ประวัติ ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
ครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก
ครูบาวัง พรหมเสโน พื้นเพเดิมท่านเป็นชาวจังหวัดลำพูน นามสกุลเดิมของท่านคือ ณ ลำพูน สืบเชื้อสายมาจากเจ้าหลวงเศรษฐีคำฟั้น เป็นเจ้าผู้ครองนครลำพูน และเป็นต้นสกุล ณ ลำพูน สืบสายมาจากเชื้อเจ้าเจ็ดตน เพราะเป็นบุตรของเจ้าฟ้าชายแก้ว ซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าพระยาสุลวฤไชย ( พ่อเจ้าทิพย์ช้าง ) แห่งสกุลทิพยจักร์.
ครูบาวัง เกิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2434 ท่านเป็นเพศพรหมจรรย์ คือ บวชตั้งแต่เป็นสามเณรจนกระทั่งมรณภาพ.
ท่านบรรพชาเป็นสามเณรตอนอายุ 12 ปี ในปี พ.ศ. 2445 และ อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 21 ปี ในปี พ.ศ. 2455 ในขณะที่ท่านดำรงอยู่ในสมณเพศ ได้จาริกเดินธุดงค์ควบคู่กันไปกับการศึกษาตำราโหราศาสตร์ และ ไสยศาสตร์ , ตำราพระเวทมนต์คาถา ทั้งตำราที่เป็นอักษรธรรมของล้านนาและของเมืองพม่าจนแตกฉาน ดังนั้นท่านจึงพูดได้ทั้งสองภาษา รวมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนพิธีต่างๆ ตามตำรับโบราณดั้งเดิมของล้านนา และ พม่า เป็นระยะเวลา 16 ปี เมื่อท่านชราภาพจึงกลับมาอยู่ที่วัดบ้านเด่น.
ครูบาวัง ท่านเชี่ยวชาญในเรื่องของโหราศาสตร์ และ ไสยเวทมนต์คาถา รวมทั้งศาสนพิธีตามแบบประเพณีของล้านนา ในระหว่างการถือธุดงค์วัตร ท่านได้ประจักษ์ในสัจธรรมแห่งการเวียนว่ายตายเกิด จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยส่งเสริมและมุ่งเน้นให้ผู้คนเหล่านั้นทำความดีและรักษาศีลห้าไปพร้อมกันในขณะที่ถือครองวัตถุมงคลของท่านอยู่ในมือ ท่านมีความรู้แตกฉานในการสร้างเครื่องรางของขลัง โดยมุ่งเน้นสงเคราะห์และให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยาม เจ็บ ป่วย ท่านทำงานในหลายบทบาทหน้าที่มาก.
ในขณะที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่ในสมณเพศ ท่านไม่เคยที่จะหยุดกิจวัตรของสงฆ์เลย เช่น การสร้างศาสนสถานและทำนุบำรุงวัดบ้านเด่น จ.ตาก ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือให้บุตรหลานได้มีการศึกษา บวชเรียนเป็นเณรในวัดและเป็นนักเรียนที่ดีในโรงเรียน ( เพื่อติดอาวุธทางปัญญาในการประกอบสัมมาอาชีพซึ่งเรียกว่าเป็นทรัพย์ภายในที่แท้จริง ) นี่คือปรัชญาและวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อครูบาวัง ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งชายและหญิง ส่วนมากทุกคนชอบเรียกท่านว่า ” พ่อตุ๊ ” มีความหมายว่า ” พ่อพระ ” ที่เรียกเช่นนี้ เป็นการแสดงถึงความเคารพนับถือเทิดทูนอย่างเต็มเปี่ยมในตัวท่านนั่นเอง .
ท่านเป็นพระพรหมจรรย์ ( ศึกษาปรมัตถ์และพระเวท ) ที่ถือศีลบริสุทธิ์เพราะท่านหมดกิเลส นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม พระพุทธคุณณัง , ธัมมะคุณณัง , และสังฆะคุณณัง ในวัตถุมงคลของท่านจึงเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และ สร้างประสบการณ์มาแล้วมากมาย.
วัตรปฏิบัติของท่านมุ่งเน้นในการช่วยเหลือและสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ที่มีความทุกข์ กับวลีคำพูดที่ไม่มีวันตายของท่านที่ทุกคนฟังอย่างตั้งใจในคำกล่าวต้อนรับที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนไม่เคยพบพานที่ไหนมาก่อน ในประโยคที่เหมือนกันคือ ” ขอให้บอกพ่อมาเถิดลูก ไม่ต้องเกรงใจ ลูกจะเอาอะไร ต้องการอะไรจากพ่อ ขอให้ลูกบอกพ่อมาเลย ”
นั่นคือคำพูดที่เปี่ยมด้วยเมตตาในมาตรฐานเดียวกันหมดทุกคน ไม่เคยเลือกที่จะปฏิบัติ ไม่ว่าลูกศิษย์ และ ศรัทธาประชาชนทุกชนชั้น ตั้งแต่ระดับเจ้าใหญ่นายคน ไปจนถึงระดับคนรากหญ้า ในอดีตมีชาวบ้านที่ป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เดินทางมาพบกับหลวงปู่เพื่อให้ท่านช่วยรักษาตัวให้หายจากอาการป่วย หลังจากหายดีแล้ว แต่ไม่มีเงินเดินทางกลับบ้าน ท่านยังให้ความเมตตาด้วยการช่วยสงเคราะห์ค่ารถให้กลับบ้านไป.
ท่านสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง มุ่งเน้นช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง ท่านเป็นพระสงฆ์อันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน คุณงามความดีของหลวงพ่อท่านไม่เคยตายจากใจ และ เป็นอมตะในความทรงจำของผู้คนจากอดีตถึงปัจจุบันเสมอมา ท่านจึงได้รับฉายา ” เทพเจ้าแห่งความเมตตา ” แห่งแดนล้านนา.
เครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ เคยสร้างประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังเป็นที่ประจักมาแล้วนั่นคือ “ตะกรุด” ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ตะกรุด 5 ดอก , 9 ดอก , 108 ดอก , ตะกรุดใบลาน , ตะกรุดจำปาสี่ต้น , ตะกรุดคลอดลูกง่าย , ตะกรุดแหนบใบพลู และ ผ้ายันต์ , สีผึ้ง , ม้าเสพนาง , ชานหมาก เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี 2506 นอกจากนี้ ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ รวมทั้งมีพรสวรรค์อีกประการหนึ่งคือ ท่านสามารถนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือ นั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล และในเรื่องอื่นๆ…
การมรณภาพ
ครูบาวังได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 เวลา 24 : 00 น. ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา.