ตำนาน “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” ปี 2552
“พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ ที่จัดสร้างโดยหลวงพ่อสาคร มนุญโญ แห่งวัดหนองกรับ จังหวัดระยอง นับเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่าและเป็นที่ศรัทธาอย่างยิ่งในวงการพระเครื่องและหมู่ผู้ศรัทธาทั่วไป. วัตถุมงคลรุ่นนี้มิได้เป็นเพียงแค่เครื่องรางของขลัง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธคุณอันเข้มขลังที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสายวิชาอันศักดิ์สิทธิ์ของบูรพาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออก ซึ่งก็คือหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่

ความโดดเด่นของ “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นนี้ประการหนึ่งคือข้อมูลการจัดสร้างที่ชัดเจนและโปร่งใส. ในวงการพระเครื่อง ความชัดเจนของประวัติการสร้างเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นรากฐานในการยืนยันความแท้และที่มาของวัตถุมงคล ทำให้ผู้ศรัทธามั่นใจในการบูชาและนักสะสมสามารถประเมินมูลค่าได้อย่างถูกต้อง การมีข้อมูลที่ครบถ้วนนี้ช่วยลดความคลุมเครือในตลาดพระเครื่อง และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับทั้งองค์หลวงพ่อและวัดหนองกรับ ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นที่ยอมรับและแสวงหาอย่างกว้างขวาง
ความเชื่อมโยงอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างหลวงพ่อสาครและหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นนี้มีอานุภาพเป็นที่ประจักษ์. หลวงพ่อสาครได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมและพุทธาคมอันเข้มขลังโดยตรงจากหลวงปู่ทิม. การสืบทอดนี้ไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการ แต่เป็นการส่งผ่านพลังงานและบารมีของครูบาอาจารย์มาสู่ศิษย์ผู้สืบทอด ทำให้วัตถุมงคลที่หลวงพ่อสาครสร้างขึ้น โดยเฉพาะที่ผสมผงพรายกุมารอันลือลั่นของหลวงปู่ทิม มีพุทธานุภาพที่เทียบเคียงได้กับพระเครื่องของหลวงปู่ทิมเอง. ในขณะที่พระขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนั้นมีราคาสูงมากและหายากยิ่งจนแทบไม่สามารถหาของแท้ได้ในปัจจุบัน “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” ของหลวงพ่อสาครจึงเป็น “ของดีที่ใช้แทนกันได้” ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก การนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ศรัทธาจำนวนมากได้สัมผัสกับพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์อย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นการขยายบารมีและมรดกธรรมของหลวงปู่ทิมให้คงอยู่และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในวงกว้างยิ่งขึ้น
หลวงพ่อสาคร มนุญโญ: ผู้สืบทอดพุทธาคมแห่งบูรพาจารย์
ประวัติและเส้นทางธรรมของหลวงพ่อสาคร
ท่านเป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งที่ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมกับหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อย่างจริงจังและใกล้ชิด. เส้นทางธรรมของหลวงพ่อสาครเริ่มต้นขึ้นเมื่อท่านอุปสมบทแล้วได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดละหารไร่ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ทิมเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมอย่างจริงจัง จนได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ อย่างกระจ่างชัดและรู้จริง.
