ประวัติหลวงพ่อสาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ จ.ระยอง
พระครู มนูญธรรมวัตร หรือหลวงพ่อสาคร ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคม จาก หลวงปู่ทิม อิสริโก , หลวงพ่อสาคร ท่านเป็นผู้ฝักไฝ่ ในด้านเวทมนต์ คาถาอาคม และวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ ท่านมีนามเดิมว่า สาคร ไพสาลี ท่านเกิดในตระกูลชาวไร่ – ชาวนา
โยมบิดาชื่อ นายกุ โยมมารดาชื่อ นางนิด หลวงพ่อสาคร ท่านเกิดที่บ้านท้ายทุ่ง หมู่ 2 ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย ( บ้านท้ายทุ่งแห่งนี้ เป็นสถานที่เดียวกับ บ้านเกิดของ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ ) หลวงพ่อสาคร มีพี่น้องทั้งหมด 2 คนคือ :
1. นางอยู่ ไพสาลี
2. สาคร ไพสาลี ( หลวงพ่อสาคร )
หลวงพ่อสาคร ท่านเกิดเมื่อวันอังคาร แรม 9 ค่ำ เดือน 3 ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2481 ซึ่งตรงกับคติโบราณที่ว่า บุคคลที่เกิดวันนั้น จะมีความพิเศษอยู่ในตัว หากถือปฏิบัติก็จะพบกับความเจริญยิ่งขึ้นไป หากร้ายก็จะร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และบุคคลที่เกิด ในราศีนี้จิตจะฝักไฝ่ ด้าน ไสยศาสตร์เวทมนต์คาถา
การศึกษา
หลวงพ่อสาคร ท่านได้เข้าศึกษาเบื้องต้น ในชั้นประถมปีที่ 1 เมื่ออายุได้ 5 ขวบ ที่โรงเรียนวัดหนองกรับ จนจบชั้นประถมปีที่ 4 เมื่อ พ.ศ 2490 ได้ออกโรงเรียนมาช่วยโยมบิดา – มารดา ประกอบอาชีพทำนา และเมื่อมีเวลาว่าง ก็จะออกเดินทางไป บ้านระหารไร่ เพื่อศึกษา วิชาไสยศาสตร์ กับโยมหล่อ และโยมทัต ซึ่งทั้งสองถือว่า เป็นผู้เรืองวิชาอาคม ในสมัยนั้น และเข้าปฏิบัติกับ หลวงปู่ทิม อยู่เป็นนิจ ซึ่งนับว่าเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ ที่หลวงปู่ให้ความเมตตาเรียกใช้อยู่เสมอ ด้วยนิสัยและความสนใจด้าน ไสยศาสตร์ มาแต่เด็กและเมื่อโตขึ้น ท่านจึงเป็นคนหนุ่มที่มีวิชาอาคมติดตัว แต่ก็มิได้ใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาไปทำร้ายใคร กลับมีแต่ช่วยเหลือเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน มาตลอด
การอุปสมบท
เมื่ออายุครบ 20 ปี โยมมารดาและญาติพี่น้อง จึงได้ร่วมกันจัดพิธีอุปสมบท ให้เป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองกรับ เมื่อวันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ 2501 โดยมีพระครูจันทโรทัย ( หลวงพ่อดิ่ง ) เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเคียง วัดไผ่ล้อมเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ” มนูญโญ ” เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้เดินทางไปจำพรรษาที่ วัดระหารไร่ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ทิม เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และพุทธาคมจาก หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ อย่างจริงจัง ดังนั้น ท่านจึงได้รับ การถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงปู่ทิมจนหมดสิ้น โดยหลวงปู่ทิมมิได้ปิดบังแต่อย่างใด เรียกได้ว่า เรียนได้กระจ่างชัดรู้จริง สามารถปฏิบัติได้
