Menu
โฮม
ร้านพระเครื่อง
ข่าวพระเครื่อง
ประวัติเกจิอาจารย์
พระคาถา
บัญชีเรา
ตะกร้า
แผ่นที่เวบ
7
ธ.ค.
เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า อุดผงมหาภูติลิ้นทอง หลวงพ่อดำ
Categories:
ข่าวพระเครื่อง
No comments
เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า อุดผงมหาภูติลิ้นทอง หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม ปี 2552
ในจักรวาลของเครื่องรางของขลังไทย “เบี้ยแก้” ถือเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเครื่องรางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยตามคติความเชื่อดั้งเดิม เบี้ยแก้มีหน้าที่หลักในการ “แก้” สิ่งอัปมงคล คุณไสย และยาสั่ง อย่างไรก็ตาม ในปีพุทธศักราช 2552 วงการเครื่องรางได้ประจักษ์กับนวัตกรรมทางไสยเวทย์ที่สำคัญจากชายแดนบูรพา เมื่อ หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม (พระสารินทร์ ธมฺมปาโล) จ.สระแก้ว ได้จัดสร้าง “เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า อุดผงมหาภูติลิ้นทอง” ขึ้น วัตถุมงคลชิ้นนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ป้องกันภัยตามตำราเดิม แต่ถูกออกแบบมาเพื่อ “แก้จน” และ “เรียกทรัพย์” โดยเฉพาะ ผ่านการผนวกวิชาเบี้ยแก้สายพุทธคุณเข้ากับ “วิชาผงมหาภูติลิ้นทอง” ซึ่งเป็นไสยเวทย์สายเขมรโบราณที่หาผู้สืบทอดได้ยาก
เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า
การเจาะลึกถึงองค์ประกอบทุกมิติของวัตถุมงคลรุ่นนี้ โดยเริ่มจากการสังเคราะห์ประวัติและสายวิชาของหลวงพ่อดำ การวิเคราะห์โครงสร้างและกลไกการทำงานของเบี้ยแก้ตามหลักวิชาการทั่วไป และบทวิเคราะห์เจาะลึกถึงมวลสารอาถรรพ์ “ผงมหาภูติลิ้นทอง” ที่บรรจุอยู่ในเบี้ยแก้รุ่นปี 2552 เพื่อให้เห็นภาพรวมของนวัตกรรมทางจิตวิญญาณที่ผสมผสานระหว่างพุทธคุณและไสยเวทย์ได้อย่างลงตัว
1: บูรพาจารย์แห่งมนต์ดำขาว: หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม
การจะเข้าใจอานุภาพของ “เบี้ยแก้จน” รุ่นนี้ จำเป็นต้องเข้าใจรากฐานทางจิตวิญญาณของผู้สร้าง คือ หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม (บ้านไทยสามารถ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว) ผู้ได้รับฉายาในหมู่ศิษยานุศิษย์ว่า “เจ้าตำรับมนต์เสน่ห์เขมรโบราณพันปี”
1.1 ปฐมบทแห่งสายวิชา: จากสระแก้วสู่กำพงจาม
หลวงพ่อดำเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในไสยเวทย์สายเขมรอย่างลึกซึ้ง ซึ่งแตกต่างจากเกจิสายพุทธคุณทั่วไปที่เน้นเพียงการเจริญภาวนา พื้นที่จังหวัดสระแก้วซึ่งเป็นรอยต่อวัฒนธรรมไทย-กัมพูชา เป็นภูมิหลังสำคัญที่หล่อหลอมวิชาอาคมของท่าน
ตามบันทึกประวัติการศึกษาพุทธาคม ในสมัยที่ท่านบรรพชาเป็นสามเณร ท่านไม่ได้ศึกษาเพียงแค่ในฝั่งไทย แต่ได้ข้ามพรมแดนไปศึกษาวิชาอาคมถึง “วัดเปรยโพ” อำเภอสเลซอโซ (หรือ สเรสรถ ในสำเนียงเขมร) จังหวัดกำพงจาม ประเทศกัมพูชา ณ ที่แห่งนี้ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ พระอุปัชฌาย์ตุ๊เครียง พระเถระผู้ทรงภูมิธรรมในสายวิชาเขมรโบราณ และยังได้ศึกษาวิชาจาก อาจารย์แซม (ม้า) ฆราวาสจอมขมังเวทย์ที่บ้านพุ่มศาลา ตำบลเกาะจุราม
ช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนระหว่างปี พ.ศ. 2503-2505 นี้เองที่เป็นจุดกำเนิดของวิชา “มหาภูติลิ้นทอง” ซึ่งกลายมาเป็นหัวใจสำคัญของวัตถุมงคลของท่านในเวลาต่อมา การสืบทอดวิชาจากต้นกำเนิดในกัมพูชาโดยตรงทำให้วัตถุมงคลของท่านมีความ “แรง” และ “เร็ว” ในแบบฉบับของวิชาสายเขมร ซึ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ในทางโลกียะ เช่น เสน่ห์เมตตาและโชคลาภ
1.2 การธุดงค์สู่พนมกุเลน: การเติมเต็มพลังเวทย์
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ยกระดับความขลังของหลวงพ่อดำ คือการปลีกวิเวกเพื่อฝึกจิต ท่านเคยหยุดสร้างวัตถุมงคลเป็นเวลานานถึง 2 ปีเต็ม เพื่อออกธุดงค์กลับไปยังประเทศกัมพูชา โดยมุ่งหน้าสู่ เทือกเขากุเลน
ในทางมานุษยวิทยาและคติชนวิทยา เทือกเขากุเลนถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งหนึ่งในอารยธรรมขอม เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเสียมราฐและเป็นสถานที่ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงประกาศอิสรภาพและสถาปนาลัทธิเทวราชา การที่หลวงพ่อดำเดินทางไปปฏิบัติธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการฝึกฝนจิตใจ แต่เป็นการไป “ต่อวิชา” และรับพลังจากครูบาอาจารย์ พระฤาษี และจิตวิญญาณบรรพชนที่สถิตอยู่ในป่าลึก การเดินทางครั้งนี้เปรียบเสมือนการชุบตัวทางจิตวิญญาณ ทำให้เมื่อท่านกลับมาสร้างวัตถุมงคลอีกครั้ง (รวมถึงรุ่นปี 2552) วัตถุมงคลเหล่านั้นจึงเปี่ยมไปด้วยพลานุภาพที่เข้มขลังยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านมหาเสน่ห์และโชคลาภ
บทที่ 2: วิทยาการแห่งเบี้ยแก้: ภูมิปัญญาโบราณและการทำงานของวัตถุมงคล
ก่อนจะเจาะลึกถึงเบี้ยแก้ของหลวงพ่อดำ จำเป็นต้องปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับ “วิชาเบี้ยแก้” ในบริบททั่วไป เพื่อให้เห็นความแตกต่างและนวัตกรรมที่หลวงพ่อดำได้สร้างสรรค์ขึ้น
2.1 สัญญะแห่งความมั่งคั่งและการปกป้อง
“เบี้ย” หรือ หอยเบี้ยจั่น มีรากฐานทางประวัติศาสตร์ในฐานะ “เงินตรา” ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแต่โบราณ ดังนั้น ในเชิงสัญลักษณ์ เบี้ยจึงเป็นตัวแทนของ “โภคทรัพย์” และ “ความมั่งคั่ง” โดยธรรมชาติ
เบี้ยแก้
คำว่า “แก้” ในชื่อ “เบี้ยแก้” มีนัยยะถึงการ “แก้ไข” “ปลดเปลื้อง” หรือ “ทำให้คลาย” ดังนั้น เบี้ยแก้จึงเป็นเครื่องรางชนิดเดียวที่ถูกนิยามด้วย “ฟังก์ชันการใช้งาน” (Functional Definition) คือมีไว้เพื่อแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการแก้คุณไสย แก้ร้ายกลายเป็นดี หรือแก้ความยากจน