นอกเหนือจากการศึกษาจากหลวงปู่ทิม ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์องค์สำคัญแล้ว หลวงพ่อสาครยังได้เสาะแสวงหาศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน ผ แ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และเสริมสร้างความเข้มขลังในพุทธาคมของท่าน. การที่ท่านไม่เพียงแต่สืบทอดวิชาจากหลวงปู่ทิม แต่ยังแสวงหาความรู้จากเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกมากมาย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์อันกว้างขวางในการศึกษาพุทธาคม ซึ่งเสริมสร้างความเข้มขลังและรอบด้านให้กับวิชาของท่าน ทำให้วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีพุทธคุณที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน
รายนามครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อสาครได้ศึกษาเพิ่มเติม มีดังนี้:
หลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่
อาจารย์เชียงคำ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า (พ.ศ. ๒๕๐๓)
อาจารย์สิน วัดนาวัง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี (พ.ศ. ๒๕๐๖)
อาจารย์สุพจน์ ที่ประเทศเขมร (พ.ศ. ๒๕๑๘)
พระอาจารย์สุมล คำเสียง ที่จังหวัดศรีสะเกษ (พ.ศ. ๒๕๒๓)
หลวงพ่อบุญเย็น วัดแจ้งนอก จังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. ๒๕๒๕)
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. ๒๕๒๖)
หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร จังหวัดเพชรบูรณ์ (พ.ศ. ๒๕๒๗)
หลวงพ่อบึม วัดปราสาทกิน จังหวัดปราจีนบุรี (พ.ศ. ๒๕๒๘)
การที่หลวงพ่อสาครได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่หลากหลายเช่นนี้ ทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งพุทธาคมอย่างรอบด้าน ไม่จำกัดอยู่เพียงสายวิชาใดวิชาหนึ่ง ความรู้ที่กว้างขวางนี้ส่งผลให้วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณที่ครอบคลุมทุกด้าน เป็นที่พึ่งทางใจให้กับผู้ศรัทธาในทุกสถานการณ์

การถ่ายทอดวิชาอาคมและผงพรายกุมารจากหลวงปู่ทิม
หลวงปู่ทิม อิสริโก ได้มอบหมายให้หลวงพ่อสาครเป็นผู้สืบทอดพุทธาคมต่อจากท่าน โดยมีหลักฐานปรากฏในบันทึกของหลวงพ่อสาครที่ท่านได้เขียนไว้ว่าท่านได้รับการประสิทธิ์ประสาทยันต์ครูนี้จากหลวงปู่ทิม. ความผูกพันอันลึกซึ้งนี้ยังปรากฏในเรื่องเล่าที่แสดงถึงจริยวัตรอันงดงามของหลวงพ่อสาคร
มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่ทิมเคยให้หลวงพ่อสาครไปร่วมนั่งปรกปลุกเสกกับท่าน แต่หลวงพ่อสาครไม่ยอมนั่งปรกปลุกเสกร่วมกับหลวงปู่ทิม เพราะท่านถือว่าหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์ การนั่งเสมอครูบาอาจารย์เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับท่าน. การกระทำนี้สะท้อนถึงความเคารพสูงสุดและความกตัญญูที่หลวงพ่อสาครมีต่อครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของพระเกจิผู้ทรงศีลและเปี่ยมด้วยบารมี การแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของมารยาท แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจในการสืบทอดวิชา ทำให้พุทธาคมที่ท่านได้รับมานั้นบริสุทธิ์และทรงพลังอย่างแท้จริง การรักษาจริยวัตรอันดีงามเช่นนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้พุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านปรากฏอย่างชัดเจนและเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้บูชา
เรื่องเล่าและเกร็ดธรรมที่สะท้อนถึงความเคารพและศรัทธาในครูบาอาจารย์
ความผูกพันของหลวงพ่อสาครกับวัดละหารไร่และหลวงปู่ทิมนั้นลึกซึ้งยิ่งนัก แม้ภายหลังจากที่หลวงพ่อสาครได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับแล้ว ท่านก็ยังคงเดินทางไปดูแลปรนนิบัติหลวงปู่ทิมเป็นประจำ. การเดินทางจากวัดหนองกรับไปยังวัดละหารไร่นั้นมีระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร ซึ่งในสมัยก่อนถือว่าไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้เลย การที่หลวงพ่อสาครยังคงกลับไปดูแลปรนนิบัติหลวงปู่ทิมอย่างสม่ำเสมอ แม้จะได้รับภาระอันใหญ่หลวงในการดูแลวัดหนองกรับแล้ว แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูและความรักที่ท่านมีต่อครูบาอาจารย์อย่างแท้จริง
ความกตัญญูนี้เป็นรากฐานสำคัญของพุทธคุณที่เกิดขึ้นในวัตถุมงคลของท่าน ในพระพุทธศาสนา ความกตัญญูเป็นคุณธรรมสูงสุดประการหนึ่ง การที่พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแสดงออกถึงความกตัญญูอย่างไม่เสื่อมคลายต่อครูบาอาจารย์ ย่อมส่งผลให้เกิดบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่หล่อหลอมรวมอยู่ในวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น ทำให้วัตถุมงคลเหล่านั้นเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พึ่งทางใจได้อย่างแท้จริง

เจาะลึกพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์: พุทธาภิเษก “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” ปี ๒๕๕๒
วันเวลาและสถานที่จัดพิธีอันเป็นมงคล
พิธีพุทธาภิเษก “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ ได้จัดขึ้นในวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒. ในวาระสำคัญนี้ หลวงพ่อสาคร มนุญโญ ได้นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวพระยอดขุนพลด้วยตัวท่านเอง. การปลุกเสกเดี่ยวโดยพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมเช่นหลวงพ่อสาคร ถือเป็นการถ่ายทอดพลังจิตและวิชาอาคมส่วนตัวของท่านลงสู่วัตถุมงคลโดยตรง ทำให้พระเครื่องเหล่านั้นเปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของบารมีและพลังจิตขององค์หลวงพ่อเอง
นอกจากพิธีปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ยังมีพิธีปลุกเสกวาระที่สอง ซึ่งจัดขึ้นอย่างครบถ้วนตามตำรับโบราณ ณ สำนักสงฆ์เขาดินเนินหย่อง. พิธีนี้มีการบวงสรวงโดยพราหมณ์วัดหนองกรับ และมีพระสงฆ์สวดมหานาคตามตำรับพิธีโบราณ ซึ่งเป็นการเสริมสิริมงคลและอัญเชิญพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ให้มาร่วมประสิทธิ์ประสาทพุทธคุณ
การมีพิธีปลุกเสกถึงสองวาระ โดยเฉพาะการปลุกเสกเดี่ยวของหลวงพ่อสาคร และพิธีใหญ่ที่มีพระเกจิอาจารย์รูปอื่นร่วมด้วย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความพิถีพิถันในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้อย่างยิ่ง การปลุกเสกเดี่ยวเป็นการเน้นย้ำถึงพลังจิตและวิชาเฉพาะของหลวงพ่อสาคร ในขณะที่พิธีใหญ่เป็นการรวมพลังจิตจากพระเกจิหลายรูป ทำให้วัตถุมงคลได้รับพุทธานุภาพที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แบบสูงสุด ผู้บูชาจึงมั่นใจได้ว่าวัตถุมงคลได้รับการปลุกเสกอย่างเต็มที่และถูกต้องตามหลักโบราณ
รายนามพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก
ในพิธีพุทธาภิเษกวาระที่สอง ณ สำนักสงฆ์เขาดินเนินหย่อง มีรายนามพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกดังนี้ :
หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ
หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่
หลวงพ่อเชย วัดละหารไร่
พระอาจารย์ศุภชัย (ปุ่น) วัดใหม่กระทุ่มล้ม (ศิษย์หลวงพ่อสาคร, ร่วมเสกรอบ 2)
พระอาจารย์สุพจน์ สำนักสงฆ์เขาดินเนินหย่อง (ผู้จัดสร้าง, อดีตพระเลขา, ศิษย์หลวงพ่อสาคร, ร่วมเสกรอบ 2)
การที่พิธีนี้มีทั้งพระเกจิผู้ใหญ่จากวัดต่างๆ ที่เป็นที่เคารพ และศิษย์สายตรงของหลวงพ่อสาครเข้าร่วม แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในวงกว้างของหลวงพ่อสาครในหมู่พระเกจิอาจารย์ และยังเป็นการยืนยันถึงความต่อเนื่องของสายวิชาจากหลวงปู่ทิมผ่านศิษย์สายตรงที่ร่วมปลุกเสก การรวมพลังจิตของพระเกจิอาจารย์หลายรูปที่มีความเชี่ยวชาญและบารมีแตกต่างกัน ย่อมส่งผลให้วัตถุมงคลได้รับพุทธคุณที่หลากหลายและเข้มขลังยิ่งขึ้น เป็นการเสริมความมั่นใจให้กับผู้บูชาว่าวัตถุมงคลนี้ได้รับการปลุกเสกจากพลังงานอันบริสุทธิ์และทรงอานุภาพจากหลายแหล่ง

มวลสารมหามงคล: หัวใจแห่งพุทธคุณ “พระยอดขุนพล บ้านค่าย”
รายละเอียดมวลสารหลักและมวลสารรองที่ใช้ในการจัดสร้าง
“พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ นี้ ได้รับการจัดสร้างด้วยสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ผงพรายกุมาร” อันลือลั่นของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งเป็นมวลสารหลักที่ทำให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อสาครมีพุทธคุณโดดเด่นและเป็นที่ต้องการอย่างสูง. การรวบรวมมวลสารที่หลากหลายและมาจากแหล่งที่มาอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นผงพรายกุมารจากหลวงปู่ทิม, ผงพุทธคุณของหลวงพ่อสาครเอง, หรือว่านยาต่างๆ ที่มีคุณวิเศษเฉพาะตัว สะท้อนถึงความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในศาสตร์การสร้างวัตถุมงคล และความตั้งใจอันบริสุทธิ์ที่จะสร้างสิ่งที่เป็นเลิศเพื่อประโยชน์ของผู้บูชา การผสมผสานมวลสารเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการรวมของ แต่เป็นการผสานพลังงานจากครูบาอาจารย์และธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดพุทธคุณที่ครอบจักรวาลอย่างแท้จริง
มวลสารสำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย:
ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม: มวลสารอันดับหนึ่งที่สืบทอดมาจากครูบาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่.
