ประวัติ หลวงปู่อิน เขมเทโว วัดหนองเม็ก จ.สุรินทร์
เถระปรมจารย์แห่งมหาเสน่ห์ สายเขมรตัวจริง เจ้าตำรับวิชา ” เปรี๊ยนเนียรี ” วิชาลงน้ำมันพรายล่องหนมนต์เสน่ห์เพชรพญาธร
ขึ้นชื่อว่า ” ศาสตร์วิชามหาเสน่ห์ ” นั้นยังมีหลายท่านที่ยังไม่ค่อยเชื่อว่า จะมีจริง เพราะยังไม่ได้สัมผัดชนิดที่เรียกว่า ของจริง แต่อีกหลายท่าน ซึ่งก็เป็นจำนวนไม่น้อยเลย ที่เชื่อว่า ” ศาสตร์วิชามหาเสน่ห์ ” นั้นมีจริง และเมื่อทำแล้ว บูชาแล้ว ได้ผลจริง เพราะท่านเหล่านั้นล้วนได้สัมผัด ด้วยตนเองมาแล้ว และเกิดประสบการณ์และความสำเร็จ เมื่อได้ทำพิธีเสริมในเรื่อง มหาเสน่ห์และบูชาวัตถุมงคลเครื่องรางในด้านมหาเสน่ห์ ด้วยตนเองมาแล้ว
ความอยากที่จะใคร่รู้ และ อยากที่จะเรียนรู้ด้วยตนเองว่า วิชาในด้านมหาเสน่ห์ นั้นมีจริงดังคำล่ำลือ หรือ ไม่นั้น ทำให้หลวงปู่อิน เมื่อสมัยยังหนุ่มๆนั้น ท่านอยากที่จะเรียนรู้ อยากที่จะศึกษา ในวิชามหาเสน่ห์ แบบให้รู้กันไปเลยว่า มีจริง แรงจริงแค่ไหน
โดย หลวงปู่อิน ท่านเล่าว่า ” เมื่อสมัยก่อนนั้น อยากให้มีผู้หญิงมารัก มาหลงเรา แต่บ้านเราจน เลยไม่มีสาวที่ไหนมาสนใจ ก็มีทางเดียวคือ เรื่องการทำมหาเสน่ห์ แต่พอไปให้หมอเสน่ห์ในหมู่บ้านทำให้ ก็ไม่เห็นผล จึงเริ่มจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ก็เลยตัดสินใจเรียนรู้ด้วยตนเองเลยดีกว่า ก็พอดีโยมพ่อกับโยมแม่ให้บวชก็บวช พอบวชได้พรรษากว่าๆ ความคิดในเรื่องที่อยากเรียนรู้ในวิชามหาเสน่ห์ ก็กลับมาอีก ก็เลยขอโยมพ่อกับโยมแม่ ไปเรียนที่บ้านกำปงจามในเขมร ซึ่งโยมพ่อ เขามีญาติอยู่ที่นั้น ก็เลยได้ไปเรียนวิชาสายเขมร ตำรับกำปงจาม เป็นครั้งแรก เริ่มเรียนตั้งแต่คาถาธรรมดา ไปจนถึงชนิดที่เรียกว่า สั่งคนให้มารักเราได้เลย และ เรียนในเรื่องการทำน้ำมันพราย และ น้ำมันไพร การทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งตอนนั้นอาตมายังเป็นพระหนุ่มอยู่ เมื่อเรียนแล้วก็อยากลอง ก็เลยลองวิชากับสาวในหมู่บ้านใกล้กันนั่นแหละ ก็ได้ผล เขามาหาเราที่วัดทุกวันเลย จนท่านพระอาจารย์ท่านรู้ก็เลยโดนดุ และต้องทำถอนให้เขา นั่นยิ่งทำให้ได้รู้ว่า วิชาในเรื่องมหาเสน่ห์จริงๆนั้นมี
ตั้งแตนั้นมา ก็เลยตั้งอกตั้งใจเรียนวิชามหาเสน่ห์ทุกอย่างในสายเขมรกำปงจามเลยทีนี้ ทั้งนำน้ำมัน หุงน้ำมันไพรมหาเสน่ห์ เคี่ยวขี้ผึ้ง การทำหุ่นรักลงเสน่ห์ การนำผงเสน่ห์ยาแฝด และเชียนกระทั่งวิชาถอนของมหาเสน่ห์ไสย์ดำ เรียนอยู่ที่ กำปงจามนี้ 7-8 ปี เรียกว่าได้ในวิชามหาเสน่ห์ทั้งหมด ในสายเขมรกำปงจาม เลยทีเดียว ”