เมื่อหลวงพ่อสาคร มีความเชี่ยวชาญในพระคาถาต่างๆ ที่เรียนมาแล้ว ด้วยใจรักด้านนี้ ท่านยังเสาะแสวงหาเพิ่มวิชาคความรู้ โดยได้ศึกษาวิชาอาคมต่ออีกกับ หลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่ ซึ่งหลวงพ่อเพ่งรูปนี้ เดิมท่านเป็นมหาดเล็ก ในเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ฯ ท่านจึงได้ศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงปู่สุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่มีวิชาด้านคงกระพันเป็นเยี่ยม-เขียนอักขระลงบนแผ่นตะกั่วเพียงตัวเดียว ให้คนทดลองยิงก็ยิงไม่ออก
เมื่อหลวงพ่อสาคร ได้ศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงพ่อเพ่งเป็นอย่างดีแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำจาก หลวงปู่ทิม ให้ไปศึกษาวิชาต่ออีกกับ หลวงปู่หินวัดหนองสนม ซึ่งหลวงพ่อสาครก็ได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่หินถ่ายทอดวิชาให้เป็นอย่างดี หลังจากศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงปู่หินแล้ว หลวงพ่อสาคร ก็ได้เดินทางไปศึกษาวิชากับหลวงปู่โสม วัดปากช่อง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็น พระ ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า อีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออก หลวงพ่อสาคร ก็ได้ศึกษา จนกระทั่งจบวิชาความรู้ต่างๆ
ด้วยนิสัยไฝ่รู้หมั่นศึกษา หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จึงได้รับการถ่ายทอด วิชาอาคม จากบรรดาเกจิอาจารย์ต่างๆ อีกหลายท่าน อาทิเช่น :
พ.ศ 2503 ได้เดินทางไปศึกษากับ อาจารย์เชียงคำ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
พ.ศ 2506 ศึกษากับ อาจารย์สิน วัดนาวัง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ศ 2518 ได้เดินทางไปศึกษากับ อาจารย์สุพจน์ ที่ประเทศเขมร
พ.ศ 2523 ศึกษากับ พระอาจารย์สุมล คำเสียง ที่ จ.ศรีษะเกษ
พ.ศ 2525 ศึกษากับ หลวงพ่อบุญเย็น วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา
พ.ศ 2526 ศึกษากับ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่นขุนทด จ.นครราชสีมา
พ.ศ 2527 ศึกษากับ หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร จ.เพชรบูรณ์
พ.ศ 2528 ศึกษากับ หลวงพ่อบึม วัดปราสาทกิน จ.ปราจีนบุรี ฯลฯ
หลวงพ่อสาครยังได้ศึกษากับ พระเกจิอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญทางด้านไสยเวทย์ต่างๆ อีกหลายท่าน ทั้งพระภิกษุ และฆราวาส ในปี พ.ศ 2508 พระครูเกลี้ยง ธรรมถีโย เจ้าอาวาสลำดับที่ 9 ของวัดหนองกรับได้มรณะภาพลง ทายกทายิกาชาวบ้านหนองกรับได้เดินทางไปหา หลวงปู่ทิม ที่วัดระหารไร่เพื่ออาราธนา หลวงพ่อสาคร มนูญโญ ให้กลับมาเป็นเจ้าอาวาส วัดหนองกรับ หลวงปู่ทิมได้อนุญาต หลวงพ่อสาคร จึงมาเป็นเจ้าอาวาส วัดหนองกรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ถึงแม้ว่า หลวงพ่อสาคร ท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาส วัดหนองกรับ ก็มิได้ทอดทิ้ง หลวงปู่ทิมผู้เป็นอาจารย์ ยังคงเดินทางไปกราบนมัสการดูแล หลวงปู่อยู่เสมอ จนกระทั่งหลวงปู่ทิมได้มรณะภาพลง ในปี พ.ศ 2518 หลวงพ่อสาคร ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ในการจัดบำเพ็ญกุศลศพ หลวงปู่ทิม อย่างเต็มที่สมกับที่ เป็นศิษย์ก้นกุฏิอย่างแท้จริง จนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาอื่นๆของ หลวงปู่ทิม กล่าวยกย่องชมเชย หลวงพ่อสาคร กันทั่วหน้า