ผงพุทธคุณต่างๆ หลวงพ่อสาคร: ผงที่เกิดจากการปลุกเสกและอธิษฐานจิตของหลวงพ่อสาครเอง ซึ่งเป็นการเพิ่มพลังจิตขององค์ท่านลงไปโดยตรง.
ผงเก่าหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่: มวลสารเก่าแก่ที่หลวงปู่ทิมได้สร้างและปลุกเสกไว้ ซึ่งเป็นมรดกทางพุทธคุณที่สืบทอดมา.
สีผึ้งเสก: สีผึ้งที่ผ่านการปลุกเสกเพื่อเสริมด้านเมตตามหานิยมและเสน่ห์โดยเฉพาะ.
ผงว่าน ๑๐๘ หลวงพ่อจ้อย วัดหนองน้ำเขียว: ผงว่านที่มีคุณทางคงกระพัน เมตตา และโชคลาภ.
ผงใบลาน วัดบ้านแลง ปี ๒๔๙๖: ผงใบลานที่ได้รับการปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์สำคัญหลายรูป อาทิ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, และหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง ซึ่งเป็นการรวมพลังจากหลายสายวิชา.
ผงหลวงปู่เรือง วัดเขาสามยอด: ผงศักดิ์สิทธิ์จากเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณ.
แป้งเสก หลวงพ่อกาส วัดแพงพลวย: แป้งที่ผ่านการปลุกเสก.
ผงว่าน ๑๐๘ หลวงพ่อโทน วัดเขาน้อนคีรีวัน: อีกหนึ่งผงว่าน ๑๐๘ ที่เพิ่มความเข้มขลังและคุณวิเศษ.
มวลสารเสริมอื่นๆ ที่เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์:
ว่านดอกทอง
ว่านสบู่เลือด
เครือเถาว์หลง
ผงเกษร
ผงมหาเสน่ห์ ๑๐๘
ดิน ๗ โป่ง
ดิน ๗ ป่าช้า
ว่านกาหลงรัง
ว่านมหาเสน่ห์
ผงยาดำออกศึก หลวงปู่ดิ่ง วัดบางวัว
ผงไม้ตะเคียนฟ้าผ่าตายพราย
ผงวาสนา
ผงมหาเมฆ
ผงว่านสาวหลง
ผงดอกพิกุลทอง
ผงต่อเงินต่อทอง
ผงกลิ้งกลางดง
ผงเพชรหลีก เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา
ผงโพธิ์ วัดอ่างศิลา
ว่านพัดโบก
ผงเจ้าเงาะ
ผงกัลปังหาทอง
ผงพระชำรุดหลวงพ่อสาคร
ความหมายและอานุภาพของมวลสารแต่ละชนิดตามคติความเชื่อ
การเลือกใช้มวลสารที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง และการผสมผสานกันอย่างลงตัว แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในหลักวิชาของหลวงพ่อสาครว่ามวลสารแต่ละชนิดจะส่งเสริมพุทธคุณด้านใด และเมื่อรวมกันจะเกิดอานุภาพที่สมบูรณ์แบบอย่างไร การเลือกส่วนผสมเหล่านี้ไม่ใช่การกระทำโดยบังเอิญ แต่เป็นการคำนวณและผสมผสานตามตำราโบราณ เพื่อให้วัตถุมงคลมีพลังงานที่สมดุลและตอบสนองความต้องการของผู้บูชาได้อย่างครอบคลุม
ผงพรายกุมาร: เป็นมวลสารที่โดดเด่นที่สุด มีอานุภาพสูงทางด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และโชคลาภ ทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักใคร่เอ็นดู มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู และประสบความสำเร็จในกิจการงาน.