2.2 โครงสร้างมาตรฐานของเบี้ยแก้
ตามตำราโบราณ (โดยเฉพาะสายวัดกลางบางแก้วและสายอ่างทอง) เบี้ยแก้ที่สมบูรณ์จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก :
ตัวเบี้ย : ต้องเป็นหอยเบี้ยจั่นที่มีฟันครบ 32 ซี่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทน “อาการ 32” ของมนุษย์ หรือความเป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์พร้อมรับพลังงาน
ปรอท (Mercury – The Engine): สารเหลวโลหะธาตุที่มีคุณสมบัติทางกายภาพคือ “กิน” หรือดูดกลืนสิ่งสกปรก ในทางไสยเวทย์ ปรอทเชื่อว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิต (ธาตุกายสิทธิ์) สามารถดูดกลืนพิษร้าย คุณไสย และขับไล่ภูตผีปีศาจได้ การกรอกปรอทลงในตัวเบี้ยเปรียบเสมือนการบรรจุ “วิญญาณผู้พิทักษ์” เข้าไปในร่าง
วัสดุปิดผนึก: มักใช้ “ชันโรง” โดยเฉพาะชันโรงใต้ดิน เพื่อปิดกั้นไม่ให้ปรอทหนี และเป็นการเคลือบแฝงคติความเชื่อเรื่องความขยันหมั่นเพียรและการสะสมทรัพย์ของแมลงชันโรง
2.3 กลไกการทำงานทางจิตวิญญาณ
เบี้ยแก้ทั่วไปทำงานในลักษณะ “ตั้งรับ” เมื่อมีพลังงานลบหรือคุณไสยพุ่งเป้ามาที่ผู้ครอบครอง ปรอทภายในเบี้ยจะสั่นสะเทือน (เตือนภัย) และดูดซับพลังงานนั้นไว้ หรือสะท้อนกลับไป
อย่างไรก็ตาม เบี้ยแก้ของหลวงพ่อดำมีความพิเศษที่แตกต่างจากสายวิชาดั้งเดิม คือการเปลี่ยนจาก “เครื่องรางป้องกัน” ให้กลายเป็น “เครื่องรางนักล่า” ด้วยการผนวกวิชา “ผงมหาภูติลิ้นทอง” เข้าไป
บทที่ 3: นวัตกรรมไสยเวทย์: เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า (ปี 2552)
เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า อุดผงมหาภูติลิ้นทอง หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม 2552 คือผลึกแห่งการผสมผสานระหว่าง “ศาสตร์แห่งการแก้” (เบี้ยแก้) และ “ศาสตร์แห่งการลาภ” (ผงมหาภูติ) เข้าด้วยกัน
3.1 ความหมายแห่งนามมงคล “รวยล้นฟ้า” และ “แก้จน”
การตั้งชื่อรุ่นว่า “เบี้ยแก้จน” เป็นการระบุวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ต่างจากเบี้ยแก้โบราณที่เน้น “กันผี” หรือ “กันคุณไสย”
แก้จน-รวยล้นฟ้า
“แก้จน”: บ่งบอกถึงการมุ่งเน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปลดหนี้สิน และสร้างความคล่องตัวทางการเงิน
“รวยล้นฟ้า”: เป็นคำประกาศิตที่มุ่งหวังผลทางโชคลาภขั้นสูง
บริบทปี 2552: ช่วงปี พ.ศ. 2552 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากวิกฤต ความต้องการที่พึ่งทางใจเรื่องปากท้องจึงมีสูง ทำให้วัตถุมงคลรุ่นนี้เป็นที่ต้องการอย่างมาก
3.2 หัวใจสำคัญ: ผงมหาภูติลิ้นทอง
สิ่งที่ทำให้เบี้ยแก้ของหลวงพ่อดำรุ่นนี้ทรงอิทธิฤทธิ์เหนือกว่าเบี้ยแก้ทั่วไป ไม่ใช่เพียงแค่ปรอท แต่คือการอุดด้วย “ผงมหาภูติลิ้นทอง” ที่บริเวณท้องเบี้ย