หลวงปู่อิน ท่านเล่าต่ออีกว่า ” หลังจากนั้นก็อยากที่จะเรียนรู้ ในเรื่องมหาเสน่ห์เพิ่มอีก ก็ไปเรียนกับอาจารย์หราวาส ในวิชากระเหรี่ยง ซึ่งก็เป็นวิชามหาเสน่ห์ โดยวิชาอย่างอื่นไม่สนใจเลย เอาแต่ด้านมหาเสน่ห์อย่างเดียวเลย และก็เดินธดงค์ไป เรียนวิชาพญาหงส์ร่อนมอญแปลง ในแถบพม่า อีก 5-6 ปี ก็ได้วิชาในเรื่องมหาเสน่ห์อีกเยอะ ”
สำหรับวิชาในด้านมหาเสน่ห์ ที่หลวงปู่อิน ท่านได้เรียนมา ได้ศึกษาอย่างช่ำชองเชี่ยวชาญนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาแบบหัวกระทิทั้งนั้นก็ว่าได้ และในยุคปัจจุบัน จะหาผู้ที่รู้จริง ในเรื่องของวิชามหาเสน่ห์แบบครบเครื่องอย่าง หลวงปู่อิน นั้นคงยากเต็มที
หลวงปู่อิน เขมเทโว นามเดิมท่านชื่อ นายขาอิน ทองมาก โยมบิดาชื่อนายอัน บุญมาก โยมมารดาชื่อนางจาลี บุญมาก เกิดที่บ้านหมากมี้ ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยหลวงปู่ ท่านเริ่มเรียนวิชาด้านมหาเสน่ห์ กับโยมปู่ ซึ่งเป็นหมอมหาเสน่ห์ ชาวเขมรที่อยู่ จ.อุดรมีชัย ซึ่งเป็นหมอเสน่ห์ที่เก่งที่สุด ในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว
ปัจจุบัน หลวงปู่อินท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิต สมณเพศอันบริสุทธิ์ จาริกแสวงหาความสงบไปตามป่า ตามเทือกเขา เพื่อปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกรรมฐานให้จิตตั้งมั่นอยู่ในความสงบ เป็นสมาธิมั่นคง
หลวงปู่อิน ท่านได้ศึกษาวิชาอาคม จากครูบาอาจารย์ที่ท่านได้พบขณะกำลังบำเพ็ญอยู่ในป่าและพบขณะที่ ท่านจาริกไปในประเทศเขมร และ พม่า
โดยเฉพาะในเขมรนั้น หลวงปู่อิน ท่านเล่าว่า ท่านนั้นตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะเข้าไปศึกษา วิชาด้านมหาเสน่ห์โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพราะวิชามหาเสน่ห์ ตำรับวิชาเขมรนั้น ถือว่าแรงที่สุด โดยเฉพาะวิชาในสาย ” กัมปงชนัว ” ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาที่มากด้วยพลังอานุภาพ ที่ช่วยให้ผู้คนประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก เสริมเมตตามหาเสน่ห์ ให้แก่ผู้คน จนทำให้เป็นที่รักใคร่แก่บุคคลรอบข้าง
วิชาแห่ง เมตตามหาเสน่ห์ ที่เป็นศาสตร์อันลี้ลับมาแต่โบราณ ของเขมรในศาสตร์ของ ” กัมปงชนัว ” นี้ ผู้ที่รู้ในศาสตร์วิชานี้ในประเทศไทยนั้น หาไม่ได้เลย นอกจาก หลวงปู่อิน เพียงท่านเดียวเท่านั้น เพราะผู้ที่เรียนในสาย ” กัมปงชนัว ” นี้ได้ จะต้องมีสายเลือดเขมรเท่านั้น เพราะท่านนั้นรู้ถึงอานุภาพของศาสตร์วิชาในสาย ” กัมปงชนัว ” นี้มาเป็นเวลานานแล้ว จึงอยากที่จะศึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งก็นับว่าดวงยังดีที่ท่านสามารถพูด และรู้ภาษาเขมร เป็นอย่างดี เพราะเป็นภาษาบ้านเกิดอยู่แล้ว จึงมีโอกาสที่จะได้ศึกษา จนกระทั่งเดินธุดงค์ มากราบฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ปาชังสะบือ เพื่อขอเรียนวิชามหาเสน่ห์โดยตรง
