กำเนิดเครื่องรางของขลัง

กำเนิดความเป็นมาเครื่องรางของขลัง

จากบันทึกในตำราพิชัยสงครามกล่าวว่า นักรบจะมีเครื่องรางของขลังติดตัวเพื่อสร้างผลให้เกิดเป็นมงคล คงกระพัน แคล้วคลาด ยามออกศึกสงคราม โดยมีหลากหลายชนิด หลายลักษณะ ซึ่งมักจะได้รับมาจากพระสงฆ์ซึ่งชาวบ้านนับถือ มีจิตญาณสูง เก่งทางวิชาอาคม และนักรบจะมีความเชื่อต่อของขลังนั้นๆ อย่างมั่นคง จะเห็นได้จากการสืบทอดสรรพตำราตกทอดกันมาหลายรุ่นหลายสมัย ซึ่งเครื่องราง สามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทต่างๆดังนี้

เครื่องรางของขลัง

แบ่งตามการเกิดมาของเครื่องราง ได้แก่

  1.   เป็นสิ่งที่เกิดมาจากธรรมชาติ ไม่มีการสรรค์สร้าง ถือว่ามีดีในตัวและมีเทวดารักษาสิ่งนั้น เช่น เหล็กไหล คดต่างๆ เขากวางคุด เขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง เถาวัลย์ ฯลฯ
  2.   เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยการนำแร่ธาตุต่างชนิด มาหลอมตามสูตรการเล่นแร่แปรธาตุในสมัยก่อน เช่น เมฆสิทธิ์ เมฆพัดเหล็กละลาย ตัวสัมฤทธิ์นวโลหะ สัตตะโลหะ ปัญจโลหะ เป็นต้น ทั้งนี้ครอบคลุมไปถึงเครื่องรางลักษณะต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงน์คุ้มกันภัยอันตราย

เครื่องรางของขลัง

 เครื่องคาด อันได้แก่เครื่องรางที่ใช้คาดศีรษะ คาดเอว และคาดแขน ฯลฯ

  1.   เครื่องสวม อันได้แก่เครื่องรางที่ใช้สวมคอ สวมศีรษะ สวมแขน สวมนิ้ว ฯลฯ
  2.   เครื่องฝัง อันได้แก่เครื่องรางที่ใช้ฝังลงไปในเนื้อหนังของคน เช่น เข็มทอง ตะกรุดทอง ตะกรุดสาลิกา (ใส่ลูกตา) และการฝั้งเหล็กไหลหรือฝังโลหะมงคลต่างๆ ลงไปในเนื้อ จะรวมอยู่ในพวกนี้ทั้งสิ้น
  3.   เครื่องอม อันได้แก่เครื่องรางที่ใช้อมในปาก อาทิเช่น ลูกอม ตะกรุดลูกอม (สำหรับในข้อนี้ไม่รวมถึงการอมเครื่องรางชนิดต่างๆ ที่มขนาดเล็กไว้ในปาก เพราะไม่เข้าชุด)

แบ่งตามวัสดุของเครื่องราง ได้แก่

  1.   โลหะ
  2.   ผง
  3.   ดิน
  4.   วัสดุอย่างอื่น เช่น กระดาษสา ชัน โรงดิน ขุยปู
  5.   จากสัตว์ เช่น เขี้ยวสัตว์ เขาสัตว์ งาสัตว์ เล็บสัตว์ หนังสัตว์
  6.   จากชิ้นส่วนคนตาย เช่น ผมผีพราย ผ้าตราสัง ผ้าห่อศพ ผ้าผูกคอตาย
  7.   จากทั่ว ๆ ไป เช่น ผ้าทอ

เครื่องรางของขลัง

แบ่งตามรูปแบบลักษณะที่เห็นของเครื่องราง ได้แก่

  1.   เพศชาย อันได้แก่ รักยม กุมารทอง ฤๅษีพ่อเฒ่า ชูชก หุ่นพยนต์พระสีสแลงแงง และสิ่งที่เป็นรูปของเพศชายต่างๆ
  2.   เพศหญิง อันได้แก่ แม่นางกวัก แม่พระโพสพ แม่ครีเรือน แม่ซื้อ แม่หม่อมกวัก เทพนางจันทร์ พระแม่ธรณี และสิ่งที่เป็นรูปของ ผู้หญิงต่างๆ
  3.   สัตว์ ในที่นี้หมายถึงพระโพธิสัตว์ อาทิ เสือ ช้าง วัว เต่า จระเข้ งู ดังนี้เป็นต้น…

เครื่องลางของขลัง

แบ่งตามขั้นลำดับและระดับชั้นของการปลุกเสกเครื่องราง ได้แก่

  1.   เครื่องรางชั้นสูง อันได้แก่ เครื่องรางที่ใช้บนส่วนสูงของ ร่างกายซึ่งนับตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงบั้นเอว สำเร็จด้วยพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
  2.   เครื่องรางชั้นต่ำ อันได้แก่ เครื่องรางที่เป็นของต่ำ เช่น ปลัดขิก อีเป๋อ (แม่เป๋อ) ไอ้งั่ง (พ่องั่ง) ไม่ได้สำเร็จด้วยของสูง
  3.   เครื่องรางที่ใช้แขวน อันได้แก่ ธงรูปนก รูปตั๊กแตน รูปปลาหรือกระบอกใส่ยันต์ และอื่นๆ

เมื่อเราแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่ให้เห็นกันง่ายๆ ขึ้นแล้ว เราก็ต้องมาทำความเข้าใจกันว่า ที่มาของการสร้างเครื่องรางนั้นแต่เดินสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ซึ่งขออธิบายง่ายๆ คือ ในสมัยก่อนนั้นโลกยังไม่มีศาสนา มนุษย์รู้จักเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเท่านั้น เช่นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และดาวตกหรือแม้กระทั่งไฟ

ดังนั้นเมื่อคนสมัยก่อนเห็นพระอาทิตย์มีแสงสว่างก็เกิดความเคารพ แล้วเขียนภาพดวงอาทิตย์ไว้ในผนังถ้ำ เพื่อให้เกิดความอุ่นใจในยามค่ำคืน เมื่อเขียนใส่ผนังถ้ำแล้วก็มาสลักลงบนหินเพื่อติดตัวไปมาได้ ก็กลายเป็นเครื่องรางไปโดยบังเอิญ ต่อมาเมื่อรู้จักไฟก็คิดว่าไฟเป็นเทพเจ้า เกิดการบูชาไฟ ทำรูปดวงไฟ

ต่อมาเมื่อมีการเดินทางมากได้พบเห็นสิ่งประหลาดต่างๆ เช่น นก ที่มีรูปร่างประหลาด ก็คิดว่าเป็นเทพ จึงสร้างรูปเคารพของเทพต่างๆและค่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากประเทศอียิปต์ กรีกและโรมัน เพราะเป็นประเทศที่มีเครื่องรางมากมาย