ว่านดอกทอง: มีคุณวิเศษเด่นทางด้านเมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์อย่างรุนแรง ช่วยเสริมเรื่องความรัก ความเมตตา และการเข้าหาผู้คน.
ผงใบลาน วัดบ้านแลง ปี ๒๔๙๖: เป็นมวลสารที่ผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป มีคุณด้านคงกระพัน แคล้วคลาด ป้องกันภัย และเสริมบารมี.
ดิน ๗ โป่ง และ ดิน ๗ ป่าช้า: เป็นมวลสารอาถรรพ์ที่เชื่อว่ามีพลังงานจากธรรมชาติและสิ่งเร้นลับ ช่วยเสริมด้านโชคลาภ คุ้มครองป้องกันภัย และบางครั้งเชื่อว่ามีอานุภาพในการเรียกทรัพย์.
ผงเพชรหลีก: จากเจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา มีคุณด้านแคล้วคลาด ป้องกันอันตราย และหลีกเลี่ยงอุปสรรคต่างๆ.
การรวมมวลสารเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทำให้ “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” เป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณครบถ้วนรอบด้านอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพุทธคุณที่ครอบคลุมในทุกมิติของชีวิต

มวลสารสำคัญในพระยอดขุนพล บ้านค่าย รุ่นปี ๒๕๕๒
มวลสารสำคัญ แหล่งที่มา/ความเกี่ยวข้อง พุทธคุณเด่น (ตามคติความเชื่อ)
ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เมตตามหานิยม, มหาเสน่ห์, โชคลาภ
ผงพุทธคุณต่างๆ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ครอบจักรวาล, เสริมบารมี
ผงเก่า หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ คงกระพัน, แคล้วคลาด, เมตตา
สีผึ้งเสก ไม่ระบุ เมตตามหานิยม, มหาเสน่ห์
ผงว่าน ๑๐๘ หลวงพ่อจ้อย วัดหนองน้ำเขียว คงกระพัน, เมตตา, โชคลาภ
ผงใบลาน ปี ๒๔๙๖ วัดบ้านแลง (ปลุกเสกโดย ลป.ทิม, ลป.เผือก, ลพ.เงิน, ลพ.สด, ลพ.โต) คงกระพัน, แคล้วคลาด, ป้องกันภัย
ผงหลวงปู่เรือง วัดเขาสามยอด เมตตา, โชคลาภ
แป้งเสก หลวงพ่อกาส วัดแพงพลวย เมตตา, ค้าขาย
ผงว่าน ๑๐๘ หลวงพ่อโทน วัดเขาน้อนคีรีวัน คงกระพัน, เมตตา, โชคลาภ
ว่านดอกทอง เมตตามหานิยม, มหาเสน่ห์
ว่านสบู่เลือด คงกระพัน, มหาอุด
เครือเถาว์หลง เมตตามหานิยม, มหาเสน่ห์
ดิน ๗ โป่ง, ดิน ๗ ป่าช้า(ดินอาถรรพ์) เมตตา, โชคลาภ, ป้องกันภูตผี
ผงไม้ตะเคียนฟ้าผ่าตายพราย(ไม้ศักดิ์สิทธิ์) โชคลาภ, เมตตา, คุ้มครอง
ผงเพชรหลีก เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา แคล้วคลาด, ป้องกันอันตราย

ทำเนียบวัตถุมงคลและจำนวนการจัดสร้าง: ความหลากหลายแห่งพุทธศิลป์และพุทธานุภาพ
พระยอดขุนพลบ้านค่าย: การจำแนกพิมพ์และเนื้อหา
“พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ มีการจัดสร้างหลายเนื้อหาและหลายพิมพ์ เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้เลือกบูชาตามความเหมาะสมและความศรัทธา. การจัดสร้างวัตถุมงคลในหลายเนื้อหาและหลายจำนวนนี้ แสดงให้เห็นถึงการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของวัดและผู้จัดสร้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและความสามารถในการเข้าถึงของผู้ศรัทธาที่แตกต่างกัน โดยเนื้อโลหะและเนื้อผงที่มีตะกรุดทองคำหรือเงิน มักจะสร้างน้อยและมีราคาสูงกว่า สะท้อนถึงความพิเศษและคุณค่าที่สูงกว่าในสายตาของนักสะสม
พิมพ์และเนื้อหาหลักที่ปรากฏในรุ่นนี้:
เนื้อนวะโลหะ:
พิมพ์เล็ก: จัดสร้างจำนวน ๙,๙๙๙ องค์.
