พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่สุข เกสโร แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า
ประวัติ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่สุข เกสโร แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อมตเถราจารย์ผู้เรืองวิทยาคมองค์หนึ่ง ผู้เป็นอาจารย์องค์แรกของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทั้งนี้เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่สุข ได้ถูกกล่างขวัญเอาไว้มากมาย จนกลายเป็นตำนานยอดเกจิแห่งลำน้ำสิงห์ เมืองชัยนาท สายวิชาของสำนักปากคลองมะขามเฒ่า ถือได้ว่าเป็นหนึ่งไม่มีสองเช่นกัน
หลวงปู่สุข ท่านมีนามเดิมว่า สุข นามสกุล เกษเวช ( ในภายหลังเชื้อสายทายาทท่านใช้นามสกุล เกษเวชสุริยา ) ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 4 ขึ้น 8 ค่ำ ปีวอก พ.ศ. 2390 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บ้านมะขามเฒ่า หรือ ปัจจุบัน คือ บ้านปากคลอง ตำบลมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท โยมบิดาชื่อ น่วม โยมมารดาชื่อ ทองดี มีภูมลำเนาที่ตำบลมะขามเฒ่า หลวงปู่สุข ท่านมีพี่น้องรวมด้วยกัน 9 คนคือ :
1. หลวงปู่สุข 2. นางอ่ำ 3. นายรุ่ง 4. นางไข่ 5. นายสิน 6. นายมี 7. นางขำ 8. นายพลอย 9. หลวงพ่อปลื้ม ( ภายหลังได้เป็นเจ้าอางาสวัดปากคลองมะขามเฒ่าสืบต่อจากท่าน )
เมื่อท่านอายุได้ 9 ขวบ บิดาได้นำตัวไปฝากไว้ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อให้ได้เล่าเรียนเขียนอ่าน กระทั่งแตกฉานทั้งหนังสือไทย หนังสือขอม เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ ท่านได้ย้ายไปอาศัยอญู่กับโยมลุงของท่าน ชื่อว่าแฟง ที่ตำบลบางเขน พระนคร โดยยึดอาชีพค้าขายเล็กๆน้อยๆ โดยในแถบลำคลองบางเขน จนอายุได้ 18 ปี ก็ได้ภรรยาคนหนึ่ง ชื่อสมบุญ อยู่ครองคู่กันโดยประกอบอาชีพทำสวน และ ค้าขาย ต่อมาได้กำเนิดบุตรชาย 1 คน ชื่อนายสอน เกษเวชสุริยา
ครั้นเมื่อท่านอายุครบ 22 ปี ท่านได้เข้ารับอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์บางเขน หรือ วัดโพธิ์ทองล่างในปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่ปากคลองบางเขนตอนล่าง โดยมีพระครูเชย จันทสิริ อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองล่าง เป็นพระอุปัชฌาย์ สำหรับพระครูเชย ท่านเป็นพระสงฆ์ฝ่ายสามัญ ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านยังเป็นอาจารย์ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ และ พุทธาคมที่เชี่ยวชาญมากองค์หนึ่งในสมัยนั้น เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั้งไกลใกล้ ท่านได้สร้างพระปิดตาเนื้อผงใบลานขนาดเล็กเอาไว้ เรียกกันว่า พระปิดตากิมจ้อ เล่ากันมาว่า ท่านจะแจกให้สำหรับผู้คนที่ใส่บาตรท่านในตอนเช้า ภายหลังได้การพบพระปิดตาแตกกรุที่วัดโพธิ์ทองล่างอีกครั้ง ปัจจุบันแม้ว่าราคาไม่สูงมาก แต่เป็นพระที่น่าบูชาอย่างยิ่ง ศักดิ์ศรีพระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่สุข
หลังจากที่หลวงปู่สุข อุปสมบทแล้ว ในตอนแรกท่านจำพรรษาอยู่กับ พระอุปัชฌาย์ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยสมถกรรมฐาน และ วิปัสสนากรรมฐาน จนมีความแตกฉานพอสมควรแล้ว ท่านก็ได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อหาที่สงบฝึกฝนวิชาต่างๆ ที่ไดเล่าเรียนมา ในช่วงเวลานี้ท่านได้เดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อศึกษาวิชาจากสำนักที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนั้น จากนั้นท่านได้เดินทางกลับบ้านเกิดของท่าน มาพักอยู่ที่วัดร้างแห่งหนึ่ง ชื่อวัดอู่ทอง อยู่ข้างหมู่บ้านของท่าน ( ปัจจุบันเรียกวัดปากคลอง ) ด้วยศีลาจริยาวัตรที่บริสุทธิ์ ชาวบ้านแถวนั้นจึงเกิดศรัทธาเลื่อมใส นิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั้น เพื่อจะได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็คือวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ ปี พ.ศ. 2447 ในระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้เริ่มสร้างถาวรวัตถุ จากวัดร้างที่ไม่มีอะไรเลย จนมีครบ ทั้งโบสถ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ กลายเป็นวัดที่ใหญ่โตถึงทุกวันนี้
สำหรับเรื่องราวที่เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาแห่งราชนาวีไทย พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จประพาสไปในภาคเหนือ จึงเป็นเหตตุให้หลวงปู่สุข และ พระองค์ท่านได้พบกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราวปี พ.ศ. 2447 โดยขณะที่เรือพระที่นั่งของพระองค์ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะเสด็จกลับ พระองค์สั่งให้เข้าทางแม่น้ำท่าจีน เมื่อเรือล่องมาถึง หน้าวัดปากคลองมะขามเฒ่า เครื่องยนต์เรือกลไฟ เกิดขัดข้องขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทำให้แล่นต่อไปไม่ได้ จะแก้ไขอย่างไรก็ไม่ติด พวกทหารเรือมหาดเล็กจึงช่วยกัน ชะลอเรือ เข้าเทียบท่าหน้าวัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อแก้ไขเครื่องยนต์
ขณะนั้น หลวงปู่สุข ท่านนั่งอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านตัดหัวปลีกล้วย มากองตรงหน้า เมื่อได้หัวปลีกองใหญ่ หลวงปู่สุขก็เดินไปนั่งข้างๆกองหัวปลี เสด็จในกรมฯ ทรงทอดพระเนตรดูอยู่ ทีแรกก็ทรงคิดว่าชะรอยพระภิกษุชราจะเล่นกับเด็กๆ อยู่กระมัง แต่พอ หลวงปู่สุข ท่านหยิบหัวปลีขึ้นมาที เอามือลูบ แล้ววางลง หัวปลีนั้นก็กลายเป็นกระต่าย กระโดดโลดเต้นไปมา หลวงปู่สุข ทำให้หัวปลีทั้งกองกลายเป็นกระต่ายฝูงใหญ่ กระโดดไปมาเต็มหน้าศาลาวัด ยังความอัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก สักพักหนึ่งท่านก็เรียกกระต่ายขาว มาหาทีละตัว ช้อนมันขึ้นมา เอามือลูบหลังเบาๆ พอวางกระต่ายลงก็กลายเป็นหัวปลีดังเดิม ในที่สุดกระต่ายทั้งหมด ได้กลายเป็นหัวปลีกองอยู่ เมื่อทรงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เสด็จในกรมฯจึงเสด็จขึ้นจากเรือพร้อมทหารเรือมหาดเล็ก ดำเนินมานมัสการหลวงปู่สุข เพื่อพูดคุยสนทนากับท่าน และ ขอฝากตัวเป็นศิษย์
– วัตถุมงคล หลวงปู่สุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า
– วัตถุมงคล หลวงพ่อเชย วัดโพธิ์ทองล่าง