ต่อมาในช่วงพุทธกาลราวเมื่อ 2,000 ปีเศษ ศาสนาพราหมซึ่งถือเอาพระผู้เป็นเจ้าเป็นสรณะก็บังเกิดขึ้น พระผู้เป็นเจ้านั้นคือพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม และเมื่อต้องการความสำเร็จผลในสิ่งใด ก็มีการสวดอ้อนวอนอันเชิญ ขออำนาจของเทพเจ้าทั้งสามให้มา บันดาลผลสำเร็จที่ต้องการนั้นๆ การกระทำดังกล่าวนี้ จะต้องมีเครื่องหมายทางใจเพื่อการสำรวม ฉะนั้นภาพจำหลักของเทพเจ้าจึงมีกิดขึ้น จะเห็นได้จากรูปหะริหะระ” (HariHara) แห่งประสาทอันเดต (PrasatAndet) ที่พิพิธภัณฑ์เมืองพนมเปญ อันเป็นภาพจำหลักของพระนารายณ์ในศาสนาพราหมณ์ หรือเทวรูปมหาพรหมแห่งพิพิธภัณฑ์กีเมต์ที่ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นประติมากรรมที่สร้างขึ้นมาด้วยความมุ่งหมายเอาเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางใจในศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเป็นศาสนาเก่าแก่ในประเทศอินเดีย

ในเวลาต่อมาพระพุทธศาสนาก็เกิดขึ้นในโลกโดยพระบรมศาสดา(เจ้าชายสิทธัตถะ) เป็นผู้ทรงค้นพบอมตะธรรมอันวิเศษ โดยมีผู้เลื่อมใส สักการะแล้วยึดเป็นสรณะ ดังนั้นพระพุทธองค์ทรงมีพระสาวกตามเสด็จ และร่วมประพฤติปฏิบัติด้วยมากมาย จนเป็นพระอสีติมหาสาวกขึ้น ซึ่งท่านมหาสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ทรงไว้ในความเป็นเอตทัลคะในด้านต่างๆกัน ได้แก่ พระสารีบุตรทรงความเป็นยอดเยี่ยมทางปัญญา พระโมคคัลลานะทรงความเป็นยอดเยี่ยมทางอิทธิฤทธิ์ (ในพระพุทธศาสนานั้นผู้ที่สำเร็จญาณสมาบัติได้ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ย่อมแสดงอิทธิฤทธิ์ได้หลายอย่างเป็นอเนกประการ อิทธิฤทธิ์เหล่านี้เรียกว่า อิทธิปาฏิหาริย์เป็นการกระทำที่สามัญชนไม่สามารถจะกระทำได้ ดังมีหลักฐานปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมากมาย) ซึ่งพระพุทธเจ้านั้นพระองค์ทรงไว้ด้วยคุณ 3 ประการคือ

  1.   พระเมตตาคุณ
  2.   พระปัญญาคุณ
  3.   พระบริสุทธิคุณ

ดังนั้นพระเถระผู้มีญาณสมาบัติก็มักจะใช้ฤทธิ์ของท่านช่วยมนุษย์ และสัตว์โลกซึ่งถือเอาหลักพระเมตตาคุณ เป็นการเจริญรอยตามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระบรมศาสนานั้นเอง

เครื่องรางของขลัง

เครื่องราง – เครื่องลาง

คำว่าเครื่องรางกับเครื่องลางคำใดจึงเป็นคำที่ถูกต้อง ซึ่งในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานระบุว่าเครื่องรางหมายถึงเครื่องป้องกันภัยที่ทำสำเร็จด้วย ราง หรือ ร่อง แต่สำหรับนักนิยมสะสมเครื่องรางระดับสากลนิยมที่จะเรียกว่าเครื่องลางมากกว่า โดยหมายถึงเครื่องที่ใช้เกี่ยวกับโชคลาง เครื่องคุ้มครอง ปกป้อง กันภัย เพราะแต่เดิมนั้นมนุษย์ทำของเช่นนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่เรียกว่า ลางหรือสิ่งป้องกันภัย อันจะเกิดในอนาคต ให้แคล้วคลาด นั่นเอง.

พระปิดตา พิมพ์ปั้นลอยองค์ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

การสร้างพระปิดตาของ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

การสร้างพระปิดตาของ หลวงพ่อแก้วนั้น โดยปกติแล้ว หลวงพ่อแก้ว ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยละเอียดรอบคอบ ท่านเป็นผู้เห็นการณ์ไกล กล่าวคือ ในขณะที่ท่านสอนบาลีไวยากรณ์อยู่นั้น ท่านก็ได้เก็บเอาผงที่ลบการเรียนภาษาบาลีซึ่งเขียนเป็นอักษรขอม ที่มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ แล้วท่านก็จะนำผงอักขระที่ได้จากการลบ มาผสมกับผงพระพุทธคุณ หรือผงมหาราช เป็นต้น

เมื่อเอาผงดินสอ และผงพุทธคุณรวมเข้ากันแล้ว ท่านก็เอาเกสรดอกไม้ต่างๆ ตลอดจนใบไม้ เปลือกไม้ และเนื้อไม้ มาบดให้ละเอียดเป็นผง แล้วจึงนำมาผสมกับผงอักขระ(ผงลบ) เอาน้ำข้าวเหนียวมาผสมทำให้เหนียว จึงเอากดลงในแม่พิมพ์ที่ทำจากหินมีดโกน ก็สำเร็จเป็นองค์พระ

พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เนื้อผงพุทธคุณ

พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว

พระปิดตา หลังแบบ หลวงพ่อแก้ว

กล่าวกันว่าพระปิดตาที่ หลวงพ่อแก้ว สร้างในยุคแรกๆนั้น ท่านสร้างด้วยผงพุทธคุณ สีออกขาวก็มี สีออกเหลืองอ่อนบ้างก็มี และส่วนผสมที่สำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่งคือ “ไม้ไก่กุก” ซึ่งถือเป็นของหายากมาก ทางด้านพุทธคุณนั้นนับว่าเป็นมหาเสน่ห์ มหานิยมสูง ยิ่งถ้าได้พระอาจารย์ที่มีอาคมแก่กล้าปลุกเสกแล้ว จะเป็นของเข้มขลังดีที่ประเสริฐยิ่งนัก

 

 

ระหว่างการสร้างพระปิดตาของ หลวงพ่อแก้ว นั้น จะมีพระภิกษุสามเณร และชาวบ้านทั้งชายและหญิง มาร่วมมือกันตลอดเวลาในการสร้าง ตอนหลังเกิดชอบพอ รักไคร่กัน เป็นเพราะเสน่ห์มหานิยมที่เกิดจากผงพุทธคุณ ที่สร้างพระติดมือ ติดขันน้ำ และปลิวตกลงไปในโอ่งน้ำ เมื่อต่างคนต่างดื่มกิน จึงเกิดความรักไคร่กันขึ้น

เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น หลวงพ่อแก้ว จึงได้เปลี่ยนวิธีการผสมเนื้อพระเสียใหม่ โดยการนำเอาผงพุทธคุณ ผสมคลุกเคล้ากับรักให้เหนียวแน่น ไม่หลุดง่าย เพื่อกันไม่ให้ผงปลิว หรือติดมือ ติดขันน้ำ จึงเกิดเป็น “พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก” ในยุคต่อมา

หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี

พระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

พระปิดตาของ หลวงพ่อแก้วนั้น มิใช่ว่าจะมีพุทธคุณดีทางด้านเมตตามหานิยมเท่านั้น แม้แต่ทางคงกระพันชาตรี ก็มีอยู่มิใช่น้อยเช่นกัน วงการพระเครื่องเมืองไทย จึงได้จัดพระปิดตา ของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ให้อยู่ในชุดพระเบญจภาคี เป็นอันดับ 1 และได้กำหนดแบบพิมพ์มาตรฐานสากล ได้รับความนิยมมากเช่น: พระปิดตา พิมพ์ใหญ่ , พระปิดตา พิมพ์กลาง , พระปิดตา พิมพ์เล็ก และ พระปิดตา พิมพ์ปั้นลอยองค์

