เหล็กไหล กับ การครอบครอง
ถึงแม้เหล็กไหลจะมีพลังอำนาจอันน่าอัศจรรย์ และมีหน้าที่ช่วยโลกให้พ้นภัย อันจะเกิดจากพลังทำลายล้างของมหาจักรวาลก็ตาม แต่ด้วยแร่เหล็กไหลที่ได้เข้ามาแฝงตัวอยู่ภายในโลกนั้นมีจำนวนไม่มาก แร่เหล็กไหลบางส่วนจึงยอมมาอยู่กับมนุษย์ แต่ของแท้ของจริงนั้นย่อมต้องคู่กับคนจริงด้วยกันเท่านั้น
แร่เหล็กไหลชั้นดี ประเภทน้ำหนึ่งจึงยอมที่จะยู่กับมนุษย์ ด้วยการฝังแร่นั้นเข้าไปในร่างกาย เมื่อทำการฝังแร่เหล็กไหลลงในร่างกาย แร่เหล็กไหลจะไม่หายไปไหน จะยอมอยู่ติดตัวมนุษย์ผู้นั้น ไปจนกว่ามนุษย์ผู้นั้นจะถึงแก่ความตาย ธาตุกายสิทธิ์ เหล็กไหลจึงจะเดินทางออกไปจากร่างกาย และกลับคืนไปรวมกันอยู่ในธรรมชาติดังเดิม รอมนุษย์ผู้มีภูมิปัญญาเรื่องธาตุกายสิทธิ์ เหล็กไหลเข้าไปอันเชิญออกมา
ดังนั้น แร่เหล็กไหล ประเภทน้ำหนึ่งอันเป็น แร่เหล็กไหลชั้นดี นั้น หากไม่ได้ถูกฝังลงภายในร่างกายแล้ว เหล็กไหลย่อมสามรถเดินทางหนีไปได้เอง การเก็บรักษาแร่เหล็กไหลจึงมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีคือ :
1. การเก็บรักษาภายในฝักขี้ผึ้ง ที่ทำขึ้นมาด้วยขี้ผึ้งจากรังผึ้งร้างที่สร้างขวางตะวัน อันเป็นขี้ผึ้งชนิดพิเศษ
2. การทำพิธีฝังแร่เหล็กไหลลงภายในร่างกาย ให้ร่างกายและธาตุของเราเป็นเสมือน ฝักขี้ผึ้งนั่นเอง แร่เหล็กไหลจึงจะไม่หนีไปไหน
เหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์กับปาฏิหาริย์ต่างๆ
ผู้ที่นำ แร่เหล็กไหล ไปชื้อขายตามกิเลสความโลภทางโลกนั้นจึงต้องพบกับเรื่องเดือดร้อนอยู่เสมอ เพราะว่าไม่อาจควบคุมแร่เหล็กไหลได้ บางครั้งตกลงชื้อ – ขายจ่ายเงินทองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เหล็กไหลกลับหายไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งเป็นเรื่องราวการหนีของเหล็กไหล ก็มีปรากฏให้พบเห็นกันอยู่เป็นประจำ ทำให้ผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการชื้อ – ขายแร่กายสิทธิ์ชนิดนี้ได้รับความเดือดร้อน มีเรื่องราวทะเลาะเบาะแว้งระหว่างนายหน้าคนกลางด้วยกัน หรือไม่ก็มีการหักหลังกันเองในเรื่องเงิน เรื่องค่านายหน้าต่างๆเหล่านี้เป็นต้น
จากประสบการณ์ ทำให้ได้พบว่า แร่เหล็กไหลน้ำหนึ่งชั้นดีที่สุด ซึ่งก็คือ เหล็กไหลปีกแมลงทับ นั้นไม่อาจทำการชื้อ – ขายกันได้ เมื่อถึงเวลาเหล็กไหลก็จะหนีหายไปทุกครั้ง ยกเว้นแต่จะเป็นการมอบให้กับผู้ที่มีบุญญาบารมีสูงเท่านั้น แร่เหล็กไหลจึงจะยอมอยู่ด้วย และไม่เสด็จหนีไป หรือ หากเป็นการบอกกล่าวเจตนาอันบริสุทธิ์กับเหล็กไหลชิ้นนั้นว่า จะนำทรัพย์สินเงินทองที่ได้จากการชื้อ – ขายไปทำอะไร เช่น สร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างโรงพยาบาล เป็นจำนวนเงินเท่าไร และมีเงินเหลืออีกจำนวนเงินเท่าไร ต้องมีการกล่าวให้สัจจะอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำตามในสิ่งที่ตนนั้นได้กล่าวให้สัจจะอธิษฐานให้ได้ทุกประการ และเมื่อผิดสัจจะที่ได้กล่าวไว้เมื่อใด เหล็กไหลจะลงโทษให้ได้รับความเดือดร้อนในทันที ( มีหลายคนที่เคยทำการชื้อ – ขายเหล็กไหลสำเร็จมาแล้วด้วยวิธีการนี้ )
หากเป็นกรณีของการนำเหล็กไหลไปชื้อ – ขายกันตามวิธีการชื้อ – ขายแบบทางโลก ซึ่งจะนำทรัพย์สินเงินทองที่ได้จากการชื้อ – ขายธาตุกายสิทธิ์ ไปใช้จ่ายในทางโลกแล้ว ย่อมไม่มีวันชื้อ – ขายกันได้สำเร็จ อีกทั้งเหล็กไหลยังจะลงโทษให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหล่านั้นได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกันอีกด้วย เช่น เป็นหนี้สิน หมดเนื้อหมดตัว หรือไม่ก็เป็นโรคร้ายต่างๆ ที่รักษาไม่หาย ( อย่างเช่นเรื่องราวของแม่ชีบังอร )
ผู้ที่จะครอบครองแร่เหล็กไหลได้ จึงจะต้องเป็นผู้ที่ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่นำเอาธาตุกายสิทธิ์ที่ตนมีในครอบครองใช้เบียดเบียนข่มเหงรังแกผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน เป็นผู้มีบุญญาบารมีสูง อีกทั้งทรัพย์สินเงินทองที่ได้จากการชื้อ – ขายธาตุกายสิทธิ์นั้นจะต้องนำไปทำบุญ ทำกุศลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือจึงสามารถนำมาใช้ทางโลกได้
เหล็กไหลปีกแมลงทับสีน้ำเงินเข้ม สามารถเปลี่ยนสีของตัวเองได้ตามกำลังจิตของผู้ครอบครองเหล็กไหล เป็นเหล็กไหลที่หายากมาก
พระสมเด็จเนื้อเหล็กไหล ถูกสร้างจากแร่เหล็กไหลนานาชนิด มีสีดำมันเงาอมเขียว พุทธคุณเด่นในด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด จากภัยอันตรายทั้งปวง