ซึ่งหลวงปู่อิน ท่านบอกว่า การได้เรียนในสายวิชา ” กัมปงชนัว ” นี้ จะเรียนมนต์มหาเสน่ห์ล้วนๆ ตลอดจนวิชาเสกไพร วิชาลงของมหาเสน่ห์ วิชาทำน้ำมันพรายจากไพร และ ที่สำคัญที่ต้องเป็นก็คือ การปฏิบัติสมาธิบัติ เข้าสู่ธาตุน้ำ ใช้วิชากสิณน้ำ การปฏิบัติอย่างหนัก เพื่อให้จิตมีสมาธิอันเข้มแข็งและมั่นคง ต้องพานพบกับความลำบากนาๆประการ แทบเอาชีวิตไม่รอด แม้กระทั่งบางครั้งที่ หลวงปู่อิน ท่านต้องนอนนิ่งทั้งวันทั้งคืน เพื่อเอากำลังของจิตเข้าต่อสู้กับความเจ็บป่วยอย่างหนักของร่างกาย จนกระทั่งจิตของท่าน สามารถบรรลุความอดทน อย่างหนักแน่น ไม่หวั่นไหวคลอนแคลนใดๆทั้งสิ้น จนมีสมาธิเป็นหนึ่ง ด้วยสมาธิจิตเป็นหนึ่ง ของท่านนี่เอง ทำให้หลวงปู่อิน ได้พบเห็นความอัศจรรย์ต่างๆนาๆ ในภพภูมิอันเร้นลับมากมาย
ความเป็นหนึ่งของสมาธิจิตของ หลวงปู่อิน นี้จึงทำให้พิธีลงน้ำมันพรายล่องหน และ พิธีลงทองเพชรพญาธร ที่หลวงปู่ท่านลงให้แก่ญาติโยม และลูกศิษย์ทั้งหลายนั้น มีผลในทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมได้อย่างรวดเร็ว
ทุกคนที่ให้ หลวงปู่อิน ท่านทำพิธีลงน้ำมันพรายล่องหน ให้นั้นต่างรู้สึกเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อตอนที่ หลวงปู่ ท่านกดลงน้ำมันให้ที่กลางหลังนั้น จะรู้สึกถึงพลังที่เย็นวูบ ทำเอาสั่นไปทั้งตัว และเมื่อหลวงปู่ ท่านใช้มือตบลงบนแผ่นหลัง ยิ่งรู้สึกได้เลยว่า เย็นวูบไปทั้งตัว ทุกคนที่ได้สัมผัสนั้น ต่างบอกว่า ” นี่สิของจริง” มีไม่มากนัก จะมีพระเกจิอาจารย์ ที่มีภาวจิตสูงเยี่ยมยอดระดับนี้ และ มีวิชาอาคมแก่กล้าขลังเฉพาะตัวอย่างนี้ ไม่แน่จริง ไปอยู่ตามเขา โปรดชาวบ้านในป่าเขมรไม่ได้แน่
เขมรเป็นต้นตำรับวิชาไสยศาสตร์ ทั้งมนต์ดำ มนต์ดีไสยดำ ไสยขาว โดยเฉพาะวิชาทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ ที่ถือว่า ” เยี่ยมยอดที่สุด ” โดยเฉพาะวิชาที่ทำให้คนรักคนหลงนั้น ต้องถือว่าไม่มีใครแรงเกินวิชตำรับเขมรได้เลย
มนต์เสน่ห์ เสริมชะตาราศี ที่ทำให้มีแต่คนรักคนหลง วิชาอาคมขลังในด้านเมตตามหาเสน่ห์ ที่หลวงปู่อิน ท่านใช้สงเคราะห์ให้แก่ญาติโยมนั้น หลวงปู่ท่านบอกว่า จะลงให้เฉพาะในด้าน ไสยขาว คือเมื่อลงไปแล้ว ไม่มีพิษมีภัยใดๆ ลงไปแล้วมีแต่ส่งเสริมในสิ่งดีๆ ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ทำให้เป็นที่รักแก่เพศตรงข้าม เป็นที่รักใคร่แก่บุคคนรอบข้าง ทุกผู้ทุกคน จะทำอะไรก็มีแต่คนรักใคร่ คอยสนับสนุนช่วยเหลือ โดยเฉพาะวิชาการลงน้ำมันพรายล่องหน ของหลวงปู่อิน นับเป็นสุดยอดวิชาแห่งมหาเสน่ห์ที่เลืองลือ เป็นอย่างมาก เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้น ทุกคนที่ได้ลงไป ต่างบอกว่า ” เห็นผลอย่างที่ตั้งใจจริงๆ ”