ส่วนด้านหลังพระทั้ง 3 พิมพ์แรกนี้ เท่าที่พบเห็นมี 3 แบบ 3 พิมพ์ คือ

1. เป็นแบบหลังรูปพระปิดตา เรียกว่า “หลังแบบ”

2. แบบหลังยันต์

3. แบบหลังเรียบ หรือ “แบบหลังเบี้ย”

ส่วนเนื้อพระเป็นเนื้อผงพุทธคุณล้วน มีสีขาว สร้างยุคต้นซึ่งหายากมาก ต่อมาสร้างเป็นเนื้อคลุกรัก มีสีค่อนข้างดำ , นอกจากนี้หลวงพ่อแก้ว ท่านได้สร้างพระปิดตาเนื้อตะกั่วผสมปรอท แจกแก่ชาวบ้านที่ไปช่วยขนไม้(ซุง) ต้นใหญ่ๆนำมาสร้างกุฏิ เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว ป้องกันคุณไสย และภูตผีปีศาจ เพราะเชื่อกันว่าผีกลัวปรอทมาก พระปิดตาเนื้อตะกั่วผสมปรอทของหลวงพ่อแก้วที่ว่านี้ก็คือ “พระปิดตาแลกซุง” สำหรับแจกแก่ชาวบ้านที่ไปช่วยกันลากไม้ซุงมาให้วัดนั้นเอง.

พระปิดตา พิมพ์ปั้น

และมีอีกพิมพ์ที่ถือเป็นพระปิดตาแลกซุง ก็คือ พระปิดตา พิมพ์ปั้นลอยองค์ แต่จะบอกว่าเป็นวัดเครือวัลย์วัดเดียวไม่ได้ เพราะพิมพ์ปั้นนี้มีออกทั้งจากวัดเครือวัลย์ และที่ออกจากวัดปากทะเล อำเภอบ้านแหลม จังหวัดชลบุรี , พิมพ์ปั้นลอยองค์ ทุกองค์จะมีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนกัน เพราะจะปั้นทีละองค์ แต่จะมีลักษณะคล้ายๆกัน.

พระปิดตาเนื้อผงแท้ๆของ หลวงพ่อแก้ว นั้น เนื้อต้องละเอียด เพราะเมื่อท่านตำส่วนผสมเสร็จแล้วก็จะนำมากรอง จากนั้นใช้น้ำรักเป็นตัวประสาน บ้างก็ทารักแดง เรียกว่า “ชาดจอแส” เป็นรักมาจากเมืองจีน ปัจจุบันไม่มีแล้ว และใช้เม็ดรัก ซึ่งได้จากต้นรักที่เป็นมงคลนาม มาตำลงไป บางองค์จะเห็นเม็ดรักโผล่ขึ้นมา อาจเป็นสีดำหรือสีแดง แต่จำนวนไม่มาก ถ้ามีรักหรือทองไปปิดบัง ทองและรักต้องเก่ากว่า ซึ่งดูยาก หากคนที่มีความรู้เรื่องรักและทองจะได้เปรียบ เพราะพระปิดตา ของ หลวงพ่อแก้ว หายากกว่าพระสมเด็จ วัดระฆัง เพราะมีการสร้างจำนวนน้อยกว่า แต่สร้างในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นคือเมื่อประมาณ 150 – 180 ปีมาแล้ว.

 

มีดหมอ

มีดหมอ “เทพศาสตรา” สยบไพรี

“มีดหมอ” เป็นเครื่องรางของชลังยุคเก่า ที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา สำเร็จขึ้นด้วยไสยเวทชั้นสูงของเกจิอาจารย์ ผู้แก่กล้าวิชาอาคม ถือเป็นเทพแห่งศาสตราวุธทั้งปวง ใช้พกพาติดตัวสำหรับคุ้มครองป้องกัน และสยบทำลายศัตรู ที่ว่าคุ้มครองป้องกันนั้น คือ ใช้ป้องกันคุณไสย ของอาถรรพ์ ที่มีผู้กระทำขึ้นด้วยจิตคิดร้าย ทั้งยาสั่งยาดำ ใช้กำราบขับไล่มนต์ดำภูตผีปีศาจ และยังเป็นอาวุธสยบไสยเวทของศตรู ” แม้แต่คนที่มีวิชาอาคมหนังเหนียว อยู่ยงคงกระพันฟันไม่เข้า หากถูกแทงด้วยมีดหมอ ก็จะต้องเลือดตก ”

ตำราการสร้างมีดหมอ

ตำราการสร้างมีดหมอมีหลายสำนัก ต่างกันทั้งกรรมวิธี วัสดุส่วนประกอบของตัวมีด พิธีกรรมการปลุกเสก ตามตำราสร้างที่ตกทอดสืบกันมา กล่าวกันว่า ใบมีดตีขึ้นจากโลหะอาถรรพ์หลายชนิด ได้แก่ ” ตะปูสังฆวานร ” เป็นตะปูตะกั่วใช้ตอกยึดเครื่องไม้ภายในโบสถ์ เมื่อมีการรื้อโบสถ์เก่า ก็จะเก็บตะปูไว้ เพราะถือว่าผ่านการสวดปฏิโมกข์ ของพระสงฆ์ภายในโบสถ์มาเป็นเวลายาวนาน , ” ตะปูตอกโลงศพ ” เมื่อสัปเหร่อเผาศพพร้อมโลง แล้วจะเก็บตะปูพร้อมกับ ” เหล็กที่ใช้ทิ่มผี “(เหล็กใช้เขี่ยศพในขณะเผา) นำไปให้หลวงพ่อสร้างมีดหมอ.

นอกจากนี้ ส่วนประกอบของมีดหมอยังมี ” บาตรแตก ” ใช้ลงอักขระยันต์ ” เหล็กน้ำพี้ ” เป็นเหล็กชั้นดีสมัยโบราณใช้ทำดาบออกศึก เมื่อรวบรวมไดครบแล้ว หาฤกษ์ยามบวงสรวงก่อน หลอมกับเหล็กชนวนแล้วตีเป็นใบมีด เบ้าหลอมต้องลงอักขระยันต์ต่างๆ ช่างตีมีกต้องถือศีลนุ่งห่มผ้าขาว เมื่อหลอมโลหะตีเป็นแผ่นแล้ว จึงนำไปให้พระอาจารย์ผู้ปลุกเสกจารยันต์ ลงอักขระยันต์บนแผ่นโลหะ แล้วนำกลับไปหลอมใหม่ ตีเป็นแผ่นโลหะแล้วนำกลับไปให้อาจารย์จารแผ่นโลหะอีกครั้ง ทำเช่นนี้หลายครั้ง ตามแต่ตำรา จะเห็นว่า แม้แต่ขั้นตอนการรวบรวมโลหะ และตีใบมีด ยังยุ่งยากซับซ้อนขนาดนั้น การจัดสร้างมีดหมอทั้งด้าม จึงเป็นงานละเอียดลึกซึ้ง ” พระอาจารย์ผู้สร้าง ต้องทรงคุณวิเศษแก่กล้าเอกอุ จึงจะสามารถประสิทธิ์ประสาทมนตราอาคม ให้มีดหมอทรงมหิทธานุภาพ อย่างเลีศล้ำเป็นพิเศษได้ ”

ปั้นเหน่ง ราหูอมจันทร์

วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง อาจารย์เฮง ไพรยวัล

อาจารย์เฮง ท่านเป็นเลีศในหลายๆด้าน ทั้งไสย ทั้งศิลป์ และท่านยังเป็นที่ซี้ปึกกับ ครูเหม เวชกร , ครั้งหนึ่งครูเหมออกปากว่า…”หน้าพรหม ไม่มีใครเขียนให้เห็นได้ทั้งสี่หน้า ที่อาจารย์เฮง คนเดียว ที่เขียนได้ ” ท่านสร้างวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง.

