หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม จ.นราธิวาส
ท่านมีนามเดิมว่า ดำ ไกรน้อย เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2484 ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นบุตรของนายจันทร์และนางจันทร์ ไกรน้อย ในวัยเด็กบิดานำท่านมาฝากไว้เรียนที่วัดใหม่นภารามจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีพระอธิการจันทร์อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่นภารามเป็นผู้ดูแล และอบรมความประพฤติ ซึ่งในวัยเด็กท่านดำก็เป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เกเรเหมือนเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน เนื่องจากครอบครัวของท่านเป็นผู้ที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณีไทยมาตั้งแต่โบราณ เมื่อถึงเทศกาลทำบุญก็จะพากันเข้าวัดทำบุญสุนทานอยู่เป็นประจำทำให้ท่านดำมีจิตใจที่อ่อนโยนมีเมตตาต่อสัตว์อื่นๆเหมือนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นและท่านเป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ในการงานเช่นการทำไร่ไถนา รวมทั้งช่างก่อสร้างที่มีฝีมือคนหนึ่ง เมื่ออายุครบ 20 ปีท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2504 ณ พัทธสีมา วัดใหม่นภาราม โดยมีพระครูนิพัทธกาลัญญา วัดประชุมชลธาดาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดม่วง ฐิตธัมโมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการนุ้ยวัดใหม่นภารามเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า” จันทสโร “ หลวงพ่อดำได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรมสามารถสอบนักธรรมชั้นตรีและนักธรรมชั้นโทได้ตามลำดับ ต่อมาจึงสนใจใฝ่รู้และได้เรียนศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานไสยศาสตร์ คาถาอาคมได้ศึกษาวิชาเหล่านี้จากคำภีร์สมุดข่อยใบราณอันเป็นของเก่าแก่ภายในวัด และศึกษาหลักโดยตรงกับเจ้าอาวาสจนมีความเชี่ยวชาญทางด้านภาคปฏิบัติปริยัติและปฏิเวธในพรรษาที่ 4 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดประชาภิรมย์อยู่ในตัวเมืองนราธิวาส ในช่วงนี้ท่านก็สามารถสอบผ่านนักธรรมชั้นเอก และจำพรรษาอยู่ที่นั่นนานถึง 10 พรรษา.
หลวงพ่อดำเป็นพระธุดงค์ เคยท่องเที่ยวธุดงค์ไปทั่วภาคเหนือเป็นเวลาหลายปี สถานที่ปลีกวิเวกส่วนมากมักจะเป็นป่าช้า ป่าเขาลำเนาไพรในระหว่างการธุดงค์นี้เมื่อได้ยินข่าวว่าครูบาอาจารย์ท่านไหนดีก็จะไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐาน เรียนคาถาอาคม และตำราแพทย์แผนโบราณท่านก็ได้ศึกษาบ้าง หลังจากนั้นท่านได้เดินทางกลับนราธิวาสบ้านเกิดของท่านมาจำพรรษาวัดที่ท่านคุ้นเคยคือวัดใหม่นภาราม สืบมาจนกระทั่งมรณภาพในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2551 ด้วยวัย 67 ปี 47 พรรษา.
หลวงพ่อดำ จนฺทสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่นภาราม ผู้ที่สืบทอดวิชาการสร้างไม้ครูและพระปิตตา(พระควัมบดี) มาจากหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อครน วัดบางแซะ รัฐกลันตัน( มาเลเซีย ) ผู้สร้างพระปิดตาที่มีชื่อเสียงและพุทธคุณไม่น้อยไปกว่าสายเขาอ้อพัทลุง โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่นับถือศาสนาพุทธให้ความนิยมมาก.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อดำเด่นทางเมตตามหานิยมและคงกระพัน โด่งดังไปทั่วเมืองไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ว่ากันว่าขลังชนิดยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอันตรายนานับประการเป็น มหาลาภ มหาโภคทรัพย์ พลิกฟื้นดวงชะตาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่ผู้ครองรัฐของมาเลเซียยังแขวนพระปิตตาและถือไม้ครูของท่านด้วยความศรัทธา เนื่องจากเคยมีการทดสอบพระปิตตาของท่านในมาเลเซียต่อหน้ากันมาแล้ว ผลคือมหาอุต ยิงไม่ออกเป็นที่กล่าวขานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อยู่ในเหตุการณ์ , ครูบาอาจารย์ของท่านนอกจากหลวงพ่อครนแล้ว ท่านยังได้ไปศึกษาเพิ่มเติมกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีอีกด้วย.
พระปิดตาหลวงพ่อด องค์ลักษณะคล้ายพระปิดตาหลวงพ่อครณ สายตรงพระปิดตาสายใต้คงรู้จักกันดี จัดว่าหาดูได้ยากแล้ว เพราะพระส่วนใหญ่ของท่านได้รับความนิยมจากชาวมาเลเซียสูงมาก จึงทำให้ในพื้นที่ไม่ค่อยจะได้พบเจอ พระปิดตาของท่านเป็นพระที่มีประสบการณ์มากมาย เช่นที่จังหวัดนราธิวาส มีนายทหารถูกซุ่มโจมตีด้วยอาวุธปืนสงคราม แต่ปลอดภัยจากอันตรายมาได้ มีเพียงผิวหนังเป็นลอยจ้ำๆเท่านั้นเอง.