หลวงพ่อสาคร นอกจากจะสนใจศึกษาวิชาอาคมต่างๆแล้ว ท่านก็มิได้ทอดทิ้ง การศึกษาในด้านพระธรรมวินัย และเมื่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดหนองกรับ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200 ปี และเคยถูกไฟไหม้เผากุฏิเสนาสงฆ์ จนวอดวาย ท่านก็มิได้ดูดาย เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาส ก็ได้บูรณะ และสร้างเสนาสนะใหม่ขึ้นมา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชน ได้ใช้ปฏิบัติศาสนกิจต่อไปด้วย
ความสามารถของ หลวงพ่อสาคร อีกอย่างหนึ่งคือ มีความชำนาญในด้าน ปฏิมากรรม และ วิจิตรศิลป์ การแกะสลัก การปั้นลวดลาย และวาดภาพฝาผนัง ตลอดจนการลงรักปิดทอง ท่านจึงได้ลงมือบูรณะ และ ก่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุต่างๆด้วยตัวท่านเอง ในปี พ.ศ 2524 ได้รับพระราชทานเป็นพระครูชั้นโท
พระครู มนูญธรรมวัตร หรือหลวงพ่อสาคร ได้สร้างพระเครื่อง วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ 2508 มีด้วยกัน 2 พิมพ์ พิมพ์แรกเป็น สมเด็จรัสมี มีเนื้อผงใบลานเก่าสีดำ หลวงพ่อได้นำใส่บาตรแล้วเผาไฟ ทำให้มีเนื้อแกร่ง และอีกพิมพ์หนึ่งเป็น รูปปั้นหลวงปู่ทิม เนื้อผงใบลานสีดำ เนื้อเดียวกับ สมเด็จพิมพ์รัสมี หลวงพ่อสาคร ได้นำออกมาแจกแก่ญาติโยมครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ 2510 ในงานทอดผ้าป่า พระเครื่อง ชุดนี้ได้ก่ออภินิหารอย่างมากมาย ช่วยคุ้มครองชีวิตแก่ผู้นำติดตัวมาแล้วหลายราย
ต่อมาในปี 2524 หลวงพ่อสาคร ได้นำผงปัถมัง , ผงอิทธิเจ ที่ท่านเขียนเลขยันต์อักขระต่างๆ ผงของหลวงปู่ทิม , ผงอิทธิเจหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ , ผงปัดตลอดอาจารย์ภูเมือง , ผงพุทธคุณ หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง , ผงพุทธคุณ ครูบาคำหล้ว จ.เชียงใหม่ , ผงพุทธคุณอาจารย์มั่น , ผงวิเศษหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และผงของเกจิอาจารย์ต่างๆที่ หลวงพ่อสาคร ได้ไปศึกษามา ท่านได้นำผงเหล่านี้มาสร้างเป็น สมเด็จพุทธนิมิตร ซึ่งเป็นพระประธาน ในอุโบสถ วัดหนองกรับ หลังจากสร้างออกมาแล้วก็เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อทหารนาวิกโยธิน นายหนึ่งได้เหยียบกับระเบิด จนตัวลอยละลิ่ว เมื่อเเพื่อนๆวิ่งไปดู ทหารนายนั้น กลับไม่เป็นอะไรเลย ในคอคล้อง สมเด็จพุทธนิมิตร องค์เดียวเท่านั้น จึงยกโขยงมาขอ สมเด็จพุทธนิมิตรจาก หลวงพ่อสาคร ไปเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้น หลวงพ่อสาคร ได้สร้างวัตถุมงคล ขึ้นอีกหลายพิมพ์ ซึ่งก็ล้วนแต่มีประสบการณ์ทั้งสิ้น จนทำให้ วัตถุมงคลเหล่านั้นหมดไปจากวัด อย่างรวดเร็ว , ในปี พ.ศ 2524 หลวงพ่อสาคร ได้รับพระราชทานเป็นพระครูชั้นโท ท่านได้สร้างเหรียญปิดตา รุ่นฉลองสมณศักดิ์ขึ้น ด้านหลังเป็นยันต์ 5 , เหรียญรุ่นนี้เป็นที่โจษขานกันมาอีกรุ่นหนึ่ง ในบรรดาพ่อค้าแม่ค้าใน จ.ระยอง เพราะทำให้มีฐานะดีขึ้นมทุกวันนี้เพราะ เหรียญปิดตา หลวงพ่อสาคร นี่แหละ
หลวงพ่อสาคร นับว่าเป็นที่เจริญรอยตามคณาจารย์ โดยแท้ด้วยศิลลาจารวัตร ที่งดงามอีกรูปหนึ่ง ท่านเป็นพระที่สมถะ มากด้วยธรรมวินัยมีอาคมอันแก่กล้า นับว่าเป็นเพชรน้ำเอกรูปหนึ่งที่ประชาชน ให้ความเคารพนับถือ ท่านเป็นพระผู้สืบสานอาคมจาก หลวงปู่ทิม ผู้เป็นอาจารย์มิขาดตกบกพร่อง
ชูชกโภคทรัพย์มหาเศรษฐี เนื้อผงพรายกุมาร ปี 2547 หลวงพ่อสาคร วัดกรับ[/caption]
หลวงพ่อสาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ จ.ระยอง ได้มรณะภาพแล้ว ในเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 18 กันยายน 2556