กรรมวิธีสร้างผงมหาภูติลิ้นทอง: ข้อมูลเชิงลึกจากตำราสายหลวงพ่อดำระบุว่า ผงนี้สร้างจากมวลสารอาถรรพ์ที่มีความซับซ้อนและอันตรายหากผู้สร้างไม่มีบารมีเพียงพอ :
วัตถุดิบหลัก: เถ้ากระดูกของศพตายโหง จำนวน 7 ป่าช้า หรือที่คัดสรรมาแล้ว 95 ตน
เงื่อนไขการคัดเลือก: วิญญาณเหล่านี้ต้องมีประวัติชัดเจน รู้ชื่อ รู้วันตาย และเมื่อครั้งมีชีวิตต้องเป็นคน “เก่งกล้า มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณ รู้รักษาตัวรอด”
นัยยะสำคัญ: การเลือกวิญญาณที่ “ฉลาด” และ “เก่ง” เพื่อให้มาช่วยผู้บูชาทำมาหากิน ไม่ใช่เอาวิญญาณที่อดอยากมาขอส่วนบุญ นี่คือการ “ภูติ” กองทัพวิญญาณมาเป็นบริวาร
พิธีกรรม: หลวงพ่อดำทำพิธี “เรียกจิต” และเจรจากับวิญญาณทั้ง 95 ตน ให้มาร่วมสร้างบารมี โดยนำธาตุ 4 ของภูติมาหนุนรวมกัน และบดผสมกับวัตถุมงคลสายขาวเพื่อกำกับความประพฤติ
มวลสารมงคลกำกับ: เพื่อไม่ให้ผงนี้มีแต่อาถรรพ์ฝ่ายต่ำ จึงมีการผสม ดินหน้าบ้านผู้ใหญ่ (เสริมอำนาจ), ดินกลางตลาด (เสริมการค้าขาย), ไม้ไก่กุก (เสริมเสน่ห์), และดอกไม้บูชาพระ (เสริมพุทธคุณ)
การปลุกเสก: ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญ บรมครูฤาษีทั้ง 4 องค์ (ตัวแทนแห่งฤทธิ์ทั้ง 4 ทิศ) มาประสิทธิ์ประสาทวิชา และสวดกำกับด้วย “พระคาถาพัน” (1,000 จบ) เพื่อเปลี่ยนภูติพรายให้เป็น “เทวดาน้อย” หรือพรายกึ่งเทพ ที่พร้อมช่วยเหลือมนุษย์
3.3 การผสานพลัง: ปรอท + ภูติ
ในเบี้ยแก้จนรุ่นนี้ หลวงพ่อดำได้สร้างกลไกทางจิตวิญญาณแบบ “ผสมมวลสาร”
ปรอท : ทำหน้าที่เป็น “เกราะ” ป้องกันสิ่งชั่วร้าย ป้องกันดวงตก และปรับสมดุลธาตุในร่างกายผู้บูชา
ผงมหาภูติลิ้นทอง ทำหน้าที่เป็น “พรายกระซิบ” คอยดลใจ หาช่องทางทำกิน เรียกลูกค้า และเจรจาต่อรอง (ลิ้นทอง) ให้สำเร็จ
เมื่อผนวกกัน เบี้ยแก้นี้จึงมีคุณสมบัติ “กันแก้ และ แกมโกย” คือ กันภัยและโกยทรัพย์ในเวลาเดียวกัน
บทที่ 4: พุทธลักษณะและการพิจารณาของแท้ (รุ่นปี 2552)
จากการรวบรวมข้อมูลภาพและประวัติการจัดสร้าง เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า ปี 2552 มีเอกลักษณ์ดังนี้:
4.1 ลักษณะทางกายภาพ
ตัวเบี้ย: ใช้หอยเบี้ยจั่นขนาดกลางถึงใหญ่ คัดสวย สภาพสมบูรณ์
ด้านหลัง (ท้องเบี้ย): จะไม่ถักเชือกหุ้มจนมิดเหมือนสายวัดกลางบางแก้ว แต่จะเปิดให้เห็นเนื้อหามวลสาร หรือมีการอุดผงมหาภูติลิ้นทองอย่างชัดเจน บางองค์มีการปิดทับด้วยแผ่นตะกั่วหรือแผ่นเงินที่ลงยันต์ และตอกโค้ดกำกับ
การเลี่ยม: มักมาพร้อมกับการเลี่ยมพลาสติกหรือกรอบเงินจากวัด หรือมีการถักเชือกแบบเปิดโชว์มวลสาร
โค้ด : ในรุ่นมาตรฐานมักมีการตอกโค้ดตัวเลข หรือโค้ดวัด เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและระบุจำนวนสร้างที่แน่นอน (เช่น หมายเลข 425)
4.2 การแบ่งแยกจากรุ่นอื่น
หลวงพ่อดำมีการสร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น (ปี 2540, 2545, 2552) ข้อสังเกตสำหรับรุ่นปี 2552 คือจะเน้นชื่อรุ่นที่เป็นมงคลนามเรื่องความรวย เช่น “รวยล้นฟ้า” “รวยคูณเฮง” และมักออกให้บูชาควบคู่กับวัตถุมงคลอื่น เช่น ท้าวเวสสุวรรณ หรือ พระพรหม