เรื่องอาคมมหาเสน่ห์ ที่กล่าวถึงในปัจจุบัน คงจะไม่ใครเก่งเกิน หลวงปปู่อินเป็นแน่แท้ เพราะของดีวัตถุมงคลในแต่ละรุ่นนั้น เป็นของดีที่แรงในด้านมหาเสน่ห์ ตำหรับ กำปงจาม แบบเขมรแท้ๆ “เปรี๊ยนเนียรี ” หัวว่านและดอกว่าน ที่มีอานุภาพทางด้านมหาเสน่ห์ ที่ท่านใดมีความรู้ในด้านวิชามหาเสน่ห์ และผู้ที่เล่นว่าน ชอบว่านทางด้านมหาเสน่ห์ นั้น จะเป็นที่รู้ดีว่าต้นว่าน “เปรี๊ยนเนียรี “นี้เป็นว่านมหาเสน่ห์ ที่มีอานุภาพแรงเทียบเท่ากับ น้ำมันพรายเลยทีเดียว
ในตำหรับวิชา “กำปงจาม” ตำหรับเขมรนี้ หลวงปู่อิน ท่านบอกว่า ในตำราและวิชาไพร ที่ได้เรียนรู้มานี้ การจะสร้างหรือ ทำสิ่งใดที่เกี่ยวกับมหาเสน่ห์ ถ้าจะให้แรงจริง ต้องใช้ว่าน “เปรี๊ยนเนียรี ” และน้ำมันพรายล่องหน ที่ทำพิธีลนจากดอกของต้น เปรี๊ยนเนียรี ซึ่งต้นว่านนี้หายากมากๆ เพราะจะขึ้นอยู่ตามซอกหินในถ้ำที่มีความเย็น และความชื้นสูง และจะขึ้นอยู่ตามหินงอกหินย้อยบนเพดานถ้ำเท่านั้น
การจะทำพิธีเอาว่านนั้น หลวงปู่อิน ท่านจะเป็นผู้ทำพิธีเองทั้งหมด ซึ่งว่าน เปรี๊ยนเนียรี จะใช้ได้เฉพาะต้นที่มีดอกเท่านั้น โดยต้นว่าน เปรี๊ยนเนียรี จะออกดอกเฉพาะในเดือนธันวาคม ถึง เดือนมกราคมเท่านั้น
การลนต้นว่าน เปรี๊ยนเนียรี
หลวงปู่อิน ท่านจะใช้เทียนที่ท่านทำพิธีพิเศษ และลงอาคมแล้ว ท่านจะจุดเทียนและลนที่ดอกของต้นว่าน เมื่อเริ่มลนไปที่ดอกเรื่อยๆ น้ำมันของดอกเปรี๊ยนเนียรี ก็จะเริ่มไหลออกมา ซึ่งแต่ละต้นจะมีดอกอยู่ประมาณ 10 กว่าดอก เมื่อหลวงปู่ ท่านทำพิธี จนครบหมดทุกดอกแล้ว ก็จะได้น้ำมันพราย ที่หลวงปู่ท่านเรียกว่า น้ำมันพรายล่องหน หลังจากที่ทำพิธีลนน้ำมันเสร็จแล้ว หลวงปู่ท่านจะดึงต้น เปรี๊ยนเนียรี ออกมาจากซอกหินก็จะได้หัวว่าน เปรี๊ยนเนียรี แล้วหลวงปู่ท่านจะนำว่านไปตากให้แห้ง แล้วจึงนำมาตำเป็นผงละเอียด และ นำมาผสมกับ น้ำมันพรายล่องหน แล้วจึงนำไปตากอีกครั้ง และนำกลับเอามาตำใหม่จนละเอียด ซึ่งผงที่ได้ในแต่ละครั้ง ก็จะมีพุทธคุณที่แรงมาก ในด้านของมหาเสน่ห์ ชนิดที่เรียกว่า แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว ส่วนต้น ใบ และ ราก ของต้นเปรี๊ยนเนียรี หลวงปู่ท่านก็จะนำไปผสมกับว่านไพรมหาเสน่ห์อื่นๆ ทำพิธีเดี่ยวเป็นน้ำมันไพรล่องหน แล้วหลวงปู่ท่านก็จะนำ น้ำมันพรายล่องหน และ น้ำมันไพรล่องหน ที่ได้จากการปลุกเสกเดี่ยว มาผสมกัน จึงทำให้ น้ำมันพรายล่องหน ที่ทำพิธีเดี่ยวนั้นมีพลังอำนาจที่แรงในเรื่องของ มหาเสน่ห์ และเมตตามหานิยมโดยตรง