พิมพ์ใหญ่: มีการกล่าวถึงเนื้อนวะโลหะในพิมพ์ใหญ่เช่นกัน แต่ไม่มีจำนวนสร้างระบุชัดเจนในข้อมูลที่ได้รับ.
เนื้อทองแดงแก่ชนวน:
พิมพ์เล็ก: จัดสร้างจำนวน ๑๙,๙๙๙ เหรียญ.
เนื้อผงพรายกุมารว่านดอกไม้ทอง (และมวลสารผงอื่นๆ):
พิมพ์ใหญ่ หลังฝังตะกรุดทองคำคู่ เนื้อผงพรายกุมารว่านไพรดำ (กดนำฤกษ์): จัดสร้างเพียง ๑๙๙ องค์ ซึ่งถือว่าหายากยิ่งและเป็นที่ต้องการของนักสะสม.
พิมพ์ใหญ่ หลังฝังตะกรุดทองคำ+เงิน โรยพลอย: จัดสร้าง ๙๙๙ องค์.
พิมพ์ใหญ่ หลังฝังตะกรุดเงินคู่ โรยพลอย: จัดสร้าง ๔,๙๙๙ องค์.
พิมพ์ใหญ่ หลังฝังตะกรุดทองแดงคู่ โรยพลอย: จัดสร้าง ๙,๙๙๙ องค์.
พิมพ์เล็ก หลังฝังตะกรุดทองแดง โรยพลอยเสก:.
พิมพ์เล็ก หลังฝังตะกรุดเงินคู่ โรยพลอย:.
เนื้อว่านดอกทอง ผสมผงพรายกุมาร โรยพลอยเสก มีโค้ด หมายเลข:.
เนื้อว่านดอกทองผสม ผงพรายกุมาร โรยพลอยเสก ฝังตะกรุดเงินจารมือ 1 ดอก ตะกรุดทองคำจารมือ 1 ดอก:.
การสร้างวัตถุมงคลในหลากหลายรูปแบบและจำนวนที่แตกต่างกันเช่นนี้ เป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลาย ทั้งผู้ที่แสวงหาวัตถุมงคลหายากและมีมูลค่าสูง และผู้ที่ต้องการวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ของวัด เช่น การบูรณะเสนาสนะ หรือการทำนุบำรุงศาสนสถาน ซึ่งหลวงพ่อสาครได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการพัฒนาวัดหนองกรับมาโดยตลอด.
วัตถุมงคลอื่นๆ ที่ได้รับการปลุกเสกในคราวนั้น
แม้ “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” จะเป็นวัตถุมงคลหลักของรุ่นปี ๒๕๕๒ แต่ข้อมูลยังบ่งชี้ถึงวัตถุมงคลอื่นๆ ที่จัดสร้างและปลุกเสกในวาระเดียวกันหรือช่วงเวลาใกล้เคียงกันในปี ๒๕๕๒ ซึ่งอาจถือเป็นส่วนหนึ่งของ “รุ่น” หรือ “พิธี” ใหญ่ในคราวนั้น การที่วัดจัดสร้างวัตถุมงคลหลายรูปแบบ (เช่น พระเนื้อผง, เหรียญ, หนุมาน) ในปีเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของพุทธคุณที่ต้องการมอบให้แก่ผู้ศรัทธา และยังเป็นการระดมทุนเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ของวัด
วัตถุมงคลอื่นๆ ที่ได้รับการปลุกเสกในคราวนั้น ได้แก่:
เหรียญห่วงเชื่อม หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี ๒๕๕๒: มีทั้งเนื้อนวะโลหะ (สร้าง ๒,๙๙๙ เหรียญ) และเนื้อตะกั่วลองพิมพ์ไม่ตัดปีก. เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกครบรอบ ๗๑ ปีของหลวงพ่อสาคร.
หนุมานมหาปราบ บุญญานุสรณ์แห่งกฐิน ๕๒ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ เนื้อทองแดงเถื่อน ก้นอุดผงพรายกุมาร: จัดสร้างในปี ๒๕๕๒ และเชื่อมโยงกับงานกฐินของวัด ซึ่งเป็นงานบุญสำคัญประจำปี.