อาารย์เฮง ไพรยวัล

วัตถุมงคล อาจารย์เฮงไพรยวัล

เครื่องรางของขลัง อาจารย์เฮง สร้างไว้มีหลายอย่างคือ พระพรหมจะทำด้วยงากำจัด งากำจาย โลหะเงิน ทอง นาค ตะกรุดมหาจักรพรรดิ แหวนโลหะ ปลัดขิก ผ้ายันต์ ภาพวาสรูปเทพ ลงอักขระคชสีห์ สิงห์ เสือ เนื่องจากอาจารย์เฮง เป็นผู้อัจฉริยะในด้านการช่างอย่างน่าอัศจรรย์ ดังจะเห็นได้ว่า เครื่องรางของขลังแต่ละชิ้นนั้น ศิลป์วิจิตรงดงาม หากสังเกตรอยจารลายมือสวยมาก การเขียนภาพต่างๆ มีมิติลึกซึ้ง การแกะสลักได้สัดส่วน ยากที่จะมีอาจารย์ใดเสมอเหมือน ด้านพุทธคุณเป็นที่เลื่องลือว่าสุดยอดของคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย กันภูตผีปีศาจ เพิ่มพูนในเรื่องของเมตตามหานิยม เช่น เหรียญพรหมสี่หน้า อาจารย์เฮง มีหลายรูปแบบทั้ง หน้าโล่ห์ ทรงกลม ข้าวหลามตัด และเครื่องรางของขลังอีกหลายรูปแบบ…เป็นที่นิยมมานาน ของแท้นั้นหาดูไม่ง่ายนัก…

อาจารย์เฮง ไพรวัล

หุ่นพยนต์แบบสาน อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

อาจารย์ปี่ หรือ อาจารย์สมาน แจ้งเจริญ ปัจจุบันท่านอายุ 76 ปี (พ.ศ.2563) ท่านเป็นศิษย์ของอาจารย์ลอย โพธิ์เงิน ฆราวาสจอมขมังเวทแห่งเมืองกรุงเก่าเจ้าของหุ่นพยนต์ที่เล่นหาค่านิยมสูงมาก  อาจารย์ปี่ผู้เป็นศิษย์สืบทอดวิชาหุ่นพยนต์เรืองฤทธิ์จากอาจารย์ลอย  เดิมทีอาจารย์ปี่ ท่านเป็นลูกเกษตรในเมืองกรุงเก่า บิดาของท่านเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์ลอย โพธิ์เงิน ซึ่งพ่อของท่านได้นำลูกชายไปฝากไว้กับอาจารย์ลอย แพของอาจารย์ผูกอยู่หน้าวัดพนัญเชิง หรือที่เรียกกันว่า วัดจีน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าวิชาอาคมมีจริงหรือไม่ สมัยเป็นเด็กอาจารย์ปี่จึงได้แอบดูและแอบฟังอาจารย์ลอยสวดมนต์ท่องคาถาผูกหุ่นพยนต์มานานกว่า10ปี และได้เห็นวิชามายาศาสตร์ในขณะที่แอบดู อาจารย์ลอยท่านเสกผ้าขาวม้าให้เป็นงู ยังความอัศจรรย์ให้เกิดขึ้น ในที่สุดอาจารย์ลอยได้ถ่ายทอดวิชาทำหุ่นพยนต์ การรักษาโรค การถอนคุณไสย เสกน้ำมนต์ให้คลอดลูกง่าย วิชามหาเสน่ห์ให้อาจารย์ปี่ โดยอาจารย์ปี่ ได้รับการครอบครูครอบวิชาจากอาจารย์ลอย  อาจารย์ลอยท่านเมตตาอาจารย์ปี่ในฐานะศิษย์รับใช้ใกล้ชิด.

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์สานอาจารย์ปี

การทำหุ่นพยนต์ของอาจารย์ปี่ ท่านทำหุ่นพยนต์มีความแตกต่างจากครูอาจารย์ของท่านอย่างเห็นได้ชัด การทำหุ่นแบบเดิมเริ่มจากเจาะแผ่นสังกะสี หรือฝากระป๋องนมให้เป็นรู และสอดตอกเข้าไป ดึงรูดออกมาให้คมของรูกระป๋องนม หรือสังกะสี รูดบังคับให้ตอกหรือไม้มีขนาดเท่ากันทั้งเส้น เมื่อนำตอกที่ผ่านกรรมวิธี รูดผ่านรูสังกะสีที่ว่านั้นมาสานเป็นหุ่น แนวสานตามขวางทุกๆแนวต้องมีขนาดเท่ากันทั้งเส้น วัสดุที่ผ่านการรูดนี้ จะมีลักษณะมนน้อยๆ เมื่อได้รูปปั้นตามต้องการแล้วก็นำมาประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ เรียกว่า “ผูกหุ่นพยนต์” คือการเอารูปหุ่นที่ได้แล้วมาเป่าเสกคาถา ปลุกด้วยคาถาหมวดนิพพานสูตร ให้ภูตสิงสถิตยังหุ่นพยนต์ ปลุกเสกเสร็จแล้วจะมีวิธีการเลี้ยงรักษาและอธิษฐานใช้หุ่นพยนต์.

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

อานุภาพหุ่นพยนต์

พยนต์ แปลว่า สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น เช่น หุ่นพยนต์ เป็นรูปหุ่นจำลองของคน สัตว์ เทวดา ยักษ์ หรือภูตต่างๆ โดยอาศัยรูปแบบของหุ่นให้แสดงออกซึ่งลักษณะของสิ่งนั้นๆ ตามความต้องการ ส่วนอานุภาพของหุ่นพยนต์นั้นดีทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ขอสิ่งใดๆ(ไม่เกินกรรม)ก็มักสมปรารถนาเสมอ เสมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวคอยคุ้มครองเรา เวลารู้สึกมีภัยใกล้ตัว เรายังสามารถนึกถึงหุ่นพยนต์เหมือนเป็นมิตรให้ยามยาก และยังช่วยในเรื่องป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสยทั้งปวงได้อีกด้วย.

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดอาจารย์ลอยจอมฆมังเวท

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่ วัดโพธิ์เงินสุวรรณ ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดอาจารย์ลอยจอมฆมังเวท

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่

หุ่นพยนต์อาจารย์ปี่

สนใจสอบถาม LINE ID : 0613608638

 

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

ผงจินดามณีของ หลวงปู่บุญ นั้นนับว่าเป็นสุดยอดของ วัดกลางบางแก้ว เนื่องจากยาจินดามณี เป็นตำรับยาที่มีคุณวิเศษสารพัด และมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ตำรับยานี้เป็นของตกทอดคู่มากับวัดกลางบางแก้ว ว่ากันว่า ตำรับยาฉบับนี้เป็นของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา และตกทอดสู่ วัดกลางบางแก้ว.

