ประวัติ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เป็นหนึ่งพระเกจิอาจารย์แห่งกรุงเก่า เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ เมืองร่องรอยประวัติศาสตร์การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ อุดมไปด้วยพระเกจิอาจารย์ นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน ชึ่งเป็นที่กล่าวขานศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หรือในสมณศักดิ์พระราชทินนามที่ พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ เจ้าอาวาสวัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเกจิอาจารย์แนวหน้าในยุคนี้ที่งดงามด้วย ปฏิปทาศีลวัตรสัจคุณ ดำรงสมณเพศอย่างสมถะ เป็นพระนักปฏิบัติมากกว่าที่จะเป็นพระธรรมกถึก ทั้งเป็นพระนักพัฒนา ทำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดตะโก
หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก ท่านได้สืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อชื่น วัดภาชี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ชึ่งสืบทอดวิชาพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ผู้เป็นพระบุรพาจารย์ที่โด่งดังเลื่องลือกิติศัพท์ ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสืบสายพุทธาคม โดงตรงจาก หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ที่เชี่ยวชาญวอชาอาคมโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรีเป็นหนึ่ง
ชีวประวัติ ชาติภูมิหลวงพ่อรวย ถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ 2464 ( ปัจจุบัน 2550 หลวงพ่อรวย เจริญสิริอายุครบ 86 ปี 70 พรรษาร่มกาสาวพัสร์ ) เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน 8คน ( ชาย3 หญิง 5 ) ของคุณโยมบิดามี โยมมารดา สินลา ศรฤทธิ์ ( บรรพบุรุษของสกุล ศรฤทธิ์ นี้เป็นเชื้อสายชาวกรุงศรีสัตนาคนหุต ) ณ บ้านตะโก หมู่ที่ 2 ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
ปฐมวัยและการศึกษาเบื้องต้น
ชีวิตในปฐมวัยมีความเป็นอยู่เหมือนๆกับเด็กในชนบททั่วไป คือได้ช่วยเหลือพ่อแม่ประกอบอาชีพทางด้านเกษตร อันถือได้ว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ มาแต่บรรพชน ทั้งช่วยเหลือเลี้ยงดูสัตว์ เช่นเลี้ยง วัว ควาย มาโดยตลอด ส่วนการศึกษาเมื่ออายุได้ 12 ปี ได้เข้ารับการศึกษาเบื้องต้นในโรงเรียนวัดตะโก เพราะเด็กๆในสมัยนั้นยังไม่มี โรงเรียนประถมศึกษา ของทางราชการ ในระแวก ต.ดอนหญ้านาง ต้องอาศัยพระสงฆ์ เป็นครูสอนบนศาลาการเปรียญของวัด จนมีความรู้อ่านออกเขียนได้ มีความรู้เทียบได้ชั้นประถมปีที่ 4 ก็ออกจากโรงเรียนสู่เพศพรหมจรรย์ เมื่ออายุ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตะโก โดยมีพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ ในที่ครองเพศพรหมจรรย์ ท่านได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ในด้านพระคันถธุระ ( พระปริยัติธรรม ) สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี อายุครบบวช ราว พ.ศ 2484 ก็อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดตะโก โดยมีพระครูสุนทรธรรมวินิฐ ( หลวงพ่อชื่น ) เจ้าอาวาสวัดภาชี เจ้าคณะอำเภอภาชีเป็นอุปัชฌาย์ พระปลัดจ้อยเจ้าอาวาสวัดวิมลสุนทร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสวัดตะโก ( ในสมัยนั้น ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า “ปาสาทิโก ” ครั้นอุปสมบทแล้ว อยู่จำพรรษาที่วัดตะโกเรื่อยมา ได้ศึกษาด้านคันถธุระพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม จนสอบได้นักธรรมชั้นโทใน พ.ศ 2485 และสอบได้นักธรรมชั้นเอกใน พ.ศ 2489 สืบทอดพุทธาคม หลังจากจบนักธรรมเอกแล้ว ท่านคิดว่าเพียงพอสำหรับด้านคันถธุระแล้ว เพราะพระที่อยู่ตามชนบทบ้านนอกพอที่จะรักษาพระธรรมวินัยเพศพรหมจรรย์ให้รุ่งเรือง และเป็นนำสอนชาวบ้านได้แล้ว