บทที่ 5: การบูชาและข้อปฏิบัติ
เนื่องจากเบี้ยแก้รุ่นนี้มีส่วนผสมของ “ผงพราย” (แม้จะเป็นพรายกึ่งเทพ) ผู้บูชาจึงควรปฏิบัติตามหลักวิชาสายหลวงพ่อดำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดผลสูงสุด
5.1 การอาราธนา
ก่อนสวมใส่หรือพกพา ควรตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงพระรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์ และหลวงพ่อดำ จากนั้นภาวนาคาถาหัวใจเบี้ยแก้ หรือคาถาเฉพาะของหลวงพ่อดำที่เน้นการเรียกทรัพย์
เคล็ดลับ: ผู้บูชาหลายคนนิยม “พูดคุย” กับเบี้ยแก้เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต บอกกล่าวขอพรเรื่องยอดขาย หรือขอให้ช่วยเจรจาธุรกิจ เพราะเชื่อว่ามีจิตวิญญาณของภูติลิ้นทองสถิตอยู่
5.2 ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติ
การทำบุญ: หมั่นทำบุญตักบาตรและอุทิศส่วนกุศลให้แก่ “ภูติมหาลิ้นทอง” ในเบี้ยแก้ เพื่อให้ภูติมีพลังและมีความสุขในการช่วยเหลือเรา
การวาง: แม้เบี้ยแก้ทั่วไปจะพกต่ำได้ (แขวนเอว) แต่สำหรับรุ่นที่มีผงพรายและรูปเคารพครูบาอาจารย์ ควรเก็บรักษาไว้ในที่เหมาะสม ไม่ควรวางไว้ปลายเท้าหรือที่อัปมงคล
ความเชื่อเรื่องการสั่น: หากเบี้ยแก้สั่นหรือร้อน เชื่อว่าเป็นการเตือนภัย หรือบอกเหตุล่วงหน้า ผู้บูชาควรระมัดระวังตัว
บทสรุป
เบี้ยแก้จน รวยล้นฟ้า อุดผงมหาภูติลิ้นทอง หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม ปี 2552 ไม่ใช่วัตถุมงคลธรรมดา แต่เป็น “นวัตกรรมทางจิตวิญญาณ” ที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาการปรับตัวของไสยเวทย์ในยุคสมัยใหม่
หลวงพ่อดำได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของเบี้ยแก้แบบดั้งเดิมที่เน้นเพียงการ “ตั้งรับ” (Protection) มาสู่การสร้างเครื่องรางเชิง “รุก” โดยอาศัยอำนาจของ “ผงมหาภูติลิ้นทอง” จากตำราเขมรโบราณ การผสมผสานระหว่าง ปรอท (ธาตุกายสิทธิ์) และ ผงพราย (จิตวิญญาณ) สร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความมั่งคั่ง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองได้อย่างตรงจุด
สำหรับนักสะสมและผู้ศรัทธา เบี้ยแก้รุ่นนี้จึงทรงคุณค่าทั้งในแง่ของพุทธศิลป์ประยุกต์ และในแง่ของสรรพคุณที่ครอบคลุมจักรวาล ตั้งแต่การป้องกันคุณไสยมนต์ดำ ไปจนถึงการพลิกฟื้นชะตาชีวิตจากร้ายให้กลายเป็นดี และจากความขัดสนให้กลายเป็นความอุดมสมบูรณ์ สมดั่งนามมงคล “รวยล้นฟ้า” ที่หลวงพ่อดำได้ประสิทธิ์ประสาทไว้
Tags:
ผงมหาภูติลิ้นทอง
รวยล้นฟ้า
หลวงพ่อดำ
หอยเบี้ย
เบี้ยจั่น
เบี้ยแก้
เบี้ยแก้จน
เบี้ยแก้อาถรรพ
« ผงพรายกุมาร ความลับแห่งมนต์ขลัง-มวลสารว่านมหาเสน่ห์ ของพระขุนแผน
facebook
Twitter
Google +1
Pinterest
© www.sendyamulet.com
Theme by phonewear
↑