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

ตำรับยาฉบับนี้เป็นสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดาร และอนุภาพอัศจรรย์ยิ่ง เท่าที่ข้อมูลได้มาคือ หลวงปู่บุญ ท่านสร้างผงยาจินดามณีไว้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือ ในช่วงปี พ.ศ. 2435 และ ปี พ.ศ. 2476 ในส่วนของลูกประคำ(เม็ดประคำ)สร้างไว้ไม่มากนัก ท่านจะสร้างมอบให้เฉพาะแก่ลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิดท่าน รวมทั้งคหบดี เจ้านายผู้หลักผู้ใหญ่ชั้นสูงที่มาอุปถัมถ์ วัดกลางบางแก้ว เหตุที่สร้างน้อยเนื่องมาจาก มวลสารที่นำมาสร้างผงยาจินดามณีนั้นหายากมาก.

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี

พุทธคุณลูกประคำผงจินดามณีเด่นทางด้าน เมตตามหานิยม โดยภาวนา ” นะชาลิติ ” มักจะให้โชคลาภ

ภาวนาด้วย ” พุธโท  โม  เมตตา  นะ  ไฝ่หา ” จะมีคุณวิเศษทาง เมตตามหานิยม

นอกจากนี้ยังช่วยรักษาโรคภัย กันคุณไสย ยาสั่ง เสนียดจัญไรได้ดีมาก ใครมีไว้บูชาถือเป็นบุญนำพาวาสนาส่งยิ่งนัก.

ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
ลูกประคำ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงจินดามณี
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว

เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง

เบี้ยแก้หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง

เบี้ยแก้หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง ลูกขนาดใหญ่เท่าเบี้ย หลวงปู่เจือ   หลวงปู่เหรียญ ท่านพายเรือจากนนทบุรีไปบางกอกน้อย เพื่อไปเรียนวิชาสร้างเบี้ยแก้กับ หลวงปู่รอด วัดนายโรง แต่ท่านใช้พิสมรใบลานผูกใต้ท้องเบี้ยเพื่อไม่ให้เหมือนทับรอยครูบาอาจารย์  จากนั้นนำออกให้ลูกศิษย์ลูกหาใช้ติดตัวกัน

เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง

เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาของ หลวงปู่เหรียญ ว่าเบี้ยแก้ยุคต้นของท่านจะใช้เชือกปอป่านถัก และมีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งเดียว โดยการจารใบลานกับมือท่านเอง แล้วสารเป็นรูป ปลาตะเพียน ร้อยใต้ท้องเบี้ยอีกที ต่างจากสำนักอื่นๆ ,  หลวงปู่เหรียญ ท่านเป็นเกจิยุคเดียวกันกับ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว.

เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง
เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง
เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง
เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง
เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง


เบี้ยแก้ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง

สนใจกรุณาติดต่อ +66613608638

แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

แหวนพิรอดเก้ายอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี

แหวนพิรอดเก้ายอด มหามงคล หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

สร้างตามตำราโบราณ เช่นเดียวกันกับกำไลแขน แหวนพิรอด วัดบ้านทวน ตามตำราโบราณบันทึกไว้ว่าทำจากผ้าดิบห่อศพ หรือผ้ามัดตราสัง เป็นการใช้ผ้าสูตรเดียวกับของหลวงพ่อม่วงแห่งวัดบ้านทวน แต่เอกลักษณ์การขึ้นถักทำรูปแหวนแตกต่างกัน น่าจะมาจากการแลกเปลี่ยนวิชากันของพระเถราจารย์ทั้งสองท่าน เพราะทั้งสองเป็นพระเถราจารย์ ที่ถือว่าเป็นที่สุดของ จ.กาญจนบุรี.

แหวนอักขระต้องวัดหนองบัว เป็นของมงคลที่คนเก่าแก่โบราณเป็นที่เล่าขานกันมาว่า…

” ถ้าชาตินี้ยังไม่ตาย ต้องหามาคู่กายให้ได้ “

อาทิเช่น หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูคู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์ พิศมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะทอง แหวนอักขระตัองวัดหนองบัว ลูกแร่ที่วัดบางไผ่ หนุมานพ่อสุ่นร้ายหาใดปาน ทุกสิ่งล้วนเป็นมงคลทั่วทุกคนควรแสวงหา ติดกายยามญาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพาน.

หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

วัตถุมงคล หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบมากมายเช่น พระปิดตาภควัมบดี เนื้อผงสีขาว และสีดำ , ตะกรุดโลกธาตุ ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ตะกรุดโทน ลูกอมฟั่นด้ายสายสิญจน์ ลูกอมหนังหน้าผากเสือ สร้อยประคำ มีดหมอ สิงห์งาแกะ เชือกคาดเอว และ แหวนพิรอด ที่ให้พุทธคุณทางด้านการป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ช่วยเสริมดวง คงกระพัน แคล้วคลาด กันไฟ เป็นต้น.

แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว
แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61

งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ 

ปี 61

งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่านมหาเสน่ห์ ผสมผงพรายอาถรรพ์ ฝังเม็ดตาดำตาแดง เครือร้อยปลามหาเสน่ห์ พันด้วยด้ายสายสิญจน์อาถรรพ์ อาจารย์ดม หลานวงษ์ แห่งบุรีรัมย์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ ผู้สืบทอดตำรับสายวิชามหาเสน่ห์จากคณาจารย์ผู้เรืองเวทย์ อาทิเช่น หลวงปู่ผาด หลวงปู่ชื่น และ หลวงปู่แวนกาย

งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61

มวสารที่ใช้สร้าง

มวลสารมหาเสน่ห์สุดเข้มขลัง ได้แก่ ผงว่านมงคล 108 รวมถึงว่านมหาเสน่ห์ต่างๆเช่น ว่านพญาเทครัว ว่านดอกทอง ว่านเกราะเพชรไพฑูรย์ ว่านศิวลึง ว่านไพลดำ ว่านขมิ้นขาวปัดตลอด ว่านเครือร้อยปลา ว่านช้างผสมโขลง ว่านเครือเขาหลง(เครือหมาหลง) ว่านพญาเต่าเรือน ว่านอุดมโชค ดินอาถรรพ์เจ็ดโป่งเจ็ดป่าช้า ดินภูเขาไฟ ดินจากแดนศักดิ์สิทธิ์อีกหลายแห่ง เป็นต้น ใต้ฐานฝังตะกรุดคู่อาถรรพ์ คือ ตะกรุดหัวใจนครวัด ตะกรุดบาตรอังกอร์ และอาบด้วยสีผึ้งอาถรรพ์

พุทธคุณมหานิยมสุดเข้มขลังทั้งในด้านให้โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย เสี่ยงโชค  เป็นมหาเสน่ห์แก่เพศตรงข้าม หญิงเห็นหลงรัก ชายเห็นหลงใหล ผู้คนรอบข้างรักใคร่ อุปถัมภ์ค้ำจุน เจ้านายเอ็นดู ป้องกันภูติผีปีศาจ แก้คุณไสย

งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61

งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
อาจารย์ดม หลานวงษ์ บุรีรัมย์
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61
งั่งพรายมหาเสน่ห์ เนื้อว่าน อาจารย์ดม หลานวงษ์ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ แห่งบุรีรัมย์ ปี 61

 

สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา ปี 55

สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา

ตามประวัติความเชื่อเรื่องไม้งิ้วดำ เรียกได้ 3 ชื่อคือ ไม้พระยางิ้วดำ ไม้พญางิ้วดำ ไม้งิ้วดำ  แต่ส่วนใหญ่นิยมเรียก ไม้พญางิ้วดำ คือพญาของไม้งิ้ว ต้นงิ้ว พญาของต้นงิ้ว คือไม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบรรดาต้นงิ้ว ไม้นางพญา ที่เรียกกันเป็นนางพญาเพราะว่าไม้ออกเป็นสีดำ การดูไม้พญางิ้วดำ ตัวไม้จะออกสีดำทั้งหมด หากมีแซมไม้ ลายไม้ จะต้องออกเป็นสีชมพู ส่วนไม้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับไม้พญางิ้วดำคือ ไม้มะเกลือ ไม้ก็ออกเป็นสีดำลายแซมแดง จึงต้องสังเกตให้ดี และดูไม้ให้เป็น

สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 

 

สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา ปี 55

ไม้พญางิ้วดำตามความเชื่อของเรื่องลึกลับไสยศาสตร์คนเล่นของเล่ากันว่าต้นพญางิ้วดำเป็นต้นไม้วิเศษมีเทพธิดารักษาต้นไม้พญางิ้วดำนี้จะเกิดยืนต้นอยู่ในป่าลึกโดยเฉพาะป่าที่มีอาถรรพ์เร้นลับ ยากที่มนุษย์จะเข้าไปถึงได้ง่ายๆเนื้อไม้มีสีดำสนิทแข็งแกร่งมาก โบราณจารย์เล่าว่า หลายร้อยปีทีเดียวจึงจะเกิดมีขึ้นสักต้นหนึ่งจัดเป็นของทนสิทธิ์มหาวิเศษชั้นดีชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลาอันควรเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาดูแลจะพลีต้นยืนตายพราย ทิ้งไว้ให้เพื่อรอผู้มีบุญญาบารมีนำไปทำประโยชน์ เพื่อพระศาสนายิ่งหากกลายสภาพเป็นหิน (คต) ก็ยิ่งมีพลังอานุภาพแรงกล้าเป็นทวีคูณ อานุภาพดีเด่นทางมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสยมนต์ดำได้สารพัด เหมาะสำหรับทำเป็นวัตถุมงคลต่างเช่น มีดหมอ ดาบ พระเครื่อง ไว้สำหรับล้างอาถรรพ์ มนต์ดำต่างๆดีนัก หรือเอาไว้ปราบผี วิญญาณร้ายเข้าสิงสู่คนได้ชงักนักแล

คาถาบูชา พญาไม้งิ้วดำ

ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวดังนี้ :

นิจจังกาลัง ปิโยโหติ

นิมิตตัยยัง มะหาตะมัง

มะหาเตชัง พะเล

เตโช ชะยะตุ ชะยะมังคะลัง

– การบูชาไม้พญางิ้วดำมักบูชาด้วยดอกมะลิ

สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา ปี 55
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา ปี 55
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ปี 55 อ. ครบุรี จ. นครราชสีมา 

 

พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร

พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
พิธีพุทธาภิเษกเมื่อ 5 เมษายน 2555 ที่สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยได้ไม้พญางิ้วดำที่กลายเป็นหินนำมาจาก จ.สกลนคร
จากจังหวัดสกลนคร ที่แกะเป็นพระสมเด็จในพิธีพุทธาภิเษกคั้งนี้
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา ปี 55
สมเด็จนางพญาไม้งิ้วดำกลายเป็นหิน สำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต จ. นครราชสีมา ปี 55

[ecwid widgets=”productbrowser search minicart” categories_per_row=”3″ grid=”10,3″ list=”60″ table=”60″ default_category_id=”27984190″ default_product_id=”0″ category_view=”grid” search_view=”list” minicart_layout=”MiniAttachToProductBrowser”]

 

 

หลวงปู่พา อธิวโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรัมย์ ศรีสะเกษ

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น”ไตรมาสเปิดโลก”หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี (พระครูวรกิจจานุรักษ์) วัดบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ

พระเถราจารย์ ผู้ทรงฤทธิ์มหาโชค มหาลาภ หนุนดวงชะตา ศิษย์เอกหลวงพ่อมุม วัดประสาทเยอเหนือ ผู้สำเร็จอภิญญาสืบสานพระธรรม 9 โกฏิของสำเร็จลุนแห่งนครจำปาสัก ผู้เป็นธรรมทายาทแห่ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ผู้วิเศษแดนศรีสะเกษ

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์

พระคาถาบูชา

ตั้ง นโม 3 จบ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่มุม วัดประสาทเยอเหนือ , หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน , หลวงปู่พา อธิวโร วัดบัวระรมย์ ( แล้วสวดพระคาถาว่า)

โอม  คะลุก  คะลุก  กูจะปลุกทั้งนะ  กูจะปลุกทั้งโม  กูจะปลุกทั้งอิติปิโส  นโมพุทธายะ  อาปามะจุปะ  ทีมะสังอังขุ  สังวิทาปุกะยะปะ  อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ( ท่อง 8 จบ )

สิทธิกิจจัง  สิทธิกัมมัง  สิทธิการิยะตถาคโต  สิทธิเตโช  ชโยนิจจัง  สิทธิลาโภนิรันตรัง  พุทธะสิทธิ  ธัมมะสิทธิ  สังฆะสิทธิ  สารพัดสิทธิ  ภวันตุเม ( ท่อง 1 จบ )

จากนั้นก็อธิษฐาน จะขอพรหรือจะขอสิ่งใด ก็ตั้งจิตให้มั่นแล้วอธิษฐานแต่ในสิ่งดีงาม  จะบังเกิดผลสำเร็จสมความมุ่งมั่นปรารถนา , พระคาถานี้เป็นพระคาถาเก่าแก่โบราณที่ หลวงปู่มุม วัดประสาทเยอเหนือ ได้ประสิทธิ์ประสาทพระคาถานี้ไว้ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ถึงหลายประการคือ :

เปิดดวงชะตา จากดวงชะตาที่เคยตกอับ หากได้อาราธนาสวดมนต์ภาวนาหมั่นให้ทาน รักษาศีลแล้ว จะมีดวงชะตาที่รุ่งโรจน์ เจริญรุ่งเรือง  สามารถบรรเทาวิบากกรรมที่มาจากอดีตชาติ และ ชาติปัจจุบันให้บรรเทาบางลง โดยถ้าหากหมั่นทำความดี ละเว้นความชั่วแล้วเป็นประจำตลอดชีวิต  บุญกุศลก็จะส่งผลให้มีแต่ความโชคดีเจริญรุ่งเรือง มีเมตตามหานิยมแก่บุคคลทั้งหลาย ทั้งเป็นที่รักแก่เจ้านาย-ญาติผู้ใหญ่ จะให้ความอุปถัมภ์ค้ำชู  การทำมาค้าขายก็เจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในอาชีพตน มีตบะเดชะสง่าราศี เกิดปัญญาดี เรียนเก่ง ทำงานเก่ง ความจำดีเลิศ อีกทั้งยังปกป้องคุ้มครองอุบัติเหตุเภทภัย อันตรายนานัปการ ทั้งยังป้องกันภูตผีปีศาจ อำนาจคุณไสยมนต์ดำทั้งปวง และยังสามารถระงับดับโทสะของบุคคลที่เป็นศัตรูให้กลับร้ายกลายเป็นดี อย่างน่าอัศจรรย์

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น”ไตรมาสเปิดโลก”หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์ นี้ ท่านได้ประจุพลังพุทธาคมที่เน้นไปในทางเปิดโลก เปิดตาที่สาม เปิดดวงชะตา เปิดเส้นทางในอาชีพกิจการงาน เปิดช่องทางและโอกาศในการทำมาค้าขาย เปิดโชคลาภให้เข้าสู่ชีวิต ซึ่งหากตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม หมั่นภาวนาก็จะเปิดปัญญาให้สว่าง จะทำกิจการหน้าที่ใดๆ ก็จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเสมือนหนึ่งมีแสงสว่างนำทางชีวิต และ ผู้ที่พกพา ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น”ไตรมาสเปิดโลก”หลวงปู่พา บูชาติดตัวไปไหนมาไหน ก็เสมือนหนึ่งว่ามีบารมี หลวงปู่พา และครูบาอาจารย์แผ่รังสีบามมีคุ้มครองตัวเราไปทุกแห่งหนด้วยเช่นกัน.

