได้

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ

พระขุนแผนผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดทองคำ องค์ครู

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ ถ้าจะให้เล่า ขอบอกเลยว่านี่ไม่ใช่แค่พระเครื่อง แต่เป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ เป็นที่สุดของที่สุดแล้วจริงๆ

ตำนานที่ไม่ใช่แค่เรื่องเล่า

พระขุนแผนผงพรายกุมาร พิมพ์ธรรมดาที่ไม่ได้ฝังตะกรุดก็ว่ากันว่าเป็นสุดยอดของพระเครื่องยุคหลังกึ่งพุทธกาลแล้ว แต่สำหรับ องค์ครูฝังตะกรุดทองคำ ขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลย เพราะไม่ได้หาเจอกันง่ายๆ เหมือนเดินไปซื้อของในตลาด เพราะหลวงปู่ท่านสร้างไว้ไม่กี่องค์เท่านั้นเอง

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ

มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ตอนที่หลวงปู่ทิมท่านสร้างพระชุดนี้ ท่านได้ตั้งใจบรรจงสร้างเป็นพิเศษ โดยเฉพาะองค์ครูที่ฝังตะกรุดทองคำ ท่านได้พิจารณาแล้วก่อนที่จะนำตะกรุดทองคำที่ลงอักขระและปลุกเสกอย่างเข้มขลังมาฝังไว้ในองค์พระ มันไม่ใช่แค่การฝังตะกรุดเฉยๆ แต่มันคือการใส่หัวใจ ใส่จิตวิญญาณแห่งความเมตตาและอิทธิฤทธิ์ลงไปในพระแต่ละองค์อย่างแท้จริง

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ

ทำไมถึงหายากและน่าสะสมจนราคาวิ่งไปไกลลิบ?
พระขุนแผนผงพรายกุมาร องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ ทำไมถึงหายากและน่าสะสมมากขนาดนี้ ขอแบ่งเป็นข้อๆ ให้รู้กัน

จำนวนการสร้างที่น้อยมาก: อย่างที่บอกไปตอนแรก องค์ครูฝังตะกรุดทองคำมีจำนวนที่น้อยสุดๆ ว่ากันว่าอยู่ที่หลักร้อยองค์ด้วยซ้ำไปในพิมพ์ใหญ่ แล้วลองนึกดูว่าพระที่สร้างน้อยขนาดนี้ จะหาเจอได้สักกี่องค์ที่ยังสวยสมบูรณ์อยู่ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ พระก็ยิ่งร่อยหรอและหมุนเวียนเปลี่ยนมือไปมากเท่านั้น ทำให้การตามหาพระที่แท้และทันยุคยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ

มวลสารที่ทรงคุณค่า: มวลสารหลักของพระขุนแผนรุ่นนี้คือ ผงพรายกุมาร ที่เป็นสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทิมท่านสร้างและปลุกเสกเอง มีพุทธคุณโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และค้าขาย ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พระพิมพ์นี้เป็นที่ต้องการของคนทุกวงการ

ตะกรุดทองคำที่ทรงพลัง: องค์ครูที่มีการฝังตะกรุดทองคำจะยิ่งเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณให้สูงขึ้นไปอีก เพราะตะกรุดทองคำแต่ละดอกล้วนผ่านพิธีกรรมปลุกเสกอย่างเข้มข้นจากหลวงปู่ทิมมาแล้ว ทำให้องค์พระมีพุทธานุภาพที่สมบูรณ์แบบ ทั้งด้านเมตตา มหาเสน่ห์ และแคล้วคลาดปลอดภัย

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อิสริโก องค์ครู ฝังตะกรุดทองคำ

ประสบการณ์ที่เล่าขานกันไม่รู้จบ: คนบ้านค่าย หรือคนระยองส่วนใหญ่ที่ได้บูชาพระขุนแผนหลวงปู่ทิมมักจะมีประสบการณ์ตรงกันในเรื่องของความเมตตามหานิยมและโชคลาภอย่างน่าอัศจรรย์ เรื่องราวเหล่านี้ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ความศรัทธาที่มีต่อพระชุดนี้ไม่เคยจางหายไปเลย

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม องค์ครูฝังตะกรุดทองคำ เหมือนเพชรในตมที่ส่องประกายแสงออกมาไม่รู้จบ ไม่ใช่แค่พระเครื่องที่เอาไว้แขวนคอ แต่เป็นมรดกทางพุทธศิลป์และพุทธคุณที่ทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถ้าใครได้ครอบครองไว้ บอกเลยว่านอกจากจะเป็นบุญวาสนาแล้ว ยังเป็นการได้บูชาวัตถุมงคลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและบารมีของหลวงปู่ทิม อิสริโก อย่างแท้จริง.

วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง

ประวัติวัดละหารไร่ จังหวัดระยอง

วัดละหารไร่ ผู้เต่าผู้แก่เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อปลายปี 2309 พระยาตาก นำไพร่พลมากกว่า 500 คน ตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่ามุ่งมายังชายฝั่งทะเลตะวันออก มาพักทัพที่ทุ่งละหารใหญ่ ได้นำช้างศึก 3 เชือกและม้าศึก ลงอาบน้ำในบึงใหญ่ตรงบริเวณที่มีน้ำซึมและเย็นตลอดปีเรียกว่า หล่มน้ำเย็นหรือวังสามพระยา

เมื่อปี พ..2530 จังหวัดระยองได้ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วังสามพญา เพื่อนำไปร่วมพิธีเทวาภิเษกในพระอุโบสถวัดแก้ว จังหวัดระยองได้ทำเอกสารประกอบ พิธีการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่า :

วัดละหารไรได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.. 2354 โดยหลวงพ่อสังข์เฒ่า รองเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ สมัยนั้นมีพื้นที่ว่างเปล่าฝั่งตรงข้ามวัดละหารใหญ่ทางด้านเหนือเป็นจำนวนมากเป็นทำเล เหมาะกับการปลูกพืชผัก พระสงฆ์วัดละหารใหญ่จึงมาสร้าง กุฎิ ปลูกพืชผักไว้ฉัน ต่อมาก็มีผู้คนเข้ามาหาหักร้างถางพงมากขึ้นได้มีการก่อสร้างกุฏิขึ้น มีพระสงฆ์จำพรรษามากขึ้น จากที่เรียกว่าไร่วัด ก็เปลี่ยนเป็นวัดไร่หรือวัดไร่วารี มีหลวงปู่สังข์เฒ่าผู้มีอาคมแก่กล้าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาคุณพ่อเฒ่าจันทร์เจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่มรณภาพลง หลวงพ่อสังข์เฒ่าจึงกลับไปเป็นเจ้าอาวาส วัดละหารใหญ่ ส่วนวัดละหารไร่มีหลวงพ่อแดง หลวงพ่อเกิด หลวงพ่อสิงห์ หลวงพ่อจ๋วม เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาตามลำดับ ต่อมาหลวงพ่อจ๋วมได้ลาสิกขา ตำแหน่งเจ้าอาวาสจึงว่างลงพอดีกับหลวงปู่ทิม เดินทางกลับมาอยู่ที่วัดละหารไร่ ชาวบ้านจึงนิมนต์ ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ประมาณปี 2450 จนถึงกาลมรณภาพเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2518.

วัดละหารไร่ จังหวัดละยอง

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องครั้งนั้น ในบรรดาลูกศิษย์ยุคแรกของหลวงปู่หิม ทั้งหมด ไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการ เพราะต่างคนต่างก็เกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งโบราณกล่าวไว้ว่ามีความดุร้ายและหวงลูกมาก ถึงขั้นตามเอาชีวิตกันเลยทีเดียว มีแต่เพียง หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำกะโหลกพรายกุมาร วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าข้าวัดละหารใหญ่ (ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น พระเครื่อง และวัตถุมงคลต่างๆ.

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ผงพรายกุมารมหาภูติ

ในกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกรได้ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่อง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแก่ขาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ต่อไปในวันข้างหน้า โดยเฉพาะงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในการนี้หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร

ครั้งนั้นเมื่อมีเพียง หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้ารับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำ กะโหลกพรายกุมาร วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าข้าวัดละหารใหญ่ ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น

ผงพรายกุมารมหาภูติซึ่งหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่ง วัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา บารมีของหลวงปู่ทิม และคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิให้นั้น ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจเกิดความปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ…หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ.