ท่านก็หันมาสนใจทางด้านวิปัสสนาธุระ โดยมองเห็นประโยชน์ในด้านการปฏิบัติ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ออกเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาเรียนพระกรรมฐานกับครูบาอาจารย์เก่งๆ ในยุคนั้นอาทิเช่น :
1. หลวงพ่อ ชื่น วัดภาชี อยุธยา เชี่ยวชาญด้านวิปัสนากรรมฐานที่สืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เป็นที่รู้จักกันดีในยุคนั้น ชึ่งมีศิษย์ที่ศึกษาวิชาจาก หลวงพ่อกลั่น มากมายอาทิเช่น : หลวงพ่อใหญ่ หลวงพ่ออั้น หลวงพ่อเภา หลวงพ่อศรี หลวงปู่ดู่ และหลวงพ่อ ชื่น ศิษย์หลวงพ่อกลั่นที่กล่าวถึงทั้งหมดนี้ ปัจจุบันได้มรณะภาพไปหมดแล้ว ชึ่งแต่ละองค์ล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี
2. หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ เชี่ยวชาญเวทมนต์คาถาอาคม ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้ หลวงพ่อรวย ทุกอย่าง อาศัยความขยันหมั่นเพียร และความตั้งใจมุ่งมั่นจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนวิชาที่เล่าเรียนปฏิบัติเข้มขลังในพลังแห่งวิทยาคมสูงส่ง
กิตติคุณเป็นพระเกจิที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะเชี่ยวชาญสรรพเวทวิทยาคม วัตถุมงคลเข้มขลังเปี่ยมพลังพุทธคุณมากประสบการณ์ แคล้วคลาดนิรันตรายและเมตตา มหานิยม โชคลาภ เป็นหนึ่งคาถามหาลาภ สัมพุทธชิตา จะ สัจจานิ เกรัตสะ สัมพุทธชิตา สัพพโส คุณะวิภาสัมปัตโต นะรุตตะโม มหาลาภังภวันตุ
หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หนึ่งพระอาจารย์กรุงเก่า จัดเป็นเกจิแนวหน้ายุคปัจจุบันของเมืองไทย ท่านได้สืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อชื่น วัดภาชี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ชึ่งสืบทอดวิชาพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ผู้เป็นพระบูรพาจารย์ที่โด่งดังเลืองลือกิตติศักดิ์ ( เหรียญของท่านเป็นเหรียญอันดับหนึ่งของประเทศไทย ) ในอดีตถึงปัจจุบัน ทั้งสืบสายพุทธาคมโดยตรงมาจาก หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ที่เชี่ยวชาญอาคม โดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี ท่านเริ่มสร้าง วัตถุมงคลมาตั้งแต่ พ.ศ 2513 จนถึงปัจจุบัน หากจะนับรุ่นแล้ว มีทั้งเหรียญเนื้อผง เครื่องรางถือว่าหลายรุ่น แต่ละรุ่นออกมาน้อยมาก ไม่พอแจกคนเลื่อมใสศรัทธา วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะรุ่นไหนก็พุทธคุณเหมือนกัน วัตถุมงคลที่เด่นของท่าน :
เหรียญเสมารุ่นแรก
รูปหล่อลอยรุ่นแรก 2536
เหรียญรุ่นชื้อที่ดิน 2541
เหรียญจัมโบ้ครึ่งองค์ 2520
เหรียญมหาลาภ 2540
เหรียญรูปหล่อปั้มรุ่นแรก 2541
เหรียญ 5 แช๊ะ 11 แต่วัตถุมงคลที่สร้างชื่อให้กับท่านมากที่สุด คือ
เลสข้อมือตั้งแต่รุ่นแรก 2537 จนถึงปัจจุบัน ( ทำออกจำหน่ายทุกปี )
ชึ่งถือว่าเป็น วัตถุมงคลที่เป็นเลสข้อรุ่นแรกของประเทศไทย สำหรับองค์นี้เป็น เหรียญเสมารุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า เนื้อกะไหล่เงิน ที่ระลึกในงานฉลองสมณะศักดิ์ ออกเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2513 จำนวนการสร้าง 1,500 องค์ ชึ่งถือว่าน้อยมาก เรื่องของพุทธคุณนั้น เด่นทางด้านโชคลาภ ทำมาค้าขาย และ ทางด้านแคล้วคลาดอีกด้วย เชื่อกันว่า จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ตามชื่อหลวงพ่อรวย.