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์

การจัดสร้างล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น”ไตรมาสเปิดโลก”หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์ 

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น”ไตรมาสเปิดโลก”หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์ นี้ จัดสร้างเนื่องในโอกาสพิเศษมากๆ เพราะครูบาอาจารย์ของท่านสั่งนักสั่งหนาว่า ถึงมีวิชาอาคมแก่กล้า มีสมาธิแข็งแกร่งมากสักปานใด หากอายุยังไม่ถึง 60 ปี อย่าได้จัดสร้างวัตถุมงคลที่เป็นรูปเหมือนตัวเองเด็ดขาด ซึ่งท่านก็เคร่งครัดในคำสั่งของครูบาอาจารย์ของท่านมาก เพราะท่านได้จัดสร้างล็อกเก็ตรูปท่านรุ่นแรกในอายุถึง 84 ปี อีกทั้งยังจัดสร้างจำนวนน้อย คือ :

1. ล็อกเก็ตรูปไข่ ขนาดใหญ่พิเศษ สูง 2.5 นิ้ว จำนวน 199 องค์ ฝังตะกรุดเงินนะเศรษฐี 3 ดอก

2. ล็อกเก็ตรูปไข่ ขนาดจัมโบ้ สูง 1.5 นิ้ว จำนวน 999 องค์ ฝังตะกรุดเงินนะเศรษฐี 1 ดอก

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์

ด้านหลังล็อกเก็ตอุดมวลสารเก่าของหลวงพ่อมุม วัดประสาทเยอเหนือ , มวลสารเก่าของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน และ ติดจีวร เกศา ฝังสะเก็ดแร่อุกาบาต พร้อมทั้งตอกโค๊ตและหมายเลขกำกับที่แผ่นเงิน โดยท่านได้ปลุกเสกมาตลอดไตรมาส ปี 2553 แล้วยังปลุกเสกต่อเรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันที่ 9 มกราคม 2554 เรียกได้ว่าปลุกเสกกันแบบข้ามปี.

ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
หลวงปู่พา อธิวโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรัมย์ ศรีสะเกษ
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
หลวงปู่พา อธิวโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรัมย์ ศรีสะเกษ
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
ล็อกเก็ตรุ่นแรก รุ่น"ไตรมาสเปิดโลก"หลวงปู่พา อธิโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรมย์
หลวงปู่พา อธิวโร อายุ 84 ปี วัดบัวระรัมย์ ศรีสะเกษ

กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช

กะลาตาเดียวแกะราหู

กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก ของมงคลที่ธรรมชาติให้มา เป็นของทนสิทธิ์จากพืช ให้พุทธคุณดีทางด้าน เมตตา มหานิยม คงกระพันชาตรี ป้องกันภูติผีปีศาจ

ลักษณะของกะลาตาเดียว จะมีปากที่เป็นรูงอกหน่อหนึ่งลูก และจะมีตาส่วนที่บุ๋มลงไปเพียงหนึ่งตาเท่านั้น โดยจะมีเส้นสาแหรกแบ่งกะลาออกเป็นสองส่วน ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้ยังไม่ผ่านพิธีกรรม(ปลุกเสก) ก็สามารถใช้เป็นของมงคลได้ ตามความเชื่อมาตั้งแต่โบราณ

แต่ถ้าหากนำมาแกะเป็นรูปพระราหู แล้วนำเข้าพิธีปลุกเสก ผ่านพิธีกรรมอย่างถูกต้อง ก็จะเป็นของขลังที่ทรงพลานุภาพ ให้กับผู้บูชาได้สมปรารถนาทุกประการ

กะลาตาเดียวเป็นของหายากพอสมควร เพราะว่ากะลามะพร้าวทั่วไป เป็นร้อยเป็นพันลูก จึงจะพบสักลูกสองลูก ถ้าผู้ใดพบเจอก็นับว่าโชคดีของผู้นั้น คนโบราณจะใช้กะลาตาเดียวตัดครึ่งใบ นำส่วนที่มีตาเดียวไว้ใช้ตักข้าวสารหุงกิน เพื่อความอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีอดอยาก ในการทำมาหากิน ประกอบอาชีพให้กับตนเองและครอบครัว

กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช

พระราหู

ตามตำรามหาทักษาพยากรณ์กล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคนใดก็ตาม ถูกพระราหูเสวยอายุ หรือ พระราหูแทรก ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อน มีเคราะห์ต่างๆ เพราะพระราหูเป็นเทพอสูร เป็นเทพบาปเคราะห์ แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้น การเสวยอายุหรือแทรกอายุไป ก็ยังแผลงฤทธิ์ตอนเข้าหรือตอนออกด้วย ในทักษาจึงกำหนดไว้ว่า เมื่อพระราหูเสวยอายุหรือแทรก จะต้องทำพิธีต้อนรับพระราหู และตอนที่พระราหูจะออก ต้องทำพิธีส่งพระราหู หาไม่แล้วจะเดือดร้อน จนไม่อาจประคองตัวได้ ถึงกับล้มละลาย หรือประสบกับภัยพิบัติต่างๆกับตัวเอง และบุคคนรอบข้างได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่บุพราจารย์โบราณ ใช้บรรเทาฤทธิ์ของราหูได้เป็นอย่างดี คือ กะลาตาเดียวนั่นเอง.

พุทธคุณกะลาตาเดียวแกะราหู

กะลาตาเดียวแกะราหู ที่ผ่านพิธีกรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะให้พุทธคุณด้าน :

– คงกระพันชาตรี เป็นมหาอุดอย่างยอดเยี่ยม

– เป็นเมตตามหานิยม แก่ผู้พบเห็น การเข้าหาเจ้านาย เจรจาค้าขาย หรือ เพศตรงข้าม

– เป็นมหาลาภ ช่วยดึงดูดเงินทองให้ไหลมาเทมา (ไม่มีอดอยากแก่ผู้บูชา ทุกอาชีพ ทุกการงาน)

– ป้องกันภูติผีปีศาจ แก้คุณไสย มนต์ดำ กันคุณผีคุณคน เสนียดจัญไรต่างๆ ได้ดีที่สุด

กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช

 

กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช
กะลาตาเดียว ผลมะพร้าวมหัศจรรย์ที่หายาก เป็นของมงคลที่ธรรมชาติให้มา ของทนสิทธิ์จากพืช

พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

ไม้ไผ่มหาอุด หรือ ไม้รวกยอดด้วน เป็นของทนสิทธิ์ตามธรรมชาติ ที่หาได้ในป่าใหญ่ จะเอาเฉพาะกอไผ่ที่ยืนเขียวชะอุ่มโดดเดี่ยว ในขณะที่กออื่นถูกไฟป่าเผาไหม้หมด