การจัดสร้างวัตถุมงคลที่หลากหลายประเภทเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป (พระยอดขุนพล), เหรียญ, หรือรูปเคารพต่างๆ (หนุมาน) ย่อมตอบสนองความต้องการและวัตถุประสงค์ในการบูชาที่แตกต่างกันของผู้ศรัทธา เช่น พระพุทธรูปมักเน้นเมตตาและป้องกันภัย, เหรียญมักเน้นโชคลาภและการคุ้มครอง, และหนุมานมักเน้นด้านอำนาจและคงกระพัน การมีตัวเลือกที่หลากหลายเช่นนี้ทำให้พุทธคุณของหลวงพ่อสาครกระจายไปสู่ผู้คนในวงกว้างยิ่งขึ้น
ทำเนียบวัตถุมงคล “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ และวัตถุมงคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
วัตถุมงคล พิมพ์/เนื้อหา การฝังตะกรุด/โรยพลอย จำนวนสร้าง (โดยประมาณ) หมายเหตุ
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อนวะโลหะ พิมพ์เล็ก – 9,999 องค์
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อนวะโลหะ พิมพ์ใหญ่ – ไม่ระบุ
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อทองแดงแก่ชนวน พิมพ์เล็ก – 19,999 องค์
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อผงพรายกุมารว่านไพรดำ พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองคำคู่ (กดนำฤกษ์) 199 องค์
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อผงพรายกุมารว่านดอกไม้ทอง พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองคำ+เงิน, โรยพลอย 999 องค์
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อผงพรายกุมารว่านดอกไม้ทอง พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดเงินคู่, โรยพลอย 4,999 องค์
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อผงพรายกุมารว่านดอกไม้ทอง พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองแดงคู่, โรยพลอย 9,999 องค์
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อผงว่านดอกทอง ผสมผงพรายกุมาร โรยพลอยเสก, มีโค้ดหมายเลข ไม่ระบุ (แต่ระบุหายาก)
พระยอดขุนพล บ้านค่าย เนื้อว่านดอกทองผสมผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดเงินจารมือ 1 ดอก, ทองคำจารมือ 1 ดอก, โรยพลอยเสก (หายาก)
เหรียญห่วงเชื่อม เนื้อนวะโลหะ – 2,999 เหรียญ
ที่ระลึกครบรอบ 71 ปี
เหรียญห่วงเชื่อม เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ไม่ตัดปีก –
หนุมานมหาปราบ เนื้อทองแดงเถื่อน ก้นอุดผงพรายกุมาร
บุญญานุสรณ์แห่งกฐิน ๕๒
พุทธคุณและประสบการณ์: อานุภาพแห่งศรัทธาที่ประจักษ์
พุทธคุณเด่นที่ปรากฏ
“พระยอดขุนพล บ้านค่าย” ของหลวงพ่อสาคร ได้รับการกล่าวขานและยืนยันถึงพุทธคุณที่ “ครอบจักรวาล”. การที่พุทธคุณของพระยอดขุนพลบ้านค่ายครอบคลุมหลายด้าน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง สะท้อนถึงความสมบูรณ์ของวิชาที่หลวงพ่อสาครได้รับการถ่ายทอดมา และความเข้าใจในความต้องการของผู้คนในโลกปัจจุบันที่ต้องการพุทธคุณที่หลากหลายในการดำเนินชีวิต ความสามารถในการให้พุทธคุณที่ครบถ้วนนี้ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมและเป็นที่พึ่งทางใจได้อย่างแท้จริง
พุทธคุณเด่นที่ปรากฏใน “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ มีดังนี้:
เมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์: เป็นพุทธคุณที่โดดเด่นที่สุด ทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักใคร่เอ็นดู ได้รับความเมตตาจากผู้คนรอบข้าง เสริมเสน่ห์ดึงดูดใจ และเป็นที่นิยมชมชอบ.
แคล้วคลาดปลอดภัย: คุ้มครองผู้บูชาให้พ้นจากภยันตรายต่างๆ อุบัติเหตุ และสิ่งไม่พึงประสงค์.
โชคลาภและค้าขายรุ่งเรือง: ส่งเสริมด้านโชคลาภ การเงิน ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และความสำเร็จในธุรกิจ.
เสริมบารมีและมหาอำนาจ: เพิ่มพูนบารมีและอำนาจให้แก่ผู้บูชา ทั้งหญิงและชาย ทำให้เป็นที่เกรงขาม ได้รับความเคารพ และมีผู้นับหน้าถือตา.