ระขุนแผนผงพรายกุมาร เนื้อเขียว

แม่นางพราย-พรายกุมาร

ดวงวิญญาณของอาจารย์นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่ปกปักรักษาคุ้มครองที่วัดละหารไร่

หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ได้กล่าวย้ำว่า การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่น ดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีวันดี ตามที่ หลวงปู่ทิม ได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักษระพระยันต์ดีต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ 9 รูป โดยหลวงปู่หิม อิสริโก เป็นประธานสงฆ์เขียนอักระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป…

การปลุกเสกมวลสารพรายกุมาร

การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตินั้น หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็น กึ่งเทพกึ่งภูติ เป็นมหาภูติขวาและซ้าย (พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูตซ้ายขวา)

วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณ พิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิคอยช่วยเหลือ คุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ครัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสร็จ พิธีเรียบร้อยแล้วได้ผงพรายกุมารมหาภูติบริสุทธิ์สีขาวหม่นอมเทา ประมาณ 1 ถาดใหญ่ เมื่อแบ่งผสมผงว่านมหามงคลจะได้ผงพรายกุมารมหาภูติเนื้อละเอียดสีน้ำตาลเข้มประมาณ 1 กะละมังใหญ่ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกุฎิหลวงปู่ทิมเมื่อจะทำพระเครื่อง จึงจะขออนุญาตหลวงปู่ทิมไปตักแบ่งเอามาผสมผงที่จะกด พิมพ์พระ อีกครั้งหนึ่ง , หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวยืนยันโดยเห็นกับตาตนเองว่าผงที่หลวงปู่ทิม อิสริโก เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ นั้น หลุดร่วงทะลุลอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นพระอุโบสถวัดละหารไร่ ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินความจริงแต่อย่างใด แต่กล่าวเปิดเผยเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ศรัทธาหลวงปู่ทิม อิสริโก จะได้เกิดความปิติ และซาบซึ้ง ในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิม หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา “พระผงขุนแผนพรายกุมาร “นับว่า ท่านมีของวิเศษขั้นสูงอยู่กับตัว จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา หลวงปู่ท่านกล่าวว่าพระของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปไม่ข้าก็เร็ว..

พระขุนแผนผงพรายกุมาร เนื้อเขียว พิมพ์ใหญ่นิยมพระขุนแผนผงพรายกุมาร เนื้อเขียว พิมพ์ใหญ่นิยม

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็น พระขุนแผนที่มีความ ต้องการในตลาดสูงมากราคาขยับ จนแพงกว่าพระขุนแผน พระกรุเก่าๆ ผงพรายกุมารมหาภูติ ที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า:

ผงพรายกุมารการทำผงพรายกุมาร นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้สร้างจะต้องกำหนดฤกษ์ผานาทีตลอดจนพิธีกรรมต่างๆ ให้ถูกต้องตามตำรา ซึ่งเคล็ด จะเป็นเคล็ดการสร้างโดยนำภูติ (ไม่ใช่ผี) ที่ยังไม่ถึงเวลาจุติแล้วมีเหตุต้องมีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควร มาอธิษฐานจิตบวชให้เป็นเทพ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ที่ทำได้จะต้องสำเร็จธรรมชั้นสูงเท่านั้น เมื่อภูติได้รับการบวชเป็นเทพ เราจะเรียกว่าพ่อพรายชื่อเต็มก็คือพ่อพรายมหาภูติมีฤทธิ์ มีเดช มีความศักดิสิทธิ์ในตัวเอง

พระเกจิอาจารย์ที่สร้างผงพรายกุมารได้ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อาราธนาพกติดตัว ที่วงการยอมรับถือเป็นต้นตำรับ ก็คือ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม ผู้สร้างกุมารทองอันโด่งดังและหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ จ.ระยอง

ดังนั้นเมื่อนำคุณเทพมารวมกับคุณพระทำให้ “พระผงพรายกุมาร” มีประสบการณ์แปลกๆ เรื่องราวปาฏิหาริย์อยู่เสมอๆ นั่นอาจเพราะพ่อพรายจะออกมาช่วยในเรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศล คนที่บูชาพระขุนแผนผงพรายกุมาร เลยมักจะได้พบสิ่งมหัศจรรย์ สัมผัสพิเศษต่างๆอยู่เสมอ เมื่อมีความเชื่อมาบารมีก็จะเกิดอย่างแน่นอน…

พระขุนแผนผงพรายกุมาร เนื้อว่านดอกทอง นิยม

พระขุนแผนผงพรายกุมาร เนื้อว่านดอกทอง พิมพ์ใหญ่นิยม