ปกติไม้ไผ่ไม้รวก หรือ ไม้ไผ่สีสุกจะมีลำต้นที่กลวงตลอดปล้องหนึ่ง แต่ถ้าไม้ไผ่มีลักษณะต้นตลอดทั้งลำเรียกว่า “ไม้ไผ่มหาอุด” หรือ “ไม้รวกยอดด้วน” ซึ่งเป็นของดีในตัว เข้าตำราของทนสิทธิ์ หรือ ของมงคล ที่มีฤทธิ์ในตัวเช่น เขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือกลวง แร่เหล็กไหล…เป็นต้น

ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก ท่านทำจากไม้ไผ่ที่ขึ้นอยู่กลางกอที่ถูกไฟป่าเผาไหม้ แต่ลำไผ่ที่เลือกนั้น ยังยืนต้นเขียวอยู่โดดเดี่ยว โดยไม่สะทกสะท้านต่อการเผาไหม้ของไฟเลย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งนัก ที่ไผ่กอนี้จะต้องมีดีตามตำราของทนสิทธิ์ และต้องเป็นของวิเศษ ที่มีอนุภาพกันไฟ เป็นมหาอุดอย่างแน่นอน, พระอาจารย์กอบชัย ท่านเสกและจารมือตะกรุดทุกดอก ด้วยตัวท่านเอง.

พุทธคุณเด่นด้าน มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตา มหานิยม แก้คุณไสย

ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

 

ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก
ตะกรุดไม้รวกยอดด้วน อุดผงพุทธคุณ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จ.ตาก

เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง พร้อมกระดาษสารพัดกัน

เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง

เบี้ยแก้พรายปรอท จะมีวิธีสร้างที่ค่อนข้างแตกต่างกว่าสำนักอื่นๆเพราะจะเน้นอิทธิคุณทางอำนาจกายสิทธิ์ของธาตุปรอท โดยต้องนำปรอทธาตุมาทำให้เก่ง ( ปลุกเสกเรียกรูปนามให้เสมือนมีชีวิต ) จากนั้นเทปรอทธาตุลงในหอยเบี้ย เสร็จแล้วนำน้ำมันพรายหัวว่านไม้มงคลตามตำรา ผงพุทธคุณทั้ง 5 และผงพรายกุมารอุดปิดฝา พร้อมบริกรรมคาถาตามสูตร แล้วปลุกเสกให้ได้ 5 จันทร์ 7 เสาร์ 9 อังคาร เรียกว่าครบเครื่องตามตำรา

สำหรับพุทธคุณของ พรายปรอท อ.ชินพร(ลูกศิษย์คนใกล้ชิดหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่) ท่านกล่าวไว้ว่า พระเครื่องจะมีข้อจำกัด ในการไปยังที่อโคจร แต่เครื่องรางบางประเภทสามารถแสดงฤทธิ์ได้เต็มกำลัง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม พรายปรอท จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องราง ที่มีพุทธานุภาพ ป้องกันอาถรรพ์ คุณผี คุณคน ทั้งยังเป็นเมตตามหาเสน่ห์ครบเครื่อง

เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมารคลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง พร้อมกระดาษภาพถ่ายหลวงปู่ทิม ปั้มตราวัด สะภาพสวย

เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง

เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง พร้อมกระดาษสารพัดกัน
เบี้ยแก้พรายปรอท อุดผงพรายกุมาร คลุกชันโรง ปี 55 หลวงพ่อสาครวัดหนองกรับ จ.ระยอง พร้อมกระดาษสารพัดกัน

ภาพพิธีบวงสรวงและภาพพุทธาภิเษก

[ecwid widgets=”productbrowser search” categories_per_row=”3″ grid=”10,3″ list=”60″ table=”60″ default_category_id=”28914365″ default_product_id=”0″ category_view=”grid” search_view=”list” minicart_layout=”MiniAttachToProductBrowser”]

 

พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารยบ์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55

พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารย์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55

มวลสารที่ใช้ในการสร้าง พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารย์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55 ได้แก่ :

– ฉนวนอาถรรภ์  เหล็กทิ่มผี  ตะปูสังฆวานร  ตะปูโรงผี

– แผ่นฉนวนยันต์  ยันต์โสฬส  ยันต์นเรศวรปราบหงสา  ยันต์แปดทิศ  ยันต์เกาะเพชร  ยันต์หุ่นพยนต์  ยันต์นะ108  ยันต์เมตตามหานิยม  ผงว่านดอกทอง  ว่านจูงนาง  ว่านเสน่ห์จันทร์ขาวแดง  ลูกสวาท  ว่านเพชรน้อย  ว่านกิ้งกางดง และ ว่านร้อยแปด

พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารยบ์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55

วิธีบูชาพ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์

ก่อนนำเข้าบ้าน บอกกล่าวกับเจ้าที่บ้านด้วยธูป 5 ดอก บอกกล่าวกับเจ้าที่ว่าลูกได้นำพ่อพยนต์ดำ ก็ขออนุญาตนำเข้าบ้าน เข้ามาเพื่อช่วยป้องกันคุ้มครองรักษาทรัพย์สิน คุณผี คุณคน คุณไสย์ ทำมาค้าขายให้โชคลาภ

– การบูชาก็ให้กับข้าว เหล้าขาว กุ้งพล่า ปลายำ เป็นของเซ่น ถวาย

คาถาถวาย ( ตั้งนะโม 3 จบ )

สะอะนิโส  สุสิ  สิสัง  เอตัง  สะติง  (ถ้าไม่มีเวลาก็ให้เรียกกินกับเราด้วย)

คาถาว่า  สุสิ  มุสิ  กะระ  สุสิ  (แล้วก็เรียกชื่อพ่อพยนต์ดำ)

  • พุทธคุณช่วยป้องกันสัตรูมิให้เข้าบ้าน , แคล้วคลาดปลอดภัย , รักษาทรัพย์สิน , เมตตามหานิยม , ช่วยดลจิตดลใจคน , ป้องกันคุณผี คุณคน คุณไสย์

พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารยบ์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55
พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารยบ์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55
พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารยบ์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55
พ่อพยนต์ดำโลหะอาถรรภ์ พระอาจารยบ์ศุภสิทธิ์ วัดบางน้ำชน กรุงเทพฯ ปี 55

ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ

ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ

ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ กันการกระทำย่ำยี เนื้อตะกั่วทุบ จารมือ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ จังหวัดตาก ปี 2561

พุทธคุณ :

คนปกติที่ใช้พกติดตัวก็จะช่วยป้องกันไสยศาสตร์ มนต์ดำ ภูติผีปีศาจ , ใช้แช่น้ำแล้วดื่ม เมื่อคราสงสัยว่า เรากินของไม่ดี หรือ หน้ามืดตามัว อาจโดนคุณต่างๆ ( เชือกตะกรุดยาวประมาณ 30 ซม. สามารถผูกเป็นส้อยคอได้ )

วิธีใช้ : ยกมือพนมเหนือหัว ระลึกถึงครูบาอาจารย์ แล้วเอาตะกรุดแช่น้ำดื่มกิน ของร้ายจะกลับไปโดนคนที่ทำเรา

คาถาว่า : “อะวะอะอิชะอุ” ท่อง 3 จบ

ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ

ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ
ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ
ตะกรุดป้องกันคุณไสย์ พระอาจารย์กอบชัย วัดแม่ยะ