เรื่องเล่าและประสบการณ์ตรงจากผู้บูชาและเซียนพระที่ยืนยันถึงอานุภาพ
ในวงการพระเครื่อง เซียนพระหลายท่านต่างให้การยอมรับว่า “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นนี้เป็นของดีที่ “ใช้แทนพระขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิมได้สบายๆ”. การกล่าวเช่นนี้มิได้เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ แต่เกิดจากพุทธคุณที่ประจักษ์ ซึ่งมีอานุภาพไม่แตกต่างกันมากนักกับพระเครื่องของหลวงปู่ทิม แต่มีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก และมีความมั่นใจในความแท้มากกว่า เนื่องจากพระขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิมนั้นหายากและมีของปลอมระบาดอยู่มาก.
มีเรื่องเล่าจากผู้ศรัทธาที่ยืนยันถึงประสบการณ์ด้านเมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์ที่ “สุดยอดเหลือเชื่อ”. เรื่องราวเหล่านี้ถูกบอกเล่าปากต่อปาก สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาในหมู่ผู้บูชาให้เพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความต้องการวัตถุมงคลของหลวงพ่อสาครนั้นสูงมาก ชื่อเสียงของท่านโด่งดังเป็นพิเศษในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา (ก่อนปี 2568 ตามข้อมูลที่อัปเดต) วัตถุมงคลของท่านที่ออกที่วัดจึงหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว. ผู้ศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นคนระยอง กรุงเทพฯ จังหวัดอื่นๆ รวมถึงชาวสิงคโปร์และมาเลเซีย ล้วนเดินทางมาเช่าบูชาวัตถุมงคลของท่านจนหมดเกลี้ยงวัดทุกรุ่น. การที่วัตถุมงคลของหลวงพ่อสาครเป็นที่ต้องการอย่างมากจนหมดเกลี้ยงวัดอย่างรวดเร็ว และมีผู้ศรัทธาจากต่างประเทศเข้ามาเช่าบูชาด้วย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพุทธคุณที่ประจักษ์และอิทธิพลของหลวงพ่อสาครที่ขยายวงกว้าง ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์จริงของผู้บูชาที่บอกเล่าต่อๆ กันไป ยิ่งตอกย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์และบารมีของท่าน
มรดกธรรมและพุทธคุณที่สืบสานจากครูบาอาจารย์
“พระยอดขุนพล บ้านค่าย หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ พ.ศ. ๒๕๕๒” ไม่ใช่เพียงวัตถุมงคลธรรมดา แต่เป็นมรดกธรรมอันล้ำค่าที่หลวงพ่อสาคร มนุญโญ ได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความตั้งใจอันบริสุทธิ์ ผสมผสานศาสตร์แห่งพุทธาคมที่ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และความรู้ที่ท่านได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่านทั่วสารทิศ

วัตถุมงคลรุ่นนี้จึงเปี่ยมด้วยพุทธคุณที่ครอบจักรวาล ทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ และมหาอำนาจ ซึ่งได้รับการยืนยันจากประสบการณ์ของผู้บูชามากมายที่ได้สัมผัสถึงอานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง การที่หลวงพ่อสาครปลุกเสกวัตถุมงคลแต่ละชุดหลายครั้งจนกว่าจะมั่นใจในพุทธคุณ สะท้อนถึงความรับผิดชอบอันสูงส่งของพระเกจิอาจารย์ต่อผู้ศรัทธา และความมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วัตถุมงคลของท่านได้รับความไว้วางใจและศรัทธาอย่างแท้จริง. นี่คือความเมตตาและเจตนาอันบริสุทธิ์ที่ท่านมอบให้แก่ชาวบ้านและลูกศิษย์ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจและเป็นสิ่งคุ้มครองปกปักรักษา
สำหรับผู้ที่ได้ครอบครอง “พระยอดขุนพล บ้านค่าย” รุ่นปี ๒๕๕๒ นี้ จึงควรบูชาด้วยความเคารพศรัทธา หมั่นทำความดี รักษาศีล และระลึกถึงคุณของหลวงพ่อสาครและครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา เพื่อให้พุทธคุณของวัตถุมงคลปรากฏอย่างเต็มที่และเป็นประโยชน์สูงสุดในการดำเนินชีวิต การเก็บรักษาวัตถุมงคลเหล่านี้ควรอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เพื่อรักษามูลค่าและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของวัตถุมงคลอันทรงคุณนี้ให้คงอยู่สืบไป.